ตำนานสยองขวัญทั่วโลก : ตำนานผีดูดเลือด หรือ Elizabeth Bathory แห่งปราสาท Cachtice Castle

ตำนาน ตำนานผีดูดเลือด

   สำหรับใครที่ได้เคยอ่านหรือเคยดูหนังเกี่ยวกับเรื่องเล่าสยองขวัญ หรือประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมในสมัยก่อนนั้น เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินหรืออาจจะคุ้นหูเกี่ยวกับตำนานของอลิซาเบธ ผู้ที่เป็นฆาตกรสาวที่ได้ฆ่าเหล่าเด็กสาวบริสุทธิ์และนำเลือดของพวกเธอมาอาบเพื่อที่จะรักษาร่างกายของเธอให้เป็นอมตะกันบ้าง แต่มีใครพอจะรู้เกี่ยวกับประวัติและที่มาของราวของเธอมาแล้วบ้าง วันนี้แอดจึงได้นำตำนาน ตำนานผีดูดเลือด หรือ Elizabeth Bathory แห่งปราสาท Cachtice Castle ที่จะทำให้คุณได้รู้จักเกี่ยวกับตัวอลิซาเบธมากขึ้น ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นยังไง อ่านกันได้เลยครับ บรือออ….    เรื่องราวสยองขวัญนี้ที่ได้เกิดเป็นตำนานเกี่ยวกับผีดูเลือดแห่งปราสาทแอคติส ที่ทุกคนได้รู้จักกันนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศสโลวาเกียนี่เอง ก่อนจะเข้าเรื่องเกี่ยวกับ “ตำนานผีดูดเลือด” หรือ “อลิซาเบธ บาโธรี่” ที่เป็นที่รู้จักกันนั้นต้องบอกก่อนว่า ปราสาทแอคติสแห่งนี้ เป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ตรงบนภูเขาที่บริเวณเนินผาที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านแอคติส ปราสาทแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงกลางของศตวรรษที่ 13 สาเหตุที่ได้สร้างปราสาทแห่งนี้นั้นก็เพื่อที่จะให้เป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับอลิซาเบธกับคู่หมั้นของเธออย่างท่านเคาท์ ฟีเรนซ์ นาดาสดิ้ (Ferenc Nádasdy) ซึ่งหลังจากการแต่งงานระหว่างอลิซาเบธกับท่าเคาท์ ปราสาทแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของพวกเขา ซึ่งนอกจากนั้นก็ยังเป็นทั้ง เรือนจำ และยังเป็นสถานที่ที่ได้เกิดเรื่องสยองขวัญน่ากลัวและยังเป็นเรื่องที่ทำเอาประวัติศาตร์จำเป็นต้องระลึกไว้ถึงความอำมหิตของอลิซาเบธที่ได้ทำมา     สำหรับเรื่องราวความน่ากลัวหรือที่ตำนานน่ากลัวที่ได้เกิดขึ้นนั้นบางคนจะรู้จักกันในนามตำนานผีดูดเลือด ซึ่งนั่นได้มาจากความน่ากลัวของอลิซาเบธ บาโธรี่ นี่เองที่เธอนั้นเป็นทั้งเจ้าของปราสาทแอคติสแห่งนี้และยังเป็นเจ้าของของความน่ากลัวที่เกิดขึ้น     เคาท์เตส อลิซาเบธ บาโธรี่ นั้นเป็นผู้หญิงที่เกิดมาในประเทศฮังการี เธอมีความฉลาด เธอมีร่างกายและหน้าตาที่สวยงามและเธอยังเกิดมาในตระกูลชั้นสูงอีกด้วย นั่นจึงเป็นที่หมายตาของหลายๆ ตระกูลที่ต้องการแต่งงานกับตัวเธอ แต่นอกเหนือจากที่ว่ามาทั้งความฉลาดและหน้าตาที่สละสวยแล้วนั้น ข้างในภายในนิสัยของเธอนั้นช่างน่ากลัว […]