เราขอย้อนเวลากลับไปเมื่อยุค 90 สมัยนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่บูมเพิ่งจะเริ่มเข้ามาเอง การต่ออินเตอร์เน็ตจะเล่นก็ต้องใช้โทรศัพท์บ้านเป็นตัวเชื่อม เป็นอะไรที่ยากจะเข้าหาถึงสื่อต่างๆแต่ในยุคปัจจุบันนี้การเข้าถึงสื่อโลกอินเตอร์เน็ตมั้นอะไรก็ง่ายไปหมดแถมมีช่องทางหลายสือที่ทำเกี่ยวกับ “ผี” ให้พวกเราได้ติดตามกัน วันนี้เราจะพาไปดู 10 อันดับ รายชื่อ “ผี” ดังสุดของประเทศไทย
1. ผีเปรต
“ผีเปรต” ความหมายในศาสนาพุทธนั้นคือ เปรตเป็น อมนุษย์ จำพวกหนึ่ง ที่ได้ถือกำเนิดใน “เปตติวิสัยภูมิ” เมื่อตอนที่เป็นมนุษย์อยู่นั้นได้ทำบาปกรรมอย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นกรรมจากการฆ่าสัตว์หรือ อาจจะฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน การทำร้ายพ่อแม่ เป็นพระสงฆ์ที่ผิดศีลข้อร้ายแรง พออุบัติกลายเป็นเปรตจะมีรูปร่างตัวสูง มือใหญ่ ปากเล็กเท่ารูเข็ม ต้องเสวยกรรมให้ทุกข์ทรมานกินน้ำเหลืองตัวเองเป็นอาหาร
2. ผีตายท้องกลม
“ผีตายท้องกลม” หมายถึง หญิงสาวที่ได้สิ้นชีวิตจากการคลอดลูก กลัวที่หญิงสาวจะตายลงไปนั้นมีจิตสุดท้ายที่มีความแค้นที่จะรู้ว่าลูกของตัวเองจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ ด้วยอารมณ์แค้นที่รุนแรงจึงบังเกิดความเฮี้ยนเป็นที่สุด และพวกเธอก็เป็นที่ต้องการของพวกหมอผีทั้งหลายต้องการน้ำเหลืองของเธอมาทำน้ำมันพรายนี่เอง สรรพคุณของน้ำมันพรายก็เป็นที่รู้ๆกันว่ามีควาขลังขนาดไหน
3. ผีปอบ
“ผีปอบ” เป็นผีพื้นบ้านของชาวอีสาน กินเครื่องในเป็นอาหาร เมื่อตอนเป็นมนุษย์ได้เรียนคุณไสย์มนต์ดำ ได้กระทำผิดกฎ ของดำจึงเข้าตัวจนกลายเป็นปอบ “ผีปอบ” จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ ปอบมักจะแฝงสิงสู่อยู่ในมนุษย์ ผู้ใดที่ถูกปอบสิงจะมีลักษณะกลางวันนอนหลังหรือเหมือนป่วยลุกไม่ไหว แต่พอตกกลางคืน ปอบก็จะใช้ร่างนั้นออกหากิน และกินตับไส้ผู้ถูกสิงอีกด้วย
4. ผีกระหัง
“ผีกระหัง” จะมีชื่อเรียกอีกหนึ่งคือ “ผีกระหาง” เป็นผีพื้นบ้านตามความเชื่อของคนไทย ผู้ที่เป็นกระหัง เชื่อกันว่าเป็นผู้เรียนคุณไสย์มนต์ดำ จนไม่สามารถควบคุมวิชามนต์ดำที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมาจนเข้าตัวจนกลายเป็นกระหัง ลักษณะของผีกระหัง คือ มันจะใช้กระด้งที่ฝัดข้าวนำมาติดบริเวณแขนทำเป็นปีก และใช้สากกระเบือกทำเป็นขาหรือหาง ออกโบยบินในเวลากลางคืนเพื่อหากิน
5. ผีกระสือ
“ผีกระสือ” หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ผีลากไส้” เป็นดวงจิตประเภทหนึ่งทีชอบเช้าไปสิงสู่ในตัวผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ได้พบเห็นมักจะเป็นยายแก่คนหนึ่ง อาหารของผีกระสือคือ ของสดของคาว ในยามกลางคืนผู้ที่ถูกสิงสู้จะออกหากินไปแต่หัวกับไส้ ร่างกายอยู่ที่บ้าน ผุ้ที่พบเห็นผีกระสือจะเห็นเป็นดวงไฟสีแดงหรือสีเขียวออกเรืองแสงวาบๆพอใกล้เช้าถึงจะกลับเข้าร่างกายตัวเอง
6. ผีนางตานี
“ผีนางตานี” จะเป็นดวงจิตเพศหญิงที่สิงสถิตย์อยู่ในต้นกล้วยตานี ลักษณะของผีนางตานีนั้นจะมีเครื่องนุ่งห่มเป็นสไบสีเขียวตองอ่อนเหมือนสตรีโบราณ มีกลิ่นกายที่หอมสเหมือนดอกกล้วย ผีนางตานีมีหลากหลายตำนาน คนเฒ่าคนแก่ได้เล่าบอกต่อกันว่า ผีนางตานีจะมีหน้าตาที่สวยงาม มีผมยาวดำ ผิวกายมีกลิ่นหอม ชาวบ้านได้รู้เช่นนี้จึงไม่มีใครกล้าปลูกต้นกล้วยตานีไว้ใกล้บ้านตนเองกันเลย
7. ผีนางตะเคียน
“ผีนางตะเคียน” เป็นผีพื้นบ้านของคนไทย ซึ่งว่ากันว่าผีนางตะเคียนจำพวกนี้จะเป็นรุกขเทวดาที่สิงสถิตย์อยู่ในต้นตะเคียน ลักษณะผีนางตะเคียนจะมีรูปร่าหน้าตาที่สวยงาม ผมยาวดำ นุ่งห่มสไบ ผีนางตะเคียนมักจะมีนิสัยที่ดุร้ายเพราะนางจะหวงที่อยู่กลัวใครจะมาทำร้ายบ้านของตัวเอง ต้นตะเคยนมักจะถูกตัดออกมาเพื่อแปลงถ้ากลายเป็นเรือนางจะกลายเป็น “แม่ย่านางเรือ” ถ้าแปลงไปเป็นเสาบ้านก็จะกลายเป็นเจ้าที่
8. ผีกุมารทอง
“ผีกุมารทอง” ความเชื่อของชาวไทยเป็นดวงจิตหรือวิญญาณของเด็กผู้ชายเท่านั้น ถ้าเป็นดวงจิตของทางเพศก็จะเรียกว่า “โหงพราย” ณในเวลาปัจจุบันนี้ “ผีกุมารทอง” จะนิยมสร้างเป็นทรงเด็กผู้ชาย ไว้จุก จนกลายเป็นเครื่องรางของลังไปเลย ผู้ที่มีไว้ “ผีกุมารทอง”ไว้ครอบครองถ้าเกิดเลี้ยงดูไม่ดี กุมารก็จะให้โทษผุ้เลี้ยงดูได้เช่นกัน
9. ผีกองกอย
“ผีกองกอย” หมายถึง ผีป่าชนิดหนึ่ง มีรูปร่างลักษณะไม่ปรากฏเป็นที่ชัดเจน แต่ที่พบเห็นกันบ่อยคือผีกองกอยจะมีขาเพียงแค่ขาเดียวเวลาออกหากินก็จะคลื่อนที่โดยการกระโดดไปข้างหน้าและจะมีเสียงออกมาจากพวกเขาว่า “กองกอย” หรือบางคนก็ว่าเป็น “ผีโป่ง” หรือ “ผีโป่งค่าง” นั้นเอง
10. ผีพราย
“ผีพราย” ดวงจิตวิญญาณประเภทหนึ่ง ที่มีความสามารถทำให้พวกเราได้รับรู้ว่าพวกเขามีอยู่จริง ส่วนใหญ่จะเป็นวิญญาณผู้หญิงหรืออาจจะแสดงเป็นดวงไฟขนาดเล็ก “ผีพราย” มักจะอาศัยอยู่ตามลำคลองหรือแม่น้ำที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ผีพรายจะไปปรากกอยู่ในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน เวลาที่มักจะได้พบเจอกับผีพรายคือ 6 โมงเช้า, 6 โมงเย็น, เที่ยงคืน, เที่ยงวัน
ที่มาข้อมูล