ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปกี่ยุคก็ตาม คนเรามักจะทิ้งบางสิ่งบางอย่างที่มีความสำคัญไว้ณ ตรงสถานที่นั้นๆเสมอ ทุกที่มักจะมีประวัติหรือเหตุการณ์ให้เราได้จดจำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ไม่ดีหรือดีก็ตาม เรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นพลังงานหรือที่เรารู้จักกันในนามว่าผี ก็ย่อมมีอยุ่ในทุกๆที่เช่นกัน วันนี้เราจะพาไปรับชม 6 สถานที่ หลอนจัด เฮี้ยนสุด ณ ใจกลางกรุงเทพ
1. Ghost Tower ตึกผีสิง
Ghost Tower หรือ สาทรยูนิคทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) หรืออีกชื่อที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ “ตึกร้างสาทร” เป็นตึกมี 49 ชั้น ซึ่งโดนพิษเศรษฐกิจในช่วงปี 1997-1998 ทำให้ตึกนี้ไม่สามารถสร้างให้สำเร็จได้ ตัวตึกจึงกลายเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักผจญภัยเข้ามาทำเป็นจุดถ่ายรูปแนวโลดโผน และได้มีชื่อตึกใหม่คือ Ghost Tower หรือ ตึกผีสิงมาในปี 2556
เนื่องด้วย ตัวโครงการที่จัดสร้างอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า ซึ่งจะหนีไม่พ้นเรื่องความเชื่อว่าอาจมีอาถรรพ์ ทำให้เกิดเรื่องแต่สิ่งไม่ดี โครงการไม่ประสบความสำเร็จ ต่อมาในปี 2557 มีคนเสียชีวิตการฆ่าตัวตายภายในตัวตึก ยังไม่หมดแค่นั้นยังมีคนพบศพปริศนาที่ผูกคอตายในตึกอีกด้วย เหตุการณ์ต่างๆที่ ตึกร้างสาทรต้องพบเจอจึงทำให้สถานที่นี้เป็นจุดแลนด์มาร์กที่น่าขนลุกและน่ากลัวเป็นอย่างมาก
2. สุสานเด็กทารก 2002 ศพ ณ วัดไผ่เงินโชตนาราม
ผ่านมาแล้วเป็นเวลาถึง 10 ปี ที่ทางสำนักข่าวไทยรัฐได้รายงานข่าวถึงจุดที่พบศพเด็กทารกสูงมากที่สุดถึง 2,002 ศพ ณ วัดไผ่เงินโชตนาราม เขตบางคอแหลม เนื่องด้วยมีหมาตัวหนึ่งได้คาบถุงพลาสติกสีดำมาที่ตลาดแล้วทำการกัดถุงนั้นเพื่อจะเอาบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ภายในทำให้ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วตลาด คนที่เดินไปมาดูกับถึงต้องตกใจเป็นอย่างมากเพราะพบศพเด็กทารกแรกเกิดอยู่ภายในถุงพลาสติกนั้น
ได้พบศพทารกน้อย 2002 ศพ ที่โกดังเก็บศพหมายเลข 17 หลังจากคดีเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับสถานที่นี้มักจะได้ยินเสียงร้องของเด็กที่ฟังแล้วโหยหวน แถมมีคนถ่ายภาพติดวิญญาณของเด็กที่มีแต่คนลงความเห็นว่าความเฮี้ยนของเหล่าบรรดาเด็กๆที่ไม่ได้อยากตายแบบนีพวกเขาคงทุกข์ทรมานอย่างแน่นอนที่ไม่ได้มีโอกาสลืมตามาดูโลกสวยงามเช่นนี้
3. โศกนาฏกรรม ซานติก้าผับ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2551 ได้มีเหตุเพลิงไหม้ ณ ซานติก้าผับ ต้นตอของสาเหตุเกิดขึ้นจากการจุดดอกไม้ไฟทำให้เกิดสะเก็ดไฟส่งผลเป็นเหตุไฟไหม้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีมากกว่า 67 รายเนื่องด้วยทางซานติก้าไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยที่มาตรฐาน ตามความเชื่อแล้วซานติก้าผับนี้ได้สร้างทับอดีตที่เป็นกุโบว์เก่ามาก่อน (สุสานอิสลาม)
หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผ่านไป มีเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นมากมาย ตัวอย่างเช่น รปภ. ซึ่งเป็นคนเฝ้าอาคารได้เปิดเผยว่าระหว่างที่เขากำลังทำหน้าที่เฝ้ายามนั้นเขาได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ร้องเรียกเขาในช่วงกลางดึก เขาได้หันไปดูเห็นพบว่าเจอเงาเป็นผู้หญิงอยู่บนบริเวณชั้น 2 เนื่องด้วยเขาไม่ได้เป็นคนกลัวผี เขจึงได้เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 พบโครงกระดูกและนาฬิกาที่เก็บไปไม่หมด
4. ลิฟต์แดง ณ ธรรมศาสตร์
ย้อนไปวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ได้มีการกวาดล้าง นักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลในยุคสมัยนั้น ตำรวจตะเวนชายแดนได้บุกเข้ามาที่มหาลัยธรรมศาสตร์กับอาวุธที่ครบมือ ขณะนั้นนักศึกษาบางส่วนตัดสินใจที่จะหนีด้วยการใช้ลิฟท์จากการไล่ล่าแต่พวกเขาคิดผิดหนีไม่พ้นเพราะมีตำรวจอีกพวกที่รออยู่ด้านล่างพอลิฟท์เปิดพวกเขาก็สังหารจนทำให้ลิฟท์เต็มไปด้วยเลือดสีแดงของนักศึกษา
พอเรื่องราวจบลง มีการทำความสะอาดลิฟท์แต่ล้างเลือดเท่าไหร่ก็ไม่ออกเขาจึงทาลิฟท์ให้เป็นสีแดงสะเลย หลังจากเหตุการณ์นั้นได้มีคนเจอวิญญาณ หลอกหลอนเฮี้ยนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว นักศึกษาที่เสียชีวิตนี้พวกเขามีความแค้นอาฆาตเพราะไม่ได้รับความยุติธรรมกับพวกเขาเลย หาคนที่มารับผิดชอบกับเรื่องนี้ไม่ได้ดพวกเขาคงไม่เป็นสุขแน่นอน
5. ‘โค้งร้อย (สิบสอง) ศพรัชดา’
ในปี 2536 ตรงบริเวณหน้าศาลอาญาถนนจะเป็นลักษณะโค้งเกาะกลางจะมีต้นโพธิ์และศาลเพียงตาอยู่ โค้งนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยจนได้ได้ฉายาว่า “โค้งร้อยศพ” สิ่งที่ตามมาคือมีการผูกผ้าสามสีไว้ที่ต้นโพธิ์ตามสไตล์ความเชื่อของคนไทย มีการวางของเซ่นไหว้ด้วย เหล่าบรรดาผู้ประสบเหตุได้พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า มักจะเห็นเงาดำตัดหน้ารถแบบกะทันหัน จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุนั้นเอง
6. ผีรัฐประหารหลอกหลอนสังคมไทย
31 ตุลาคม 2549 นวมทอง ไพรวัลย์ ได้ผูกคอตายบนสะพานลอย ที่ถนนวิภาวดีรังสิต มีจดหมายลาตายซึ่งตามข้อความ เขาแสดงให้เราได้เห็นว่าเป็นการ พลีชีพ เป้าหมายที่เขาได้ฆ่าตัวตายนี้เพื่อเป็นการประชดรัฐประหาร ได้มีข้อความที่เขาฝากเอาไว้ว่า “สุดท้ายเขาขอให้ลูกและภรรยาภาคภูมิใจในตัวเขาชาติหน้าหวังว่าจะไม่เจอการปฏิวัติอีก
ที่มาข้อมูล