เรื่องเล่าสยองขวัญ : เดินสายคลินิกร้าง

เรื่องเล่าสยองขวัญต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญส่วนตัวที่เกิดขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่ง เรื่องเล่าสยองขวัญต่อไปนี้นั้นเป็นเรื่องครั้งแรกที่ตัวเขาได้เจอกับวิญญาณและนับได้ว่าเป็นครั้งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ มันเป็นเรื่องราวที่ตัวเขานั้นได้มีโอกาสไปเดินสายล่าท้าผี สถานที่ๆหนึ่ง โดยมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตัวเขาได้มีโอกาสทำงานอยู่รายการผีรายการหนึ่ง ด้วยความที่ตัวเขานั้นไม่เคยเจอผีหรือวิญญาณ เขาจึงขอตัวอาสาไปเดินสายบ้านร้างกับทางรายการที่เขาทำอยู่ในตอนนั้น จนกระทั่งตัวเขาได้มีโอกาสเดินทางไปบ้านร้างแห่งหนึ่ง โดยโจทย์ที่เขาได้รับนั้นคือการ เดินสายคลีนิคร้าง ที่อยู่ในจังหวัดพิจิตร และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ… วันนั้นเขากับทางทีมงานก็ไปทั้งหมดประมาณ 4 คน เขาได้เดินทางออกจากกรุงเทพตอนเวลา 4 โมงเย็น ตอนนั้นฝนก็ตก กว่าจะไปถึงก็เป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆและพวกเขาก็ได้รอเวลาประมาณ 5 ทุ่มแล้วค่อยเข้าไปที่สถานที่คลินิคกัน เพราะว่าการเดินสายนั้นควรที่จะเดินสายกันในช่วงเวลาดึกถึงจะดีที่สุด พอถึงเวลาประมาณ 5 ทุ่มพวกเขาก็ขับรถเดินทางมุ่งหน้าไปที่คลินิคแห่งนั้นทันที เส้นทางจากแรกๆจะมีทั้งเสาไฟและความสว่างตลอดทาง แต่พอขับไปเลื่อยๆเลี้ยงซ้ายขวา สักพักกลายเป็นความมืดและซอยแคบๆมาแทน ยิ่งขับไปก็ยิ่งสัมผัสได้แต่ความมืดตลอดทาง พอขับรถเข้าไปประมาณ 30 นาทีก็ไปถึงคลินิคร้างแห่งนี้ ตอนเดินทางไปถึงแรกๆเขาก็ไม่เห็นตึกว่าอันไหนคือคลินิคร้างกันแน่ เห็นแต่ต้นไม้รกร้างเต็มไปหมด แต่พอสังเกตและใช้ไฟส่องดีๆก็สามารถเห็นตึกขนาดใหญ่อยู่หลังต้นไม้อันใหญ่ได้ มันเป็นตึกที่มีลักษณะ 3-4 ชั้น พอเขาได้เห็นปุ๊ป เขาก็รู้สึกถึงเข่าอ่อนทันที เพราะสภาพไม่เหมือนกับที่เขาคิดเลย มันน่ากลัวกว่ามาก พอไปถึงเขาก็จัดแจงของกับเพื่อนๆ พอถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน พวกเขาก็เริ่มที่จะเดินสายกัน ก็เดินเข้าไปกันทั้งหมด […]
เรื่องเล่าสยองขวัญ : ขอนอนด้วยนะ

เรื่องเล่าสยองขวัญต่อไปนี้ มีชื่อเรื่องว่า “ขอนอนด้วยนะ” โดยเรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวเธอนั้นมีชื่อว่า นุ่น โดยพื้นเพแล้ว เธอนั้นเป็นคนที่เกิดและใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แต่พอโตขึ้นมาเธอก็ต้องย้ายไปทำงานอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างที่เธอทำงานที่นั่นนั้น เธอก็ได้อยู่พักอาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มของเธอ มันก็เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เธอทำงานและอยู่กับแฟนของเธอที่นี่ จนมีอยู่วันหนึ่งเธอนั้นได้ทะเลาะกับแฟนของเธอ และมันทำให้เธอตัดสินใจ ย้ายออกมาจากบ้านแฟนเพื่อออกมาอยู่หอพัก จนเธอมาได้หอพักแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงบริเวณหลังโรงเรียน และนี่จึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญครั้งนี้… ในวันที่เธอติดต่อหอพักแห่งใหม่ที่เธอจะไปอยู่ ตอนแรกนั้นทุกอย่างก็ดูปกติ ทั้งลักษณะรอบๆของตัวหอพักและบรรยากาศ เธอนั้นโชคดีมากเพราะว่าหอพักหอนี้เหลืออยู่ห้องเดียวเพียงเท่านั้นด้วยและราคาก็ยังไม่แรงจนเกินไป เธอก็ได้บอกกับเจ้าของหอไปว่าเธอตั้งใจจะอยู่เรื่อยๆถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ ซึ่งเจ้าของหอก็พูดกับเธอยืนยันว่าหอนี้ไม่มีอะไรอย่างแน่นอนเพราะว่าเป็นหอที่เพิ่งเปิดมาได้ปีกว่าๆเพียงเท่านั้น หลังจากคุยกันไปได้สักพักก็ทำการจ่ายเงินและเธอก็เข้าอยู่ห้องพักทันที โดยหอพักที่นี่นั้นมีลักษณะเป็นเหมือนห้องแถว เป็นห้องที่หันหน้าเข้าหากัน แต่ละฝั่งจะมีฝั่งละ 8 ห้อง ห้องที่เธอได้นั้นเป็นห้องเบอร์ 9 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องเบอร์ 1 ที่เจ้าของหอนั้นนอนพักอยู่ห้องนี้ และตรงหน้าของเบอร์ 1 ที่เจ้าของหอพักนอนอยู่นั้นก็มีศาลพระภูมิอยู่หน้าห้องด้วย ครั้งแรกที่เธอได้เข้าไปอยู่ที่นั่นเธอก็ได้จุดธูปไหว้ศาลพระภูมิก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเจ้าของหอได้แนะนำเธอไว้แบบนั้นตั้งแต่แรก เธอได้เข้าไปอยู่หอพักแห่งนี้นั้นได้ 7 เดือนทุกอย่างก็เป็นปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 8 ตอนนั้นเป็นช่วงเดือนเมษายน ที่จังหวัดสุรินทร์มีฝนตกหนักแรงมากช่วงนั้น ทำให้ของที่ตั้งอยู่หน้าศาลพระภูมิล้มไปไม่เป็นทิศเป็นทาง และช่วงนั้นเจ้าของหอพักไม่อยู่ประจำที่หอด้วย เขาไปทำธุระที่ต่างจังหวัด เธอจึงตัดสินใจไปทำความสะอาดศาลให้ ระหว่างที่เธอกำลังทำความสะอาดศาลอยู่นั้น สายตาเธอก็ได้ไปเห็นตุ๊กตานางรำอยู่คู่หนึ่งตรงศาล ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเธอคิดอะไรอยู่ อยู่ๆเธอก็พูดออกมาโดยไม่คิดว่า “เป็นนางรำ จะมารำให้ใครดูกันคะ […]
6 สถานที่ หลอนจัด เฮี้ยนสุด ณ กลางกรุงเทพฯ

ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ยุคก็ตาม คนเรามักจะทิ้งบางสิ่งบางอย่างที่มีความสำคัญไว้ณ ตรงสถานที่นั้นๆเสมอ ทุกที่มักจะมีประวัติหรือเหตุการณ์ให้เราได้จดจำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ไม่ดีหรือดีก็ตาม เรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นพลังงานหรือที่เรารู้จักกันในนามว่าผี ก็ย่อมมีอยุ่ในทุกๆที่เช่นกัน วันนี้เราจะพาไปรับชม 6 สถานที่ หลอนจัด เฮี้ยนสุด ณ ใจกลางกรุงเทพ 1. Ghost Tower ตึกผีสิง Ghost Tower หรือ สาทรยูนิคทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) หรืออีกชื่อที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ “ตึกร้างสาทร” เป็นตึกมี 49 ชั้น ซึ่งโดนพิษเศรษฐกิจในช่วงปี 1997-1998 ทำให้ตึกนี้ไม่สามารถสร้างให้สำเร็จได้ ตัวตึกจึงกลายเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักผจญภัยเข้ามาทำเป็นจุดถ่ายรูปแนวโลดโผน และได้มีชื่อตึกใหม่คือ Ghost Tower หรือ ตึกผีสิงมาในปี 2556 เนื่องด้วย ตัวโครงการที่จัดสร้างอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า ซึ่งจะหนีไม่พ้นเรื่องความเชื่อว่าอาจมีอาถรรพ์ ทำให้เกิดเรื่องแต่สิ่งไม่ดี โครงการไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาในปี 2557 มีคนเสียชีวิตการฆ่าตัวตายภายในตัวตึก ยังไม่หมดแค่นั้นยังมีคนพบศพปริศนาที่ผูกคอตายในตึกอีกด้วย เหตุการณ์ต่างๆที่ ตึกร้างสาทรต้องพบเจอจึงทำให้สถานที่นี้เป็นจุดแลนด์มาร์กที่น่าขนลุกและน่ากลัวเป็นอย่างมาก 2. สุสานเด็กทารก 2002 […]
ตำนานลึกลับ >> ผีทหารญี่ปุ่นเฝ้าสมบัติ ณ วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง

คนในยุคก่อนนั้นจะมีสมบัติมากมายและจะขึ้นชื่อในเรื่อง หวงของ หวงสมบัติ ดังนั้นจึงต้องมีคนเฝ้าทรัพย์สมบัตินี้ จึงมี ปู่โสมเฝ้าทรัพย์มีหน้าที่คอยเฝ้าสมบัติคอยเป็นเจ้าที่พิทักษ์สมบัตินี้เอาไว้ วันนี้เราได้นำตำนานลึกลับที่มีเนื้อหาค่อนข้างคล้ายคลึงกับปู่โสมเฝ้าทรัพย์ เราไปตามรอยกันเลยดีกว่ากับเรื่อง ผีทหารญี่ปุ่นที่ได้นำสมบัติไปฝังไว้ในถ้ำภูเขาทอง แล้วทำการสละชีวิตเพื่อเฝ้าสมบัตินี้ เราจะมาเล่าประสบการณ์ของหญิงสาวนางหนึ่งที่ นางจะมาเล่าถึงตำนานลึกลับของถิ่นกำเนิดบ้านเกิดของนางเอง ซึ่งได้ฟังมาจากแม่ของนางเอง เป็นเรื่องที่เล่าส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นเลยก็ว่าได้ ณ ที่นี้ขอตั้งชื่อนามสมมุติของหญิงสาวนางนี้ให้ชื่อว่า กี้ หลอนเป็นชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่บ้านปากคลอง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง หมู่บ้านปากคลองนี้เป็นชื่อที่หลายคนไม่ค่อยคุ้นกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าหมู่บ้านนี้จะตั้งอยู่ใกล้กับ “วัดเขาอ้อ” ซึ่งชื่อนี้หลายคนย่อมรู้จักกันดีเพราะในอดีตเป็นเหมือนกับสำนักเรียนวิชาไสยศาสตร์ ที่ดังระดับประเทศ ผู้คนที่มีชื่อเสียงเป็นศิษย์วัดนี้ก็คือ พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) ท่านขุนพัน ซึ่งเป็นตำรวจน้ำดีชื่อดังของวงการตำรวจไทย ในที่นี้เราไม่ได้มาเล่าถึงประวัติวัดเขาอ้อกันนะจ๊ะแต่ เราจะมาเล่าถึงตำนานลึกลับแห่งวัดภูเขาทอง ซึ่งถ้ามองไปในแนวระนาบเหนือใต้จะเห็นอยู่ในแนวเดียวกันเลยและที่ตั้งก็อยู่ไม่ไกลจากกันเลย วัดเขาอ้อมีลูกศิษย์ทั้งโจรและตำรวจดังนั้นไม่ว่าจะเสือหรือข้าราชการก็มักจะมาฝากตัวเป็นศิษย์กับวัดพอ่ท่านคล้าย และถ้าใครที่เป็นเสือถ้าต้องอาศัยอยุ่รวมกันกับ พวกเสือก็จะไปอยู่ตามตีนถ้ำภูเขาทอง ด้วยในยุคสมัยหนึ่ง ปี 2453 ที่มีการนำรถไฟเข้ามาใช้งานได้มีการตัดเส้นทางรถไฟให้ผ่านจังหวัดพัทลุงซึ่งเส้นทางนี้อยู่ใกล้กับภูเขาทอง ซึ่งการตัดเส้นทางผ่านเช่นนี้เป็นการนำความเจริญเข้ามาสู่หมู่บ้านอีกด้วย เมื่อปี 2484 กองทัพญี่ปุ่นได้ทำการยกทัพเข้าสู่ประเทศไทยของเราพร้อมๆกันถึง 7 จุด ก็จะมี สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบฯ นครศรี ปัตตานีและสงขลา ซึ่งทางรัฐบาลได้ยอมให้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน […]
“ผีเปรต” เป็นเรื่องจริงหรือแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมา ?

ถ้าพูดคำว่า “ผีเปรต” พวกเราก็มักจะได้ยินจากคนเฒ่าคนแก่บอกว่าเป็น ผีที่ตัวสูงเท่าต้นตาล มีลำแขนที่ยาว มือใหญ่เท่าใบลาน ปากเล็กเท่ารูเข็ม อาศัยอยู่ตามวัด ส่งเสียงร้องหวีดเล็กแหลมใครเพื่อขอส่วนบุญ พวกเราก็จะถามกันว่าแล้วทำอะไรถึงจะกลายเป็นผีเปรต ปู่ย่าตายายก็จะคอยสอนว่าพวกเราว่าอย่าเถียงพ่อแม่นะปากจะเล็กเท่ารูเข็ม อย่าตีพ่อแม่นะมือจะใหญ่เท่าใบลาน เราก็จะได้ยินกันประมาณนี้ แต่จากประสบการณ์ที่เคยได้ยินมามีคนที่เคยพบเจอผีเปรตคือ ชาวบ้านที่ออกหาปลาในช่วงเวลา เที่ยงคืนครึ่งเดินผ่านไปทางวัด พอเดินไปถึงช่วงท้ายวัดที่เป็นป่าช้าเขาได้ยินเสียงหวีดเล็กส่งเสียงลากยาวจนเสียดหู ชาวบ้านคนนั้นได้หันไปหาต้นเหตุของเสียงว่ามาจากไหนเขาก็ได้พบกับร่างหนึ่งที่ทรงเหมือนมนุษย์ที่มีตัวที่สูงใหญ่ เขาได้ยืนอยู่ระหว่างขาของผีเปรตตนนั้นพอดี พอเขาได้เห็นเช่นนั้น ทำให้ชาวบ้านผู้นั้นสติแตกวิ่งกลับบ้านนอนจับไข้หัวโกร๋นกันเลย ชาวบ้านที่พบเห็นผีเปรตไม่ได้มีแค่คนเดียว เรื่องราวการพบเจอเปรตถูกเล่ากันมาปากต่อปาก ตำนาน ความเชื่อ เรื่อง “ผีเปรต” ของคนไทย สังคมไทยของเรานี้ส่วนใหญ่จะเชื่อว่าผีเปรตนั้นมีอยู่จริง มี ทางพระพุทธศาสนาของเรายืนยัน นอนยันกันเลยว่าผีเปรตมีอยู่จริงเพราะบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก ผีเปรตตามความเข้าใจของสังคมคนไทย ที่มีหลักฐานจะพูดถึง เปรตวัดสุทัศนเทพวราราม จะมีประโยคเด็ดคือ “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ฯ” ซึ่งบอกถึงความหมายว่าทั้งสองสถานที่นี้จะมีแร้งกับผีเปรตเยอะ เนื่องด้วยในยุคเก่านั้นมีผู้คนตายเป็นจำนวนมากด้วยโรคห่า มีการนำศพไปทิ้งไว้เป็นจำนวนมากจนทำให้มี่แร้งมาที่วัดสระเกศเพื่อมากัดกินร่างที่ไร้ชีวิต ส่วนวัดสุทัศน์มีคนเคยเห็นเปรตอยู่ที่วัดซึ่งมีลำตัวสูงเท่ากับเสาชิงช้า ซึ่งในบริเวณนี้จะมีพราหมณ์มาจับกลุ่มอยู่กันเป็นจำนวนมาก ในยุคนั้นในหลวงรัชกาลที่ 6ได้ทรงตรัสเรียก “เปรตสะพานหัน” เอาไว้เรียกพวกขอทาน ผีเปรต มีความเชื่อต้นกำเนิดมาจากอินเดีย คือพวกเปรตเป็นจำพวกสัตว ในอบายภูมิของคนที่ตายไปแล้ว ภพภูมิของเปรตจะมีผู้ปกครองเป็น มหิทธิกา ลักษณะการแบ่งพวกนี้จะแยกด้วยผลกรรมของแต่ละตนว่าทำกรรมมาแบบไหน มีการจารึกเอาไว้เป็นเปตกถาด้วยซึ่งจะอยุ่ในสที่วัดพระเชตุพนฯแบ่งจำพวกเปรตออกเป็น […]
เรื่องเล่าสยองขวัญ : กูไม่เอาบุญ

เรื่องสยองขวัญในครั้งนี้มีชื่อว่า “กูไม่เอาบุญ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อตอนที่เธอนั้นมีอายุเพียงได้แค่ 22 ปีเท่านั้น เรื่องมันมีอยู่ว่าเช้าวันหนึ่งที่อยู่ในช่วงวันหยุดยาวของเธอนั้น ยายของเธอนั้นได้ขอร้องให้เธอพายายไปแวะที่บ้านสวนที่อยู่ต่างจังหวัดออกไป ยายของเธอนั้นอยากที่จะไปนอนพักที่บ้านสวนสัก 2-3 คืน บ้านสวนนั้นอยู่จังหวัดจันทบุรี และการไปบ้านสวนครั้งนี้ของเธอนั้นทำให้เธอถึงกับไม่สามารถลืมไปได้เลยว่าเธอนั้นเจอกับอะไรมา ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ… วันนั้นเธอได้เริ่มออกจากบ้านของเธอที่กรุงเทพช่วงเวลา 8 โมงเช้าและก็ได้เดินทางไปถึงที่บ้านสวนตอนช่วงเวลาประมาณเที่ยงวัน ซึ่งที่บ้านสวนนั้นมีบ้านของครอบครัวเธอที่กำลังเริ่มสร้างและบ้านของคนงานที่เฝ้าสวนที่อยู่ใกล้ๆกันแต่อยู่บริเวณด้านหน้าของสวน เมื่อไปถึง เธอจึงได้ไปแวะไหว้ศาลพระภูมิที่อยู่ภายในบ้านตามปกติอย่างที่เธอเคยไหว้มาทุกครั้งที่มาที่นี่ เธอก็ได้ไปไหว้ขอพรตามปกติ หลังจากนั้นเธอก็กลับไปที่ห้องนอนที่บ้านสวนเพื่อที่จะพักผ่อนเพราะเพลียจากการขับรถและรู้สึกไม่สบายด้วย ส่วนยายของเธอก็ไปคุยกับคนสวนใช้ชีวิตตามที่แกต้องการ ในตอนแรกนั้นที่เธอได้ให้สัญญากับยายของเธอเอาไว้ว่าเธอจะนอนกับยายของเธอที่บ้านสวน 2 คืนแล้วกลับพร้อมกัน แต่คืนนั้นเธอได้มีปากเสียงทะเลาะกับยายของเธอนิดหน่อย ทำให้เธอไม่อยากที่จะอยู่ต่อ จึงได้ตั้งใจจะกลับกรุงเทพก่อนในเช้าวันพรุ่งนี้ และเธอก็ได้โทรบอกพ่อของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอได้บอกให้พ่อของเธอมารับยายกลับเพราะเธอจะกลับก่อน เช้าวันต่อมาขณะที่เธอกำลังเตรียมตัวกลับก็เป็นเวลาประมาณ 8 โมงเช้า แต่เธอนึกขึ้นได้ว่าต้องซื่อของใช้ส่วนตัวให้ยายของเธอก่อนเพราะกว่าพ่อของเธอจะมาถึงก็ไม่รู้เมื่อไหร่ เธอจึงได้ขี่มอไซต์ไปซื้อของที่ร้านขายของที่อยู่ไม่ไกลออกไป ตอนขาไปที่เธอขับมอไซต์ไปนั้นทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่ขากลับระหว่างที่กำลังขับอยู่นั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงมอไซต์ที่มันมีความเหวี่ยงไม่คงที่ ด้วยความตกใจเธอจึงได้ชะลอรถและจอดเอาไว้ข้างทางก่อน และได้เช็ครถ แต่พอเช็คแล้วทุกอย่างก็ดูปกติดีไม่น่าจะมีอะไร เธอจึงขับรถต่อไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น หลังจากเอาของตั้งไว้ที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยเธอก็ขับรถกลับกรุงเทพทันที เมื่อถึงบ้านที่กรุงเทพก็พบว่าไม่มีใครอยู่บ้านเลย สงสัยว่าทุกคนคงเดินทางไปที่บ้านสวนแล้ว จึงทำให้เธอต้องอยู่บ้านเพียงคนเดียวเท่านั้น พอไปถึงบ้านด้วยความเหนื่อยเธอจึงรีบไปอาบน้ำและกลับมานอนเล่นที่เตียงเธอ ในขณะที่นอนเล่นอยู่นั้นเธอก็รู้สึกง่วงขึ้นมาและด้วยความเหนื่อยจึงทำให้เธอได้หลับไปอย่างง่ายดาย แต่ขณะที่หลับไปได้สักพักอยู่ๆเธอก็รู้สึกว่าเธออึดอัดรอบๆตัวเธอนั้นแน่นไปหมด หายใจไม่ออก ราวกับว่ามีคนมานอนเบียดเธออยู่ทั้งสองฝั่ง ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่ง น่าตาค่อนข้างน่ากลัว มีรูปร่างสูงใหญ่และอ้วนเป็นอย่างมาก […]
5 สิ่งสำหรับของมงคลสำหรับใครที่กำลังเข้าบ้านใหม่

วันนี้เราจะมีคุยกันเกี่ยวกับหลักฮวงจุ้ยก็แล้วกันนะครับ เรื่องราวของหลักฮวงจุ้ยนั้นถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว วันนี้จึงเป็นเรื่องราว 5 สิ่งสำหรับของมงคลสำหรับใครที่กำลังเข้าบ้านใหม่หรือซื้อบ้านใหม่มาก็ได้ ถ้าเป็นคนไทยปกติจะมีความเชื่อที่ว่าการเข้าบ้านใหม่หรือการเข้าที่พักใหม่นั้น ก็จะมีเรื่องของการนำพระเข้าไป ข้าวสาร อาหารแห้ง เกลือ พริกแห้งเอ่ย สิ่งของเหล่านี้ล้วนควรที่จะนำเข้าบ้านใหม่ทั้งสิ้น คนไทยเชื่อว่าจะมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ แต่สำหรับหลักฮวงจุ้ยของจีนนั้นต้องบอกไว้ก่อนว่าก็ต่างมีความเชื่อเยอะแยะเต็มไปหมดเช่นเดียวกัน แอดจึงได้รวบรวมเกี่ยวกับหลักความเชื่อของทางจีนมาให้ทุกคนได้อ่านกันในครั้งนี้นะครับ ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ… สำหรับอันดับแรกๆนั้นคือการที่คุณมีคนรู้จักหรือครอบครัว ญาติ มิตรสหายของคุณได้ซื้อบ้านใหม่และกำลังมีการทำบุญขึ้นบ้านใหม่กัน ถ้าคุณจะเดินไปด้วยตัวเปล่าก็คงไม่ดี และถ้าคุณอยากจะซื้อของอะไรสักอย่างเอาไว้ให้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีและอยากให้เขาประทับใจด้วย คุณก็ควรที่จะซื้อ พระสังกัจจายน์ ท่านคือพระพุทธรูปของจีนที่ลักษณะทรงอ้วนๆ เขามีความเชื่อกันว่าท่านจะมาช่วยเรื่องการสร้างความมั่งคั่งให้กับคนภายในบ้าน และการจะวาง พระสังกัจจายน์ นั้นก็ต้องดูเรื่องเกี่ยวกับทิศทางให้ดีด้วยเช่นกัน จะมาวางมั่วๆไม่ได้ การจะตั้งพระสังกัจจายน์นั้นควรที่จะตั้งที่ห้องรับแขก และก็รวมไปถึงถ้าเป็นไปได้ก็จะให้ตั้งตรงบริเวณห้องท่านข้าวด้วยเช่นกันเพราะเขาเชื่อว่าพระสังกัจจายน์เป็นตัวแทนของความสมบูรณ์ เวลาแขกไปใครมาและเวลามานั่งทานข้าวกัน ความมั่นคงมั้งคั่งอิ่มนัมสำราญจะได้มีไม่ขาดเลย นอกจากพระสังกัจจายน์ อันดับสองที่สามารถซื้อไปให้ได้ก็คือ เทพพระเจ้ากวนอู แต่มีการพูดกันว่าเทพเจ้ากวนอูส่วนมากนั้นจุดที่ตั้งนั้น จุดที่แนะนำให้วางไว้มากที่สุดก็คือตรงบริเวณที่เปิดบ้านมาก็ควรที่จะเห็นเทพเจ้ากวนอูเลย เพราะเค้าเชื่อกันว่าเทพเจ้ากวนอูนี่สามารถปกปักษ์รักษาและก็ยังสามารถป้องกันสิ่งที่ไม่ดีได้ อยากที่หลายคนคงรู้กันว่าเทพเจ้ากวนอูมักจะเป็นผู้ที่ไล่สิ่งไม่ดีออกไป สิ่งไม่ดีท่านก็จะไม่ชอบมากๆ โดยเทพเจ้ากวนอูก็จะมีอยู่ทั้งหมดสองปางคือ ปางอ่านหนังสือ โดยลักษณะของท่านคือท่านกำลังนั่งอ่านหนังสือ จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องของความรู้และกันเรียน อีกหนึ่งปางคือปางที่เป็นเงื้อง้าว ที่อยู่บนม้าบ้าง ให้ตั้งอยู่หน้าบ้านแบบว่าเปิดประตูปุ๊บก็สามารถเห็นได้เลย เอาไว้ป้องกันสิ่งชั่วร้าย สิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในบ้านได้ ต่อไปอันดับที่สาม อันนี้คนหลายคนจะชื่นชอบกันมาก นั่นก็คือกระดิ่งหรือพวงมาลัยที่เป็นรูปกังหันที่คนนั้นชอบซื้อมาแขวนกันไว้ […]
5 ข้อหลักวิทยาศาสตร์ที่ทำให้คนได้เห็นผีกัน

สำหรับในครั้งนี้นั้นแอดไม่ได้นำเรื่องราวสยองขวัญมาให้ทุกคนได้อ่านแต่อย่างใด แต่สำหรับวันนี้นั้นแอดได้นำเกี่ยวกับ 5 ข้อที่จะทำให้คนได้เห็นผีกัน ซึ่งแอดคิดว่าหลายๆคนคงสงสัยกันว่าทำไมเขาหรือเธอ หรือคนที่ได้เคยเจอเกี่ยวกับวิญญาณนั้นทำไมพวกเขาถึงได้เจอกันได้อย่างง่ายดายและนำเรื่องเล่านั้นมาเล่าให้เราได้ฟังๆกัน ซึ่งแอดก็ได้รวบรวมมาทั้งหมด 5 ข้อที่เป็นเหมือนกับสาเหตุที่ทำให้เราได้เห็นวิญญาณกันได้อย่างง่ายขึ้น จากคนที่ไม่เคยที่จะต้องมาเห็นวิญญาณเลยนั้นอาจจะต้องเห็นวิญญาณอยู่บ่อยๆเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับคนบางคนนั้นที่อาจจะยังไม่รู้เรื่องอะไรอาจจะคิดว่า ในช่วงเวลาที่พวกเขาเห็นวิญญาณนั้นอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่พวกเขาดวงตก บุญหอม กันจึงทำให้ง่ายต่อการพบเจอวิญญาณ แต่ในทางกลับกัน ทางวิทยาศาสตร์นั้นก็ได้มีการค้นหาเกี่ยวกับว่าทำไมคนเราถึงเห็นวิญญาณได้ โดยข้อมูลนี้นั้นได้มาจาก บีบีซี ไทย ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะสากลเป็นอย่างมาก ถ้าอยากรู้แล้วว่า 5 ข้อทั้งหมดนี้จะมีอะไรบ้าง ขอให้ตั้งใจอ่านกันให้ดีนะครับ บางทีสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเห็นวิญญาณก็ได้ บรื้อ… โดยข้อแรกที่มีการพูดกันนั้นก็คือ การที่คุณมีความผิดปกติในขณะที่คุณกำลังนอนหลับอยู่ ความผิดปกติในขณะที่กำลังนอนอยู่นั้นนำมาซึ่งทำให้คนนั้นสามารถที่จะเห็นผีได้ด้วย เขามีศัพท์ที่เรียกกันด้วยนั่นก็คือ ความฝันที่ขณะตื่น หรือภาษาอังกฤษเรียกกันว่า walking dream คนที่จะมีอาการเหล่านี้นั้นที่มักจะเจอกันบ่อย ก็คือการที่ตัวคุณนั้นได้ถูกผีอำ การถูกผีอำนั้นมันจะทำให้ร่างกายของคุณนั้นเหมือนกับเป็นอัมพาดไปสักพักนึงในขณะที่คุณนอนหลับอยู่ ตัวแข็ง ลืมตาไม่ขึ้น หรือแม้กระทั่งจะขยับปากเพื่อขอความช่วยเหลือนั้นยังเป็นได้ยากด้วยเช่นกัน ซึ่งการโดนผีอำนั้นก็เป็นเหมือนหนึ่งในสาเหตุหลักๆที่คนไทยพอเจอแล้วนั้นก็รู้ทันทีว่าพวกเขานั้นกำลังโดนผีหลอกอยู่ นี่ก็คือเป็นหนึ่งในการผิดปกติจากการนอน ข้อที่สองที่เป็นสาเหตุของการเห็นผีนั้นคือ เป็นภาวะที่คุณนั้นรู้สึกว่าคุณกลัวผีและสิ่งลึกลับอย่างรุนแรง เขามีการว่ากันว่าความรู้สึกกลัวที่มันฝั่งลึกอยู่ข้างในภายในจิตใจนั้นมันจะส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาทางรุนแรงในร่างกายของคนเรา มันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรานั้นสามารถที่จะเห็นภูติผีได้ โดยได้มีนักวิจัยผู้ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งได้เคยทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาได้ทำการวิจัยการปรากฏการเหนือธรรมชาติของอเมริกา เขาบอกว่าการที่เกิดปรากฏการที่เหนือธรรมชาติดังกล่าวนี้นั้น มันทำให้คนที่ได้พบเจอถึงกับมีอาการแพนิคหรือการตื่นตระหนกความกลัวความรุนแรง ความควบคุมไม่ได้จนเห็นเป็นภาพหลอนขึ้นมาแทน สำหรับคนไทยถ้าจะให้เข้าใจได้ง่ายๆเลยก็คือการที่ตัวเรานั้นเป็นคนจิตตกและเกิดอาการกลัวถึงขั้นขีดสุดมันทำให้เราจิตเปิดจนสามารถที่จะเห็นวิญญาณได้ง่ายกว่าคนที่เขามีจิตที่แข็งหรือไม่เชื่อเกี่ยวกับเรื่องของวิญญาณนั่นเอง สำหรับสาเหตุที่สามนั้นก็คือการที่คุณนั้นขาดอ๊อกซิเจนเป็นเวลานานๆ การที่คุณขาดอ๊อกซิเจนนั้นก็สามารถที่จะทำให้คุณนั้นสามารถเห็นผีได้เช่นกัน […]
ตำนาน “แม่ซื้อ” ความเชื่อโบราณ เทวดาคุ้มครองเด็กทารก

ในยุคก่อนจนมาถึงปัจจุบัน เน้นไปที่ตามต่างจังหวัดท้องถิ่น โดยเฉพาะทางภาคใต้ บ้านหลังไหนที่มีเด็กทารกแรกเกิด เรามักจะได้ยินคำว่า “แม่ซื้อ” กันอยู่บ่อยๆ แม่ซื้อคืออะไรละ มีใครรู้จักกันบ้าง ถ้าเป็นรุ่นปู่ย่าตายายจะรู้จักกันเป็นอย่างดีแต่ในปัจจุบันนี้กาลเวลาผ่านมาคนที่อยู่ในเมืองบางคนอาจไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้จักคำนี้กันแล้ว วันนี้เราไปเจาะลึกกับคำนี้เลย “แม่ซื้อ” เมื่อในสมัยยุคก่อนคนโบราณ การแพทย์ยังไม่ได้พัฒนาเหมือนยุคปัจจุบันนี้ ใครที่เจ็บป่วยก็จะมีแพทย์แผนไทยที่มีการรักษาด้วยสมุนไพร ส่วนใหญ่จะใช้กับผู้ใหญ่ ซึ่งถ้าทาราที่เกิดมามีอาการเจ็บป่วยไม่สบายเป็นโรคพิษไข้ชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่จะไม่มีการรักษาจึงทำให้ทารกเหล่านั้นเกิดการเสียชีวิตกันตั้งแต่แรกเกิดเลยทันที เหตุการณ์เช่นนี้จึงทำให้เกิดความเชื่อบางอย่างเกิดขึ้น ตำนานความเชื่อโบราณที่บอกผ่านกันมารุ่นสู่รุ่น “แม่ซื้อ” เป็นเทพเทวาที่คอยดูแลพิทักษ์รักษาเด็กตั้งแต่ทารกแรกเกิดไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วย แต่ก็จะมีบางความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปคือเชื่อกันว่า “แม่ซื้อ” ยังเป็นดวงจิตหรือผีที่คอยมีจิตริษยาใจอำมหิต จะตรงข้ามกับความเชื่อที่แล้วคือ แม่ซื้อจิตริษยานี้ไม่ได้ดูแลรักษาแต่จะมาทำร้ายให้เด็กทารกเกิดอาการเจ็บป่วยกนเลยทีเดียว แต่ก็จะมีบางความเชื่อว่า “แม่ซื้อ” หนึ่งตนเป็นได้ทั้งดีและทั้งให้โทษได้เช่นกันคือเชื่อกันว่า เทวดาที่จะคอยมาป้องกันรักษาตัวทารกแล้วยังแปลงกายยักษ์เป็นมารมาเล่นมาแกล้งกับตัวเด็กมากจนเกินความพอดี ทำให้เด็กทารกเกิดอาการหวาดกลัวไม่สบายตัวร้องไห้หนักจนเกิดอาการเจ็บป่วยลงในที่สุด ดังนั้นถ้าอยากให้เด็กทารกร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ จึงต้องจึงต้องมีพิธี “ทำแม่ซื้อ” หรือ “เสียแม่ซื้อ” แม้แต่เด็กทารกที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ก็ยังเข้าพิธีนี้เช่นกันเชื่อกันว่าเป็นการปกป้องหรือเสริมสิริมงคลให้กับตัวเด็กได้เช่นกัน ผลลัพธ์ที่จะได้จากการเข้าพิธีนั้นคือ อาการผิดปกติไม่ว่าจะเป็น การเจ็บป่วย การร้องหรืออาการสะดุ้งตกใจแบบไม่มีสาเหตุก็จะหายไปนั้นเอง ส่วนใหญ่แล้ว“แม่ซื้อ” ของประเทศไทยนี้ตามหลักฐานของแต่ละภูมิภาคก็จะไม่เหมือนกัน แต่ละพื้นที่จะรับอิทธิพลวัฒนธรรมพื้นบ้านนั้นๆที่ต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น ภาคกลาง มีความเชื่อว่า “แม่ซื้อ” เป็นเทวดาหรือภูตประจำตัวของเด็กทารกแต่ละคนสถิตอยู่ที่สวรรค์ โลก และ ท้องฟ้า มีทั้งหมด 7 […]
ตำนานปลาไหลเผือกแห่งโยนกนาคนคร เมืองล่มสลายหายไปเพียงข้ามคืนโดยพญานาค

สยามเมืองยิ้ม (ไทยแลนด์) ของพวกเราเป็นหนึ่งในประเทศที่มักจะมีเรื่องเล่าพื้นบ้านในแต่ละภาค นิทานปรัมปรา หรือตำนานที่กล่าวขานสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น เล่ากันปากสู่ปาก ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคไหน สถานที่ใดในพื้นแผ่นดินนี้มักจะมีประวัติความเป็นมา มีสิงศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ ณ ที่นั้นๆ ประวัติสถานที่มาที่ไป จะบอกได้ถึงชีวิตความเป็นมาของพื้นบ้านให้เราได้ศึกษากัน มีตำนานอยู่เรื่องหนึ่งที่ว่าพญานาคถล่มทำลายมืองโยนกนครจมลงไปสู่พื้นบาดาลเพียงข้ามคืน หลายคนอาจคิดว่าตำนานเรื่องนี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่พวกผู้ใหญ่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างประวัติของสถานที่นั้นๆ เรื่องราวความแค้นระหว่างพญานาคกับมนุษย์มันเกิดอะไรขึ้น แอดมินบอกเลยว่ามันไม่ใช่เพียงแค่นิทานหรือตำนานทั่วไปแน่นอน ตำนานเวียงหนองหล่ม อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย แอดมินจะบอกได้เลยว่าตำนานนี้ไม่เหมือนเรื่องทั่วไปของไทยเพราะเมือไม่นานมานี้มีการค้นพบปรากฏถึงหลักฐานหลายอย่างที่สอดคล้องกับเรื่องราวที่เขาได้เล่าสืบต่อกันมารุ่นสู่รุ่น บ่งบอกเอาไว้ว่า อณาจักรโบราณที่ล่มสลายจมหายไปสู่บาดาลกลายเป็นหนองน้ำอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นในสมัยโบราณที่เล่าต่อกันมา ตำนานนี้เขาได้เล่าว่า เมื่อนานมามากแล้ว กษัตริย์เจ้าเมืองแห่งนครไทยเทศ หรือ เมืองราชคฤห์ มีถิ่นที่ตั้งบริเวณทะเลสาบ “เอ๋อร์ไห่” หรือ “หนองแส” (ภาษาไทยลื้อไทใหญ่ที่แปลความหมายได้ว่าทะเลสาปที่มีน้ำท่วมล้น) ท่านได้ให้ราชบุตรได้แยกกันออกไปหาพื้นที่สร้างบ้านแปงเมืองของตนเอง ซึ่งหนึ่งในราชบุตรชื่อ สิงหนวัติกุมารได้พาเหล่าผู้คนอพยพออกจากเมืองนครไทยเทศ เจ้าสิงหนติราชกุมารได้มุ่งไปในเส้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เดินมาเรื่อย ท่านหาพื้นที่เหมาะสมที่สุดเพื่อจะสร้างบ้านเมืองขึ้นมาใหม่ จนมากระทั่งเดินทางมาถึงแคว้นสุวรรณโคมคำ ที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขงซึ่งที่นี้จะมีชาวลัวะได้อาศัยอยู่ที่บริเวณดอยตุง ซึ่งพวกเขาจะมีผู้นำที่ชื่อว่า “ปู่เจ้าลาวกุย”ซึ่งเจ้าสิงหนติราชกุมารท่านได้เจอกับพญานาคที่นี้ ได้มีพญานาคแปลงกายเป็นพราหมณ์นุ่งขาวห่มขาว เข้าไปทักทายกับพระองค์ เมือได้พูดคุยกันไปมาแล้วพญานาคได้รู้จุดประสงค์ของเจ้าชาย พญานาคจึงคืนร่างเดิมและได้แนะนำตัวเองว่าเป็นพญานาค เรามีสถานที่แนะนำให้พระองค์ได้สร้างบ้านเมืองเป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การสร้างบ้านแปลงเมืองตามประสงค์ของท่านรองรับประชาชนทั้งหมดได้ แต่มีข้อแม้ที่ต้องสัญญากับเราว่าถ้าท่านและประชาชนได้มาตั้งบ้านเมืองแล้วขอให้ชาวเมืองทั้งหมดอยู่ในศีลธรรมอย่างเคร่งครัดและต้องทำบุญอุทิศบุญให้เราอยู่สม่ำเสมอ เจ้าชายสิงหนติราชกุมารและเหล่าชาวบ้านยินดีรับข้อเสนอของนี้ พอพญานาครับรู้เช่นนั้นเขาก็ได้หายวับจากไป เจ้าชายและชาวบ้านก็ได้เดินทางไปที่พญานาคได้บอกไว้และตั้งเมืองขึ้นมา ชื่อว่า “เมืองนาคพันธุสิงหนตินคร” เป็นการนำชื่อของท่านเองกับชื่อพญานาคผสมกันขึ้นมา เจ้าชายก็ได้มีการขยายอำนาจปกครองจนไปถึงกลุ่มชนพื้นถิ่นเดิมทั้งหมด […]