จังหวัดที่ขึ้นชื่อไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หนาแน่นตลอดเวลา ในอีกด้านหนึ่งก็มีเรื่องสยองขวัญที่สามารถทำเอาให้ขนลุกไปข้างหนึ่งเลย เตรียมตัวกันรึยังครับกับ 5 เรื่องเล่าสยองขวัญจังหวัดภูเก็ต ที่จะทำให้คุณขนลุกและอาจจะเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ตไปเลย ไปอ่านกันดูเลย…
1. โค้งปราบเซียน 100 ศพ (ระดับความสยอง : 7/10)

บริเวณของโค้งปราบเซียนร้อยศพนี้ ตั้งอยู่ บ้านคอเอน หมู่ 5 ต.ไม้ขาว จังหวัดภูเก็ตนี่เอง ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักกันดีและมีการร่ำลือกันมานาน ชาวบ้านบางคนถึงกับขนาดว่ารู้สึกชินกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณโค้งร้อยศพแห่งนี้ไปแล้ว จากการที่ชาวบ้านบริเวณแถวนั้นพูดออกมาทำให้รู้ว่าโค้งร้อยศพแห่งนี้คงเคยเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยๆ
ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ครั้งนึงเคยมีเหตุการณ์ที่มีลูกชายเศรษฐีที่เป็นลูกของนักธุรกิจชาวมาเลเซียได้ขี่บิ๊กไบด์มาร่วมงานประจำปีที่หาดป่าตอง หลังจากที่เขาได้ร่วมงานประจำปีเรียบร้อยมันก็เป็นเวลากลางวันแสกๆ เข้าแล้ว เขาได้ขับรถบิ๊กไบค์ของเขาหลุดเข้าโค้งชนขอบถนนจนเสียชีวิต โดยมีคำบอกเล่าจากเพื่อนของผู้เสียชีวิตว่าวันนั้นเขาไม่ได้ดื่นแอลกอฮอล์แม้แต่น้อย ทำให้ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าอะไรที่ทำให้เค้าขับบิ๊กไบค์หลุดโค้งจนเสียชีวิต ซึ่งชาวบ้านและทุกคนส่วนใหญ่นั้นเชื่อกันว่ามักจะมีวิญญาณตนก่อนๆ ที่เคยได้เกิดอุบัติเหตุบริเวณนี้และได้เสียชีวิตไปอยากจะได้คนไปอยู่แทนหรือที่เรียกว่าตัวตายตัวแทนนั่นเอง

ซึ่งบริเวณทางขึ้นป่าตองนั้นก็มีศาลศักสิทธิ์ที่เวลาหากใครขับขึ้นป่าตองนั้น พวกเขามักจะบีบแตเพื่อเป็นการไหว้และเคราพให้พวกเขาขับรถได้อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุซึ่งบริเวณนั้นก็มีรถที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน บางครั้งหากใครไม่บีบแตบริเวณนั้นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นได้ เช่น รถเสีย หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ในปัจจุบันนี้ศาลแห่งนี้ก็ยังอยู่ทางขึ้นไปป่าตอง หากใครได้ขับรถขึ้นไปป่าตองอย่าลืมสังเกตและบีบแตกันนะครับ
2. เกสเฮ้าส์หลอน (ระดับความสยอง : 8/10)

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับพนักงานเซลล์คนหนึ่งที่ต้องไปทำงานกับหัวหน้าของเค้า ที่ป่าตอง ในจังหวัดภูเก็ต โดยปกติแล้วหากพนักงานคนนี้มาทำงานกับหัวหน้าของเค้า ทางบริษัทจะเป็นคนจัดหาเกี่ยวกับที่อยู่ให้สำหรับทั้งตัวพนักงานและตัวหัวหน้าของเค้า หลังจากที่เดินทางถึงป่าตอง พวกเขาทั้งสองก็ยังไม่ได้แวะเข้าที่พัก เพราะในเวลานั้นพวกเขาต้องไปทำงานกันก่อน หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วในวันนั้น ช่วงเวลานั้นก็เป็นเวลาเที่ยงคืนเข้าให้แล้ว ด้วยความที่เหนื่อยเค้าเลยเดินทางกลับที่พักของเค้าเลย

ความรู้สึกแรกหลังจากได้เห็นเกสเฮ้าส์นั้นเป็นความรู้สึกถึงความเงียบเป็นหลัก แต่ด้วยความที่ว่าตอนนั้นเกือบจะตี1 แล้วบรรยากาศเลยเป็นแบบนี้ก็ได้ แต่ข้อดีของเกสเฮ้าส์นี้ติดกับทะเลจึงเป็นอะไรที่ดูสงบ สงบจนเหมือนไม่มีลูกค้าคนอื่นเลย ด้วยความเหนื่อยก็เลยไม่ได้สนใจอะไรและเข้าห้องพักเข้าไป โดยปกติแล้วตัวพนักงานคนนี้เค้าจะขยับเตียงหรือเอาเหรียญใส่ไว้ใต้หมอนเป็นประจำทุกครั้งเวลาไปทำงานนอกสถานที่ แต่ด้วยครั้งนี้เค้ามาทำงานกับหัวหน้าของเค้า เค้าเลยไม่ได้ทำอะไรเลยซักอย่าง ด้วยการทำงานที่เหนื่อยและตอนนั้นดึกมากทำให้เค้าได้หลับไปเลย ระหว่างที่เค้าหลับไปเค้ารู้สึกว่าเค้าหลับไม่ได้สนิทและได้ยินเสียงเอะอะโวยวายและพูดคำหยาบเสียงดังออกมาอยู่ภายในห้อง มันดังจนเค้าลืมตาขึ้นมาดูว่าเสียงนี้คืออะไรกันแน่ แต่สิ่งที่เค้าได้เห็นคือ เงาของคนดำๆ ยืนเต็มห้องไปหมด ซึ่งเสียงที่ดังเอะอะนี้ก็ยังดังอยู่เรื่อยๆ เค้าจับใจความได้ว่า “พวกมึงมานอนที่นี่ทำไม ออกไป” นี่คือหนึ่งประโยคที่เค้าจับใจความได้แต่ความจริงแล้วมันมีมากกว่านั้นมาก ซึ่งในตอนนั้นตัวของเค้าก็ขยับไม่ได้ เค้าเลยได้แต่ท่องคาถาชินบัญชร แต่เสียงพวกวิญญาณก็ยังคงดังขึ้นไม่หยุด แต่ซักพักเสียงนั้นก็เงียบไปโดยทิ้งคำพูดสุดท้ายว่า “ไอ…” แล้วทุกอย่างในห้องก็กลับมาเป็นปกติ
หลังจากนั้นเค้าได้เผลอหลับไปอีกครั้งและถูกหัวหน้าปลุกในตอนเช้าและได้เล่าให้หัวหน้าฟัง หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้แต่สงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้และยังคงเป็นคำถามในตัวเค้าว่าสิ่งที่เค้าเจอนั้นเป็นวิญญาณที่อยู่ภายในห้องนั้นหรือเพียงแค่เค้าฝันไป
3. เจอดีที่ภูเก็ต (ระดับความสยอง : 8/10)

เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอทำงานเป็นพริตตี้ ปกติแล้วเวลาเธอทำงานนั้นเธอจะมีการเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดบ้าง ซึ่งครั้งนี้เธอและทีมของเธอต้องไปทำงานที่ภูเก็ต เพื่อเป็นการประหยัดค่าโรงแรม ออแกไนเซอร์ส่วนมากจะใช้วิธีการเดินทางในตอนกลางคืนเพื่อที่จะถึงที่ทำงานในตอนเช้าและสามารถเริ่มงานได้เลยทันที และหลังจากนั้นก็จะเดินทางกลับ ทุกครั้งที่เธอต้องออกไปทำงานที่ต่างจังหวัด เธอก็จะทำงานแบบนี้โดยตลอด
โดยเหตุการณ์สยองขวัญนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เธอทำงานเสร็จและกำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพ ต้องขอบอกก่อนว่ารถที่เธอไปทำงานกับทีมของเธอนั้นเป็นรถตู้ขนาดใหญ่ที่จุคนได้ค่อนข้างเยอะ เวลาตอนที่เธอกำลังกลับนั้นก็ตีสามเข้าไปแล้วซึ่งทุกคนนั้นและรวมทั้งตัวเธอก็ต้องหลับไปด้วยความเพลีย หลังจากนั้น จู่ๆ รถก็หยุดกะทันหัน ทุกคนตกใจตื่นกันหมด แล้วคนจู่ๆ คนขับรถก็เร่งเครื่องออกต่ออย่างเร็ว คนในรถก็ต่างกันถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่แกก็ไม่ยอมตอบ และเหยียบรถขับเร็วขึ้นเรื่อยๆจนถึง 150 ได้ ต่อมาทุกคนอื่นๆ ในรถเธอก็ต่างกันกริ๊ดกันออกมาแล้วชี้นิ้วไปทางหน้าต่างทางด้านหลัง เธอก็หันไปมองว่ามีอะไรแต่เธอก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ
พอถึงจนเช้ามืดคนขับรถจึงรีบเลี้ยงเข้าวัดกันทันที ทุกคนก็พากันสงบสติอารมณ์โดยที่เธอก็ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้นและหลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ พอเรื่องนี้ผ่านไปได้ไม่กี่วัน เธอได้เจอกับเพื่อนคนนึงที่อยู่เหตุการณ์ในวันนั้นและได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนของเธอจึงบอกว่าวันนึงที่ทุกคนกริ๊ดและชี้นิ้วไปทางด้านหลังเพราะว่าพวกเธอเห็น ชายแก่เสื้อผ้าขาดหลุ่ย กำลังวิ่งไล่รถตามมาแบบไม่เหนื่อยและใช้มือนึงทาบไว้ที่กระจกทางด้านหลัง นี่คือสาเหตุที่ทำให้ทุกคนนั้นกริ๊ดออกมาด้วยความกลัว หลังจากวันนั้นเธอก็ยังไม่ได้ไปทำงานที่ภูเก็ตอีกเลย
4. แคนทีนใหม่ (ระดับความสยอง : 7/10)

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภูเก็ตที่อยู่แถวอำเภอกะทู้ ซึ่งในตัวมหาวิทยาลัยนั้นมีโรงอาหารอยู่ซึ่งนักศึกษาที่เรียนในมหาลัยนั้นจะเรียกว่า “แคนทีน” ซึ่งแคนทีนในมหาลัยแห่งนี้ได้มีอยู่สองจุดคือแคนทีนเก่าและแคนทีนใหม่ ซึ่งตามชื่อเลย แคนทีนใหม่คือโรงอาหารที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยหวังที่จะเปิดให้นักศึกษาได้เปิดใช้งาน แต่ตั้งแต่แคนทีนใหม่นั้นได้สร้างขึ้นมาก็ไม่เคยได้เปิดให้มีร้านอาหารหรือปล่อยให้นักศึกษาได้ไปกินข้าวที่นั่นเลย
เคยมีเรื่องเล่ากันว่าสาเหตุที่แคนทีนใหม่แห่งนี้ไม่สามารถเปิดให้ใช้บริการได้ สาเหตุมาจากเจ้าที่ของตึกแห่งนี้เป็นมุสลิม ซึ่งอาหารแห่งนี้ไม่สามารถนำหมูขึ้นมาบนอาคารได้และอีกอย่างคือสีแดง เคยมีรุ่นพี่เล่าให้ฟังกันว่า หากต้องการขึ้นตึกแคนทีนนั้นทั้งตัวของคนที่จะขึ้นไปต้องไม่มีสีแดงอยู่ในตัวเลย ไม่งั้นคุณจะเจอเรื่องที่ไม่ดีตามมา ว่ากันว่าเคยมีคนที่ใส่สีแดงขึ้นไปด้วยความอยากรู้อยากลอง หลังจากที่ขึ้นตึกไปแล้วกลางดึกคืนนั้นเค้าก็ฝันถึงบางอย่างที่น่ากลัวมาก ทำให้เช้าวันถัดมานักศึกษาคนนั้นต้องมาไหว้ขมากับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งในปัจจุบันนี้แคนทีนใหม่ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ข้างกับแคนทีนเก่า แต่ไม่ได้เปิดให้บริการเป็นแคนทีนแต่ให้นักศึกษาไปทำกิจกรรมที่ตึกแห่งนี้ได้แทน
5. คุณยายสปีดแห่ง มอ. (ระดับความสยอง : 8/10)

ตำนานคุณยายสปีดนั้นไม่ได้มีเพียงแต่ที่หาดใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ในภูเก็ตก็มีเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ถนนหลังมหาลัย ซึ่งถนนหลังมหาลัยนั้นเป็นทางลาดยาวที่ไร้ตึก มีเพียงแค่ป่าทั้งทางซ้ายและทางขวา ซึ่งในเวลากลางคืนนั้นจะเป็นอะไรที่มืดและน่ากลัวมากหากขับรถบริเวณนั้นคนเดียว
ซึ่งเคยมีคนเล่าว่า เค้าได้เห็นคุณยายที่เดินอยู่ทางถนนเส้นหลัง คุณยายเดินอยู่คนเดียวในเวลากลางคืนซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องปกติที่น่าจะเกิดขึ้นได้ พอเค้าขับผ่านคุณยายไปแล้ว เค้าก็มองคุณยายที่อยู่ข้างหลังผ่านกระจก แต่คุณยายคนนั้นก็ได้หายไปไหนไม่รู้ ด้วยความที่เค้าตกใจเค้าจึงเร่งเครื่องเพื่อที่จะไปให้พ้นจากจุดนี้ จู่ๆเค้าก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งตามมาจากข้างหลัง แต่เค้าก็ไม่ได้หันไปดูและขับรถไปเรื่อยๆเพื่อให้พ้นจากจุดนี้
นอกจากนี้คนภูเก็ตก็ต่างลือกันว่า ด้วยความที่ถนนทางด้านหลังทั้งมืดทั้งเปลียวในเวลากลางคืน มักจะมีคนเอาของที่ไม่ดีมาทิ้งในบริเวณตรงนี้เป็นประจำ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่าของที่เอามาทิ้งนั้นคืออะไรกันแน่
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยความสุขจากคนที่มาเที่ยว แต่ในอีกด้านนึงก็เต็มไปด้วยความสยองขวัญจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.. เป็นยังไงบ้างครับกับ 5 เรื่องเล่าสยองขวัญจังหวัดภูเก็ต น่ากลัวสมใจกันบ้างไหมเอ่ย นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากทั้งหมดที่ผู้คนอาจจะได้เคยเจอกันมา ระวังกันด้วยนะครับคนต่อไปอาจจะเป็นคุณ บรืออ…
ที่มา : mgronline.com, sites.google.com, shock.mthai.com, sayong-kwan.com, news.phuketindex.com, phuketpostnews.blogspot.com
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย