
1.หมู่บ้านพลัคลีย์ ประเทศอังกฤษ
หมู่บ้านแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เฮี้ยนมากที่สุดในเกาะอังกฤษ โดยได้รับการยอมรับถึงเรื่องความน่ากลัวจากกินเนสบุ๊คเมื่อปี ค.ศ.1989 หลังจากที่มีคนพบวิญญาณมากที่สุด 12-16 ดวงในหมู่บ้านแห่งนี้ วิญญาณที่คนพบเจอกันมากที่สุด คือ วิญญาณผู้ชายที่เฝ้าร้องกรี๊ดร้องวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน ชาวบ้านเชื่อกันว่าในสมัยก่อนเขาทำงานก่อสร้างบ้าน แล้วพลัดตกลงมาจนกระทั่งเสียชีวิตลง และอีกดวงก็คือวิญญาณผู้ชายที่ถูกฆ่าตายด้วยการปกดาบผ่านร่างตรึงไว้กับต้นไม้ แม้ว่าต้นไม้จะถูกตัดไปนานแล้ว แต่ผู้ที่ผ่านไปแถวนั้นจะพบเห็นฉากการต่อสู้และการฆ่ากันตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าตรงที่เดิม

2.เกาะตุ๊กตา เม็กซิโก
เกาะแห่งนี้มีเรื่องเลากันว่า เคยเป็นที่เสียชีวิตของเด็กหญิงรายหนึ่ง เธอจมน้ำตายขณะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ต่อมาในปี ค.ศ.1950 มีชายคนหนึ่งได้ใช้เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นบ้าน แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเด็กหญิงอยู่ทุกคืน ทั้งเรียกเขาจากในน้ำ ท้งร้องเพลง เขากลัวมากจึงเริ่มนำตุ๊กตามาไว้บนเกาะ โดยแขวนมันไว้ตามต้นไม้ทุกต้น และทุกซอกทุกมุมของเกาะ เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้วิญญาณของหนูน้อยไม่เหงาและสงบลงได้ ในปี ค.ศ.2001 ชายคนนั้นได้ตายลง พบศพนอนจมน้ำคว่ำหน้าจุดเดียวกับที่เด็กหญิงคนนั้นตาย หลังจากนั้นมา ก็มีคนในพื้นที่บอกว่า พบตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้หันหัวได้ ลืมตาเองได้

3.เกาะฮาชิมะ ญี่ปุ่น
เกาะแห่งนี้ไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากไปกว่าเหมืองถ่านหินเก่าและสถานที่คุมขังนักโทษสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกปล่อยร้างเอาไว้นับ 40 ปี แม้ว่าไม่มีประวัติความเป็นมาว่าเคยมีคนตายอยู่บนบนเกาะนี้นับพันนับหมื่นชีวิต หากดูจากสภาพความรกร้างบนเกาะและตึกเก่าที่สุดแสนจะทรุดโทรมแล้ว หลายคนคงไม่อยากจะไปนอนค้างอ้างแรมที่เกาะนี้แน่ ๆ เรื่องความเฮี้ยนดูเหมือนจะพอมีมาให้ได้ยินอยู่บ้าง

4.ภูเขาแห่งกางเขน ลิทัวเนีย
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลึกลับมากในเรื่องความเป็นมา ไม่มีใครู้ว่าคนสมัยก่อนปักไม้กางเขนไว้ทำไมมากมายขนาดนี้ แต่คาดว่าน่าจะเริ่มทำกันมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1830 เรื่อยมาจนปัจจุบันมีไม้กางเขนมากมาย คาดว่าน่าจะมีจำนวนราว 1หมื่นอันเป้ฯอย่างต่ำ และในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา สถานนี้ถูกใช้เป็นสถานที่แห่งการอธิษฐานและมีการปักไม้กางเขนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ บรรยากาศดูวังเวงและน่ากลัวพิลึก

5.สุสานใต้ดินในกรงปารีส ฝรั่งเศส
เป็นอุโมงค์ใต้ดินที่กลายเป็นที่ฝังศพของผู้คนมากกว่า 6 ล้านศพ หลังจากมหานครปารีสเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อนับร้อยปีก่อนและทางการอยากให้มีพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยมากขึ้นและเมื่อย้ายสุสานลงมาใต้ดินไว้เก็บศพผู้คนเรื่อยมา ในที่สุดสุสานใต้ดินก็มีสภาพอย่างที่เห็น คือมีโครงกระดูกเรียงรายอยู่เต็มไปหมด

6.ปราสาทเอดินบะระ สกอตแลนด์
เป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลอนที่สุดในสกอตแลนด์ ใครโชคดีอาจจะเจอแจ็คพ็อต ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณคนเป่าปี่ นักตีกลองไร้หัว ผีนักโทษฝรั่งเศส และผีนักโทษนายพลสมัยสงครามปฏิวัติอเมริกา หรือแม้แต่วิญญาณสุนัขที่วนเวียนอยู่บริเวณหลุมฝังซอกของมันเอง ยังไม่รวมถึงเงาดำมืดที่ระบุไม่ได้ว่ามันคืออะไรอีกด้วย

7.เมืองร้างพริเพียต ยูเครน
ได้รับการประกาศเป็นเมืองในปี ค.ศ.1979 และมีประชาชนราว 49,360 คน แต่วันที่ 26 เมษายน ค.ศ.1986 โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลอยู่ภายในมืองได้เกิดระเบิดขึ้นหลังการทดลองผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และได้รับกัมมันตรังสีกว่า 200 คน อพยพอีกนับแสนคนในตอนนั้น ทำให้กลายเป็นเมืองร้างมาจนทุกวันนี้

8.บ้านบอร์ลีย์ อังกฤษ
เป็นแมนชั่นสไตล์วิคตอเรียในมณฑลเอสเส็กซ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านที่หลอนที่สุดในอังกฤษ สร้างเมื่อปี ค.ศ.1862 เพื่อใช้เป็นบ้านพักสำหรับนักบวช แต่สร้างเสร็จก็มีการพบเห็นวิญญาณอยู่เรื่อยมา และมีนักบวชรายหนึ่งตกหลุมรักแม่ชีในโบสถ์ที่อยู่ใกล้ ๆ จึงวางแผนที่จะพาหนีตามกันไป แต่บาทหลวงจับได้เสียก่อน นักบวชรายนี้จึงผูกคอตายท่บ้านบอร์ลีย์ ส่วนแม่ชีที่สมรู้ร่วมคิดนั้นได้ถูกฝังทั้งเป็น จากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นผีคอยหลอกหลอนคนที่เข้าใกล้บริเวณนี้ทุกคน

9.หอคอยลอนดอน อังกฤษ
เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 900 ปี ตลอดเกือบพันปีมานี้ หอคอยถุกใช้เป็นป้อมปราการ ปราสาท พระราชวัง เรือนจำ และลานประหาร ไม่แปลกเลยที่มีคนจำนวนมากเสียชีวิตอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ปัจจุบันดวงวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่ไม่ยอมไปไหน ทำให้มีเรื่องเล่าสุดหลอนมาให้ยินอยู่เรื่อย ๆ

10.ป่าอาโอกิกาฮาระ ญี่ปุ่น
เป็นป่าพื้นที่ราวกว่า 35 ตารางกิโลเมตร ที่ทอดตัวอยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิ เป็นป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ใครเลยจะเชื่อว่าป่าแห่งนี้มีคนมาฆ่าตัวตายเฉลี่ยแล้วปีละกว่า 100 คน
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตแตกง่าย