สวัสดีครับวันนี้ แอดนำเรื่องหลอนจากจังหวัดที่ดังในเรื่องทุเรียนมาฝาก นั่นก็คือ 5 เรื่องเล่าหลอนจากจังหวัดนนทบุรีมาให้กลุ่มคนชอบอ่านและชอบเสพเรื่องผีมาให้ได้หลอนไปด้วยกันก่อนนอนกันนะครับ ส่วนจะมีอะไรบ้างลองอ่านกันดูได้เลย
1. อาถรรพ์ดอกไม้สีแดง (ระดับความสยอง : 7/10)

เรื่องเล่านี้ได้นำมาจากรายการ The shock ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงภาพยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ผู้เล่าเรื่องได้ทำงานอยู่ที่โรงภาพยนต์แห่งนี้ได้มาระยะหนึ่งและได้ทราบจากที่ทำงานมาว่า โดยปกติแล้วจะมีการไหว้พระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลรักษาโรงภาพยนต์แห่งนี้ในทุกวันพระ ซึ่งสิ่งที่นำมาไหว้เป็นประจำนั้นจะเป็นพวงมาลัยดอกดาวเรือง ซึ่งโดยปกติแล้วผู้เล่าก็จะนำมาพวกมาลัยที่เป็นดอกดาวเรืองมาไหว้ในวันพระร่วมกับพนักงานคนอื่นๆเป็นประจำ
แต่ได้มีพนักงานคนใหม่ได้เข้ามาทำงานที่โรงหนังแห่งนี้ โดยไม่รู้ว่าในวันไหว้พระนั้นจำเป็นต้องนำพวกมาลัยที่เป็นดอกดาวเรืองมาไหว้ ซึ่งพวกมาลัยที่พนักงานคนใหม่นำมาไหว้นั้นเป็นดอกไม้สีแดงที่ผสมด้วยดอกดาวเรืองอันเล็กๆผสมอยู่ พนักงานคนอื่นจึงไม่ได้ไปว่าหรือไปเตือนอะไรเพราะกลัวว่าจะทำให้น้องพนักงานใหม่นั้นกลัวและเห็นว่ามีดอกดาวเรืองเล็กๆติดอยู่ในพวกมาลัยสีแดงอันนั้นอยู่ด้วยจึงคิดว่าไม่เป็นไร
แต่หลังจากวันพระที่ทุกคนได้ไหว้กันนั้น ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นกับโรงหนัง มีโรงหนังโรงแรกที่เปิดเครื่องฉายหนังไม่ติดเลย จนพนักงานต้องยกมือไหว้ จนเครื่องฉายหนังกลับมาติด แต่เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดเพียงแค่โรงเดียว เพราะโรงอื่นๆเครื่องฉายนั้นก็ติดๆ ดับๆ เหมือนจะมีปัญหาจนวันนั้นพนักงานทุกคนวุ่นวายกันหมดและทำให้วันนั้นจำเป็นต้องยกเลิกฉายหนังไปบางรอบ จนมาถึงตอนดึกเวลาที่พนักงานทุกคนจะต้องเตรียมตัวปิดโรงหนังและกลับบ้าน แต่ตัวผู้เล่านั้นจำเป็นต้องเช็คว่าได้ลืมปิดเครื่องสแกนแว่นรึเปล่า จึงได้ชวนเพื่อนเดินไปเช็คด้วยกันเพราะตอนนั้นเป็นเวลาดึกและทางเดินในโรงหนังนั้นมืดมาก (ลองนึกภาพถึงโรงหนังตอนไปดูหนัง) และผู้เล่านั้นก็แอบรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ ทั้งสองคนก็พยายามเช็คอย่างเร็วเพราะจะได้รีบกลับบ้านแต่ในระหว่างที่กำลังเดินไปเช็คในกลางโรงนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงดัง ตึก ตึก ตึก เป็นเสียงที่เหมือนจะมีใครเดินตามมาแต่พวกเขาจับทางไม่ได้ว่าเสียงนั้นมาจากทางไหนกันแน่ ตัวผู้เล่าก็ได้หยิบไฟฉายเพื่อหาต้นตอของเสียงที่เจ้าตัวได้ยินและสิ่งที่ได้เห็นก็คือเป็นผู้หญิงลักษณะแก่ๆ หลังค่อม และผมกระเซอะกระเซิงยืนอยู่ตรงทางข้างหน้าจอฉายและใส่ชุดแบบสมัยโบราณ ทำท่าเหมือนค่อยๆเดินเข้ามาหาทั้งสองคน ด้วยความตกใจทั้งสองคนนั้นต้องวิ่งหนีแบบสุดชีวิตและได้ไปนั่งพักหอบตรงข้างนอก โดยอยู่ๆ มือของผู้เล่านั้นได้ไปเท้าโดนพวงมาลัยสีแดงที่ไหว้เมื่อวันก่อน จึงได้รู้ว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเค้าได้เจอเรื่องแปลกๆ ในวันนี้
2. เสียงร้องไห้ปริศนาในห้องน้ำชาย (ระดับความสยอง : 7/10)

มีเรื่องเล่าสยองเล่ากันว่า มีโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งที่อยู่แถวใจกลางตัวเมืองนนท์บุรี นักเรียนที่เคยเรียนที่นั่นมาก่อนหลายคนได้เจอเหตุการณ์หลอนเกี่ยวกับการที่ได้ยินเสียงร้องไห้ปริศนาที่ดังขึ้นมาในห้องน้ำชาย ซึ่งโดยปกติแล้วห้องน้ำส่วนนี้ไม่ได้เปิดให้ใช้งานและได้มีการปิดตายเอาไว้ แต่ยังมีนักเรียนหลายคนที่วันดีคืนดีเดินผ่านห้องน้ำชายเก่านี้และได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกเรื่อยๆ จากข้างในและเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงของเด็กผู้ชายแต่เป็นเสียงของเด็กผู้หญิงที่ร้องให้ออกมา นอกจากนี้ยังมีคนเล่ากันว่าพวกเขาเคยเห็นวิญญาณของเด็กผู้หญิงยืนร้องให้ออกมาให้เห็นสะท้อนผ่านกระจกห้องน้ำหญิงอีกด้วย ยังคงมีการเล่ากันว่าที่โรงเรียนแห่งนี้เคยเป็นที่ดินที่เป็นสถานที่โรงพยาบาลเก่า โรงเรียนนี้น่ากลัวถึงขนาดที่พระที่มาทำพิธีในโรงเรียนแห่งนี้ยังสามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณที่มีความแค้นและอาฆาตที่รอบๆ ในบริเวณโรงเรียนนี้ ไม่แน่นะครับโรงเรียนนี้อาจจะเป็นโรงเรียนที่คุณเคยได้เรียนมาก่อนก็ได้!!
3. เรื่องหลอนของอาคาร 6 (ระดับความสยอง : 8/10)

เรื่องเล่านี้เราก็ยังอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในย่านปากเกร็ด ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณอาคาร 6 มีคนเล่ากันว่าอาคารแห่งนี้เคยเป็นศาลาสำหรับพักศพมาก่อน จึงเป็นสาเหตุที่ว่าอาคารแห่งนี้จำเป็นต้องทำบุญตึกส่วนนี้ในทุกๆ วันอังคาร ว่ากันว่าเคยมีเหตุการณ์ที่ว่ามีคุณครูคนหนึ่งจำเป็นต้องเลิกงานดึกและในขณะที่กำลังเดินลงมาจากอาคารนั้น คุณครูได้พบกับเด็กนักเรียนคนหนึ่งนั่งร้องให้อยู่แถวป้ายทางเดินกลับบ้าน ด้วยความที่เป็นคุณครูจึงเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงว่าทำไมไม่ยังไม่กลับบ้านเพราะนี่มันดึกมากแล้ว เป็นอะไรรึเปล่า ทันทีที่เด็กนักเรียนคนนั้นเงยหน้าขึ้นมานั้น เป็นภาพที่ทำเอาคุณครูถึงกับตกใจและแทบจะสติแตกทันทีที่ได้เห็น เพราะว่าน้ำตาของเด็กคนนั้นที่ไหลออกมาเป็นเลือด และเมื่อสังเกตดีๆ แล้วก็เห็นว่าป้ายที่เด็กนักเรียนคนนี้นั่งอยู่ มันติดกับผนังซึ่งไม่มีทางที่คนจะสามารถขึ้นไปนั่งได้ นี่คือเหตุการณ์สยองที่คุณครูคนนั้นจะไม่ยอมกลับบ้านดึกคนเดียวอีกต่อไป
4. เงาปริศนาชั้น 3 (ระดับความสยอง : 7/10)

เรื่องนี้ก็ยังอยู่กับโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีของเรานี่เองครับ ตัวย่อของโรงเรียนนี้ขอบอกเป็นสีประจำของโรงเรียนนี้ก็คือสีแดงขาวและมีสัญลักษณ์เป็นต้น นนทรี นี่เอง…
เรื่องเล่าสยองขวัญของโรงเรียนนี้เกิดขึ้นที่อาคาร 3 อาคารทุกอาคารที่โรงเรียนนี้จะเป็นอะไรที่มืดมากในช่วงกลางคืนเพราะโรงเรียนแห่งนี้จะปิดไฟพอเข้าช่วงเวลากลางคืน แต่ทุกตัวตึกนั้นจะมีลิฟต์ประจำตึกไว้ให้สำหรับคุณครูเวลาเข้าไปสอนนักเรียนที่อยู่ชั้นสูงๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ว่ามีคุณครูที่ต้องอยู่โรงเรียนจนถึงตอนดึกเพราะว่ามีประชุมในช่วงเวลาหลังจากเลิกเรียน หลังจากที่ประชุมกันเสร็จคุณครูทุกคนก็ถยอยกันลงตึกจนเกือบกันหมด แต่เหลือคุณครูอยู่ท่านหนึ่งที่ลืมของไว้ที่ชั้นสาม ของอาคารแห่งนี้ ด้วยความที่ว่าคุณครูรีบที่จะขึ้นไปเอาของจะได้กลับบ้านจึงใช้ลิฟต์ขึ้นไปแทนที่จะใช้บันไดและในเวลานั้นมันก็มืดมาแล้ว ด้วยความที่ว่าพอมืดแล้วตัวอาคารจะปิดไฟหมด เหลือเพียงแค่ไฟจากตัวลิฟต์เท่านั้นที่สาดส่องให้เห็นทาง คุณครูก็รีบไปเอาของและกลับมากดลิฟต์ แต่ในระหว่างที่ลิฟต์เปิดนั้นคุณครูก็ได้เห็นเงาที่สะท้อนบนกำแพงเป็นเงาร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงสุดแสง แต่ในตอนนั้นชั้นสาม มีแค่คุณครูอยู่คนเดียว คุณครูก็พยายามที่จะไม่คิดอะไรและลงมา แต่ในระหว่างที่ลิฟต์ปิดคุณครูก็คอยสังเกตเงานั้นและเงานั้นก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นจนลิฟต์ปิดสนิทไป จึงได้มีการรู้มาว่าโรงเรียนแห่งนี้เคยเป็นที่พักแรมของกองทัพในสมัยของรัชกาลที่ 3 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเคยเกิดขึ้นอะไรมาบ้าง….
5. วัดปราสาทนนทบุรี (ระดับความสยอง : 9/10)

เค้าว่ากันว่า วัดปราสาท จังหวัด นนทบุรี นั้นเป็นวัดที่มีผีดุและเฮี้ยนเป็นต้นๆของจังหวัดนนทบุรีเลย เป็นวัดที่มีคนชอบมาท้าทายหรือลองของและคนส่วนมากก็ได้พบกับสิ่งที่พวกเขาอยากเจอกลับไปกัน ซึ่งสถานที่เดิมของวัดปราสาทนั้น เคยเป็นค่ายทหาร เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในอยุธยาและอาจจะเป็นสถานที่ ที่ไว้สำหรับประหารนักโทษในสมัยก่อนอีกด้วย
ซึ่งเรื่องเล่าสยองต่างๆ ที่ผู้คนมักเจอนั้นจะมีอยู่หลายอย่าง บ้างก็ว่ามีคนเคยพบเห็นนางตะเคียนมาหลอกหลอนชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นเพราะในวัดนั้นก็มีต้นตะเคียนขนาดใหญ่ปลูกอยู่ นอกจากนี้ภายในวัดก็ยังมีจุดที่เรียกว่าสระน้ำมนต์ ซึ่งเจ้าอาวาสเล่าว่าที่แห่งนี้มีผีเปรตคอยเฝ้ารักษาบริเวณส่วนตรงนี้ ซึ่งก็มีชาวบ้านได้ยินเสียโหยหวนของเปรตในวันโกนหรือวันพระกันอยู่เป็นประจำ และจุดสุดท้ายที่เป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและเป็นส่วนที่คนชอบมาท้าลองและได้เจอดีกลับไปกันอยู่บ่อยๆ ก็คือบริเวณชุมชนทางเดินด้านหลังวัด ซึ่งส่วนนี้เคยเป็นป่าช้าเก็บศพมาก่อนซึ่งคนที่เดินมาผ่านหรือมาท้าลองจะพบเจออะไรแปลกๆเป็นประจำ บ้างก็เล่าว่าได้ยินเสียงคนเรียกหากเดินผ่านบริเวณนี้คนเดียว บ้างก็ว่าจะรู้สึกขนลุกแปลกๆเป็นประจำเวลาเดินผ่านและหากไปวัดนี้ในเวลากลางคืนก็จะเห็นเงาของคนยืนและหายผ่านไปมาตลอดเวลา ซึ่งวัดปราสาทนั้นก็ยังคงมีให้เห็นหรือให้ผู้คนได้มาสักการะและไหว้ได้อย่างปกติ
เป็นยังไงบ้างครับ กับ 5 เรื่องเล่าหลอนจากจังหวัดนนทบุรี รู้สึกว่าขนลุกกันบ้างไหม ใครจะไปรู้ว่าจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องผลไม้ชื่อดังจะมีเรื่องสยองและน่ากลัวให้ติดตามอยู่เยอะเลยนะครับ ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แอดหามาให้ ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะครับ ใครจะไปรู้ว่าบ้านหลังข้างๆของคุณอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ก็เป็นได้ บรือออ….
ที่มา : teen.mthai.com, ghostjung2017.blogspot.com, dek-d.com, www.appgeji.com
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> UFABET