ในประเทศไทยมีหมู่บ้านที่น่ากลัวแห่งหนึ่งที่คิดว่าทุกคนคงรู้จักกันดีในชื่อว่า “ลัดดาแลนด์” ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ได้สร้างเรื่องสยองขวํญทำให้คนไทยได้กลัวหมู่บ้านแห่งนี้ไปนาน แต่คุณรู้ไหมว่านอกจากประเทศไทยแล้ว ประเทศอื่นๆ เค้าก็มีตำนานหมู่บ้านสยองขวัญเช่นกัน วันนี้แอดจึงนำ 5 ตำนานเรื่องเล่าหมู่บ้านผีเฮี้ยนต่างประเทศ ให้ทุกคนได้ลองดูกันว่าน่ากลัวเหมือนของประเทศไทยไหม…
1. หมู่บ้านบรามช็อทท์ (Bramshott) ณ ประเทศอังกฤษ (ระดับความสยอง: 8/10)

ที่ประเทศนั้นจะมีหมู่บ้านอยู่หมู่บ้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความที่ผีเฮี้ยนและมีผีดุมากๆ อยู่ที่หนึ่งหมู่บ้านนั้นชื่อว่า “พาร์ครี่” (Pluckley) ซึ่งคนในประเทศส่วนใหญ่จะรู้จักกันดี แต่ห่างจากหมู่บ้านพาร์ครี่ไปเพียงไม่กี่กิโล ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง ที่นั่นจะมีอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนมากกว่าหมู่บ้านพาร์ครี่อีก นั่นก็คือหมู่บ้าน “บรามชอทท์” (Bramshott)
หมู่บ้านบรามชอทท์นั้นเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่มาก นับได้ว่าเป็นหมู่บ้านแรกๆในประเทศอังกฤษก็ว่าได้ หมู่บ้านนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาก่อนปี 1086 หลังจากที่ได้เกิดหมู่บ้านบรามชอทท์นั้นหลังจากนั้นในปี 1700 ก็เริ่มที่จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับหรือวิญญาณที่ทำให้เกิดตำนานภายในหมู่บ้านนี้ขึ้นมา ในหมู่บ้านบรามชอทท์นั้นจะมีโรงแรมอยู่โรงแรมหนึ่งที่ขึ้นต้นชื่อโรงแรมด้วยเลขเจ็ด ใครต่อใครก็ต่างพูดถึงโรงแรมนี้ว่ามันเป็นโรงแรมที่สร้างแต่ความน่ากลัวให้แกผู้คน ว่ากันว่าโรงแรมแห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรมและรวมไปถึงฆาตกรรมเป็นโรงแรมที่เคยเกิดคดีขึ้นมามากมายต่อเนื่อง หลังจากที่โรงแรมแห่งนี้ได้เกิดเหตุการณ์ไม่ดีมากมายทำให้ ผู้คนที่อยู่ในหมู่บ้านนั้นก็เริ่มเห็นอะไรที่ที่แปลกๆ ภายในโรงแรมนี้ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

จากการพูดถึงกันมามากมายเกี่ยวกับหมู่บ้านนี้ทำให้พบว่า หมู่บ้านนี้ได้มีวิญญาณผีเฮี้ยนอยู่มากกว่า 17 ตนที่คอยหลอกหลอนผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ยกตัวอย่างของเหล่าวิญญาณที่มาหลอกหลอนผู้คนก็จะมี วิญญาณของคุณนายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่บ้านริมแม่น้ำและอยู่ๆ เธอก็ได้กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย วิญญาณของเด็กชายที่ได้ตายไปด้วยสาเหตุบางอย่าง ชาวบ้านมักจะเห็นผีเด็กมักจะมาปืนต้นไม้เล่นให้เห็น และบางคนก็เห็นวิญญาณที่มาในลักษณะชุดสีขาวบ้าง ชุดสีเทาบ้าง รวมไปถึงเคยมีเด็กชายที่ถูกโจรร้ายได้ฆ่าชิงทรัพย์ไป ซึ่งวิญญาณของเด็กคนนั้นก็ยังคงเดินอยู่ตามถนนให้ชาวบ้านได้เห็น ซึ่งภายในหมู่บ้านนี้ ก็ยังมีป่าช้าที่อยู่ภายในหมู่บ้านที่อยู่ข้างหลังโบสถ์ ที่่อาจจะเป็นแหล่งรวมวิญญาณในหมู่บ้านนี้ก็เป็นได้ ซึ่งในปัจจุบันนั้นหมู่บ้านนี้ก็ยังคงมีอยู่ภายในประเทศอังกฤษ ถ้าอยากรู้ว่าหมู่บ้านนี้เฮียนจริงไหมลองไปเดินเล่นกันได้นะครับ
2. หมู่บ้านกุลธรา ณ ประเทศอินเดีย (ระดับความสยอง: 8/10)

หมู่บ้านกุลธราถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่มีอิทธิผลในประเทศอินเดีย หลังจากถูกสร้างมาเป็นที่เรียบร้อย ในปี 1825 หลังจากนั้นอยู่ๆหมู่บ้านกุลธราแห่งนี้ก็กลายเป็นหมู่บ้านร้างโดยระยะเวลาสั้นๆ
โดยหมู่บ้านร้างแห่งนี้ได้มีตำนานที่ถูกเล่าทิ้งไว้ ว่ากันว่าได้มีกษัตริย์ผู้ที่เพียบพร้อมไปซะทุกอย่างอยู่องค์หนึ่งเขาได้ตกหลุมรักลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ ด้วยความที่กษัตริย์องค์นี้ต้องการผู้หญิงคนนี้อย่างมากจึงได้ขู่กับหัวหน้าหมู่บ้านไว้ว่า “ถ้าไม่ยอมส่งลูกสาวของเขามาให้เขา เขาจะไล่เก็บภาษีที่หมู่บ้านแห่งนี้อย่างหนัก” หัวหน้าหมู่บ้านจึงได้ทำการปรึกษากับชาวบ้านที่อาศัยในหมู่บ้านเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้เพราะเขาก็ไม่อยากจะยกลูกสาวของเขาให้ พวกคนในหมู่บ้านรวมถึงตัวหัวหน้าหมู่บ้านจึงตัดสินใจที่จะย้ายออกจากหมู่บ้านกันทั้งหมด นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ถูกทิ้งให้ร้างอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งตอนที่พวกเขาได้ออกจากหมู่บ้านนั้นพวกเขาได้ทิ้งคำสาปเอาไว้ว่า “ใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาอยู่หรือทำอะไรในหมู่บ้านแห่งนี้ ขอให้ผู้นั้นมีอันเป็นไป”

หลังจากที่หมู่บ้านกุลธราได้ถูกทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน ก็ต่างมีบางส่วนของนักท่องเที่ยวและพวกทีชอบท้าพิสูจน์ที่มักจะแวะมาที่หมู่บ้านแห่งนี้กันในบางครั้ง ซึ่งได้มีการเขียนบันทึกจากผู้ที่มาท้าพิสูจน์หลายท่านที่มาที่แห่งนี้ ซึ่งที่บันทึกเอาไว้หลายท่านนั้นมีข้อความที่ค่อนข้างคล้ายกันว่า “พวกเขามักจะเป็นอะไรบางอย่างอยู่ภายในหมู่บ้าน พวกเขาอธิบายไม่ได้ว่านั่นคืออะไร” สิ่งแปลกๆ ที่เขาได้เห็นนั้น ได้เข้ามาสัมผัสสมาชิกที่ได้มาเยื่อนหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้หันกลับไปดูว่ามันคืออะไรแต่เขาก็ไม่พบอะไรทั้งสิ้น ซึ่งพวกเขาโดนเหมือนสะกิดอยู่บ่อยๆ สะกิดแขนบ้าง สะกิดหลังบ้าง ตลอดเวลาที่พวกเขายังอยู่ในหมู่บ้านนี้ หลังจากที่พวกเขากลับมาที่รถเพื่อที่จะกลับ พวกเขาก็จะเจอรอยมือปริศนาที่แปะอยู่ตามรถเต็มไปหมด เป็นเหมือนรอยมือของหลายคนที่ต่างกันมาแปะทั่วรถ ความแปลกคือสิ่งที่พวกเขาเจอคืออะไร ทั้งๆที่ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้มาก่อนนั้นพวกเขาก็แค่ย้ายออกมาจากหมู่บ้าน ไม่ได้เสียชีวิตหรืออะไรซักหน่อย…
3. หมู่บ้านบอร์ยวัตต์เน็ต ณ ประเทศสวีเดน (ระดับความสยอง: 8/10)

หมู่บ้านบอร์ยวัตต์เน็ตถูกสร้างขึ้นอยู่ที่ทางภาคเหนือของประเทศสวีเดน ซึ่งคนสวีดิชมักจะรู้กันดีเกี่ยวกับความเฮี้ยนของหมู่บ้านนี้ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านผีเฮี้ยนที่เฮี้ยนที่สุดในประเทศ
ในช่วงปี 1876 หมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกสร้างโบสท์ไว้ภายในหมู่บ้าน โบสถ์แห่งนี้อยู่กับชาวบ้านมาเป็นเวลานาน จนถึงปี 1937 เป็นปีที่ได้เกิดเรื่องผีขึ้นมาในหมู่บ้านแห่งนี้ เพราะมีผู้ชายคนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องผีกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เขาได้พูดถึงหมู่บ้านนี้ว่า “เสื้อผ้าที่เขาได้ตากไว้หน้าบ้านนั้น ได้ถูกกระชากลงมาบนพื้นทั้งหมด โดยเป็นฝืมือของมือที่เขามองไม่เห็น” ต่อมาเป็นช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกันได้มีนักบวชคนหนึ่งได้ออกมาพูดว่า เขาได้เห็นหญิงชราได้เดินหายไปในห้องๆหนึ่ง ในขณะที่เธอเดินเข้าห้องนั้น เขาก็ได้เดินตามหญิงชราคนนี้และต่อมาหญิงชราคนนี้ได้หายไปต่อหน้าต่อตาของนักบวช
ในช่วงปี 1945 ได้มีชายคนหนึ่งได้ออกมาพูดด้วยความหวาดกลัวอีกว่า ในขณะที่เขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เอนตามสบายอยู่นั้น ได้มีใครมาดึงตัวเขาให้ตนจากเก้าอี้ไม่รู้ ซึ่งเขาโดนอย่างงั้นหลายครั้งและทุกครั้งที่เค้าโดนดึงตัว เขาก็พยายามที่จะหาต้นตอ แต่เขาก็ไม่เห็นใครเลย
ในปัจจุบันนั้นโบสถ์แห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นร้านอาหารที่มีห้องพักให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาใช้บริการนอนในหมู่บ้านแห่งนี้ก็มักจะโดนผีหลอกเป็นประจำ ซึ่งก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการอยู่เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
4. หมู่บ้านนายาวูโตก้า ณ ประเทศฟิจิ (ระดับความสยอง: 8/10)

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้นี่เอง ในช่วงปี 2016 ได้เกิดเหตุร้ายที่ประเทศฟิจิ โดยที่มีพายุลมร้อนได้เข้ามาทำลายพื้นที่ภายในประเทศ รวมถึงหมู่บ้านแห่งนี้เช่นกัน ในตอนนั้นได้มีคลื่นลมพายุหลายลูกได้เข้ามาทำลายหมู่บ้านแห่งนี้จนพังและเสียหายไปเยอะ และได้มีผู้เสียชีวิตไปด้วยเหตุนี้ถึง 2 คน หลังจากนั้นจึงได้มีการทำพิธีตามที่เขายึดถือกันมาในวันต่อมา
หนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิตได้ออกมาเล่าว่า หลังจากวันที่ทำพิธีเสร็จไปได้สองวัน เขาต้องตื่นขึ้นมาตอนดึกเพราะว่าเขาได้ยินเสียงฝูงของหมาหลายตัวได้หอนออกมาอย่างดัง หลังจากนั้นเขาได้เห็นญาติของเขาที่เสียชีวิตไป วิญญาณของญาติของเขาได้พูดอะไรพึมพำอยู่จนเขาจับใจความได้ว่าสิ่งที่วิญญาณญาติของเขาพูดคือ “ต้องการอาหาร” (เป็นภาษาของฟิจิ) หลังจากนั้นในคืนถัดมา เขาก็ยังคงต้องตื่นในตอนกลางคืนเพราะว่าเสียงหมาหอนดังออกมาลั่นทั้งหมู่บ้าน ซึ่งในรอบนี้หมาที่ออกมาหอนนั้นออกมาหอนบริเวณที่บ้านของญาติของเขาเคยอยู่พอดี จนเรื่องนี้เกิดขึ้นมาจนอาทิตย์ถัดไป ซึ่งได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำขึ้นมาอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ได้มีเหล่าวัยรุ่นที่วิ่งออกมาจากบ้านของญาติของเขาที่เสียชีวิต ซึ่งตัววัยรุ่นนั้นต้องการแค่ที่นอนพักชั่วคราวและได้พูดเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เขาเจอว่า ในตอนที่เขานอนอยู่ในบ้านของคนที่ตายนั้น เขาได้ฝันถึงคนที่ตายไป ซึ่งในฝันนั้นวิญญาณของคนที่ตายเดินโซซัดโซเซเหมือนคนที่หิวจนไม่มีแรงเดินอยู่บริเวณรอบตัวบ้าน ซึ่งวัยรุ่นก็ยังบอกว่าอีกว่า เขาได้ยินคนที่ตายพูดออกมาว่า “อาหาร” ซึ่งตัวญาติหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้เข้าไปก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนที่ตายถึงคอยออกมาหาให้พวกเขาได้เห็น คงเป็นเพราะว่าเขาต้องการส่วนบุญเป็นแน่นอน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์พายุร้อนถล่มที่หมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านแห่งนี้ก็ได้รู้จักกันในนามหมู่บ้านผีดุ
5. หมู่บ้านประวัติศาสตร์บีนเลก ณ ประเทษออสเตรเลีย (ระดับความสยอง: 7/10)

หมู่บ้านประวัติศาสตร์บีนเลกแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆที่ประกอบไปด้วยบ้านเรือนประมาณ 20 ครัวเรือนเท่านั้น ซึ่งภายในหมู่บ้านนี้ได้มีวัตถุโบราณทางประวัติในช่วงยุคของยุคประวัติศาสตร์ วัตถุโบราณเหล่านี้ล้วนเป็นของที่เจ้าของบ้านแต่ละหลังเคยใช้มาตั้งแต่ในอดีต ได้มีผู้ที่ชอบในเรื่องเหนือธรรมชาติได้เข้ามาในหมู่บ้านเพื่อที่จะถ่ายภาพภายในหมู่บ้านที่นี่ และหลังจากที่พวกเขาได้เข้าไปถ่ายภาพในหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อย พวกเขาจึงได้กลับมาเช็ครูปภาพที่พวกเขาได้ถ่ายเอาไว้ซึ่งภายในภาพนั้นพวกเขาได้เจออะไรที่ผิดปกติหลายอย่าง
ภายในภาพที่พวกเขาถ่ายนั้น มีอยู่หลายจุดที่รูปภาพนั้นออกมาเบลอๆ มีอยู่ภาพหนึ่งที่เขาได้ถ่ายไว้ตรงสวนภายในหมู่บ้านและพบว่ามีเหงาดำปริศนาได้มาอยู่ในภาพด้วย และบางบ้านที่เขาถ่ายนั้นก็มีใบหน้าของหญิงชรายืนอยู่ตรงหน้าต่าง และบางรูปก็เห็นเป็นผู้หญิงร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดเดสยืนอยู่ภายในบ้านอย่างน่ากลัว ซึ่งได้มีการนำรูปภาพเหล่านี้ไปให้ผู้ที่ชำนาญเกี่ยวกับรูปภาพได้เช็คดูว่าสิ่งที่อยู่ในภาพนี้คืออะไร ซึ่งคำตอบที่ได้ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้เริ่มมีการพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆจนทางสำนักข่าวเริ่มที่จะออกข่าวมาออกข่าวเกี่ยวกับหมู่บ้านหลังนี้ว่า หมู่บ้านหลังนี้เป็นหมู่บ้านที่มีเรื่องแปลกๆเป็นประจำ พวกสำนักข่าวที่เคยมาทำงานที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็มักจะถ่ายติดเงาดำเป็นประจำ ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ที่ว่าพวกเขาเคยได้ยินเสียงเปียนโนเล่นเองโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ หลังจากที่ข่าวนั้นได้ถูกเผยแพร่ หมู่บ้านแห่งนี้ก็ต่างมีผู้ที่อยากรู้อยากเห็นต่างเข้ามาดูและเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่งนี้กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ล้วนที่จะสร้างความน่ากลัวและน่าขนลุกให้กับพวกเราได้เสมอ สำหรับ 5 ตำนานเรื่องเล่าหมู่บ้านผีเฮี้ยนต่างประเทศ ทำให้เห็นได้ว่าประเทศอื่นนั้นเค้าก็มีตำนานเกี่ยวกับความสยองของแต่ละหมู่บ้านให้เราได้เห็นกัน นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทั่วโลกเท่านั้น ซึ่งหากอยากรู้หมู่บ้านอื่นๆ อีก ขอให้รอติดตามกันไปเรื่อยๆ นะครับ บรัยบาย…
ที่มา : www.google.co.th, timesofindia.indiatimes.com, www.dailymail.co.uk