10 ตำนานป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ

หัวข้อในบทความผี

ตำนาน ผีต่างประเทศ

    ป่าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและความสงบ ที่จะทำให้คนที่ได้เดินเข้าไปนั้นรู้สึกสงบและสบายใจ แต่มีใครรู้บ้างว่าป่าที่เราเดินๆ กันอยู่นั้น ก่อนหน้านั้นได้มีเรื่องอะไรมาก่อนรึเปล่า วันนี้แอดได้นำ 10 ตำนานป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ ประเทศที่เต็มไปด้วยป่าไม้ที่มีประวัติน่ากลัว ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นยังไง ลองอ่านกันได้เลยครับ บรือออ….

1. เอ็ปปิ้งฟอเรสต์ (epping forest) (ระดับความสยอง : 7/10)

   เอ็ปปิ้งฟอเรสต์เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่มีอายุมาแล้วเนิ่นนานและกินพื้นที่ภายในประเทศอังกฤษกว่า 5900 เอเคอร์ ป่าแห่งนี้อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างลอนดอนกับเอสแซก ซึ่งคนในประเทศอังกฤษนั้นต่างรู้ดีถึงความน่ากลัวของป่าเอ็ปปิ้งแห่งนี้ เหล่าคนอังกฤษนั้นรู้จักกันว่าป่าแห่งนี้เป็นสถานที่สำหรับฝังศพเหยื่อที่คนร้ายนั้นเป็นคดีที่เกี่ยวกับฝาแฝดคู่หนึ่งที่ได้ถูกฝั่งศพบริเวณนี้ 

   หลังจากคดีชื่อดังที่คู่ฝาแฝดนั้นได้ถูกฝั่งศพลงไป หลังจากนั้นผู้คนก็ต่างได้รู้ถึงเกี่ยวกับคดีแห่งนี้ จึงได้มีการพบเจอสิ่งแปลกๆ ในบริเวณป่าแห่งนี้ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นต่างล่ำลือกันเกี่ยวกับความดุของวิญญาณที่สิ่งสถิตอยู่ในป่าแห่งนี้ คำว่าดุที่พวกเขาหมายถึงนั่นก็คือการออกมาอาละวาดของเหล่าผีที่ทำให้ชาวบ้านนั้นรู้สึกกลัว ชาวบ้านต่างพูดกันเลยว่าพวกเขาสามารถจับต้องเหล่าวิญญาณที่อยู่ที่นี่ได้ เพราะได้มีหลายคนที่ได้โดนผีที่อยู่ที่นี่วิ่งไล่และถึงขั้นโดนพลักให้ล้มก็มี

   มีการพูดถึงป่าแห่งนี้ในช่วงปี 2003 ซึ่งนับได้ว่าเป็นปีที่โหดร้ายมากที่สุดสำหรับที่นี่ ได้มีการพูดถึงป่าแห่งนี้ด้วยผู้ที่มาล่าท้าพิสูจน์เกี่ยวกับผีที่อยู่ที่นี่ พวกเขาเล่าว่าพวกเขาตัดสินใจเดินทางมาที่ป่าเพื่อที่จะตามหาผีตนหนึ่งที่พวกเขาเคยได้ยินมา ผีตนนี้ตอนมีชีวิตนั้นเขาก็คือโจรร้าย เป็นโจรที่ใช้ป่าเอ็ปปิ้งนี้เป็นที่หลบพลางให้กับตัวเองและได้นำเหยื่อผู้โชคร้ายมาฆ่าทิ้งที่นี่แล้วหลายคน เหล่าคนล่าท้าพิสูจน์นั้นเชื่อกันว่าผีโจรตนนี้พยายามที่จะสื่อสารกับพวกเขาอยู่ตลอดเวลา พวกเขาได้เดินเข้าไปในป่าและได้หลงทางและออกนอกเส้นทางจนทำให้พวกเขาหลงเป็นเวลานานจนได้รับความช่วยเหลือในภายหลังซึ่งพวกเขาคิดว่ามันคงเป็นเพราะผีที่ทำให้พวกเขาหลงทาง

   ยังมีข่าวลืออื่นๆ เกี่ยวกับความน่ากลัวของป่าแห่งนี้ ในช่วงปี 1960 ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นหลายคนต่างยืนยันกันว่าพวกเขาได้เห็นเงาร่างดำใหญ่ของใครบางคน ซึ่งเงานันได้ออกมาจากบ่อน้ำกลางป่า ค่อยๆเดินออกมาจากบ่อน้ำมืดนั้น และขี่ม้าสีดำวิ่งไปทั่วในบริเวณป่าซึ่งไม่มีใครสามารถเห็นใบหน้าที่แท้จริงได้เพราะผีตนนี้ไม่มีหัว ซึ่งข่าวลือนี้เป็นตำนานที่ถูกเล่ามาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันก็ยังมีการเล่าเรื่องนี้ให้คนรุ่นใหม่ได้ฟังกัน

2. เกรดวูด (Great wood) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ในป่าเกรดวูทนั้นได้มีสถานที่ขนาดใหญ่ได้ถูกสร้างเอาไว้นั่นก็คือปราสาทขนาดใหญ่ที่มีไว้ให้กับพระนางแอนโบลีน ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนรู้จักป่าแห่งนี้ในนามป่าเกรดวูท สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่รู้จักกันเกี่ยวกับผีเฮี้ยนและดุที่มีอยู่ในสถานที่แห่งนี้มันเป็นที่โด่งดังมาก ซึ่งในนั้นได้ต่างมีผู้คนบอกว่าวิญญาณเฮี้ยนที่สถิตอยู่ ณ ที่แห่งนีก็คือ วิญญาณของพระนางแอนโบลีนและบิดาของเธอ ที่ได้เสียชีวิตอยู่ที่นั่น

   พระนางแอนโบลีนนั้นได้เสียชีวิตโดยการถูกประหารและเมื่อถึงวันครบรอบวันที่เธอได้ถูกประหารนั้น (วันนั้นคือวันที่ 19 พ.ค) ผู้คนที่อยู่ที่นั่นจะต่างยืนยันกันว่าพวกเขาได้เห็นวิญญาณของพระนางแอนโบลีน ยังคงได้อยู่ที่นั่นให้พวกเขาได้เห็น สิ่งที่พวกเขาได้เห็นคือเห็นวิญญาณของเธอนั้นขี่ม้าออกมาจากป่า พร้อมกับทหารที่อยู่กับเธอนั้นถึงสี่นาย ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวคือวิญญาณทหารทั้งสี่นายนั้น พวกเขาล้วนไม่มีศีรษะอยู่บนหัวเลยซักตน ในขณะที่วิญญาณของพระนางแอนโบลีนที่ปรากฏนั้นก็ไม่มีศีรษะเช่นกัน จนวิญญาณของพระนางแอนโบลีนมาถึงที่ห้องโถ่ง วิญญาณของเหล่าทหารที่ตามมากับเธอนั้นจะหายตัวไป มีการพูดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าหลังจากที่วิญญาณของทหารหายไป วิญญาณพระนางแอนโบลีนก็จะเดินสำรวจไปรอบๆ ปราสาทของเธอ ในระหว่างที่วิญญาณพระนางนางแอนโบลีนกำลังเดินสำรวจอยู่นั้นได้มีผู้คนเห็นตรงมือด้านขวาของเธอนั้นกำลังถืออะไรบางอยู่อยู่ แต่หลังจากสังเกตดีๆ แล้วนั้นก็จะรู้ได้ทันทีว่านั่นก็คือศีรษะของเธอนั่นเอง

   ส่วนโทมัสโบลีนผู้ซึ่งเป็นบิดาของพระนางแอนโบลีนนั้นก็ได้โดนประหารชีวิตอย่างเดียวกับที่ลูกสาวของเขาได้โดน เคยมีรายงานที่เขียนไว้ว่าได้มีชาวบ้านที่ได้เห็นวิญญาณของพระองค์ได้เดินและยืนอยู่แถวๆสะพานทางเข้าปราสาท วิญญาณของพระองค์นั้นจะเดินทางไปมาซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเขาจะหยุดเดินตอนไหน ชาวบ้านบางคนได้บอกเอาไว้ว่าสาเหตุที่วิญญาณของโทมัสโบลีนได้เดินไปมาอยู่ตรงสะพานแบบนั้น ก็เพราะว่าพระองค์ยังคงเสียใจที่ได้ปล่อยให้พระนางแอนโบลีนได้ถูกจับตัวไปประหารชีวิต ซึ่งปัจจุบันนั้นหากใครสนใจสถานที่แห่งนี้ก็สามารถเข้าไปดูที่สถานที่จริงได้และหากได้เข้าไปดูสถานที่จริงนั้นก็จะมีการพูดถึงเกี่ยวกับวิญญาณของทั้งพระนางแอนและโทมัสโบลีน ที่ได้ออกมาให้ชาวบ้านได้เห็นกันถ้วนหน้า ซึ่งหากใครได้ศึกษามาก่อนนั้นพวกเขาก็จะรู้ดีว่า วันที่ 19 พ.ค. นั้นเป็นวันที่ไม่ควรไปที่สถานที่นี้อย่างที่สุด เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์แตกง่าย

3. เดอะนิวฟอเรสต์ (New Forest) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ป่านิวฟอเรสต์นั้นได้ถูกพูดถึงในฐานะที่ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่มีขนาดใหญ่และมีผีเฮี้ยนที่สามารถพูดได้ว่าอาจจะมากที่สุดในประเทศอังกฤษแล้ว ได้มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับการเห็นผีของชาวบ้านที่ป่านิวฟอเรสต์แห่งนี้ ซึ่งมีผู้ที่พบเจอผีที่ป่าแห่งนี้อยู่ทุกปี ซึ่งในแต่ละปีก็มีรายงานอยู่หลายครั้งที่มีการพูดถึง มันเป็นป่าที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งหากใครได้อาศัยอยู่ใกล้ๆ บริเวณป่าแห่งนี้ก็ล้วนจะมีประสบการณ์สุดประหลาดเกิดขึ้นในบริเวณบ้านของพวกเขา ตัวอย่างเช่น เคยมีโต๊ะหรือเก้าอี้ภายในบ้านนั้นเคลื่อนที่เองได้โดยที่ตอนพวกเขาออกไปข้างนอกและกลับมามันก็ไม่อยู่ที่เดิมแล้ว นอกจากนี้พวกเขาก็พบเห็นวิญญาณอื่นๆ ที่อยู่ทั้งภายในป่าและรอบนอกตัวป่าแห่งนี้อยู่บ่อยๆ ครั้ง

   หนึ่งในผีชื่อดังที่ป่านิวฟอเรสต์แห่งนี้คือ กษัตริย์วิลเลียมที่สอง พระองค์ได้ถูกรอบสังหารโดยคนที่พระองค์รู้จัก ซึ่งหลังจากที่พระองค์ได้เสียชีวิตลงก็ต่างมีชาวบ้านได้เห็นวิญญาณที่เดินวนเวียนอยู่แถวศิลาที่เป็นเหมือนที่ฝั่งศพของพระองค์ ซึ่งลักษณะของวิญญาณตนนั้นสามารถเห็นได้ชัดมากและมีลักษณะที่เหมือนกษัตริย์วิลเลียมที่สอง ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านได้เห็นคือชายผมยาวสีแดงที่เดินอยู่วนๆ แถวนั้นซึ่งทำให้ชาวบ้านสรุปว่าเป็นวิญญาณของท่านอย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านหลายคนได้เห็นและได้สร้างความหลอกหลอนถึงทุกคนจนเป็นที่รู้จักกันว่าสถานที่แห่งนี้มีวิญญาณของพระองค์สถิตอยู่อย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทำไมวิญญาณของพระองค์ยังคงวนเวียนอยู่ที่ศิลาของพระองค์ อาจจะเป็นเพราะพระองค์คงอยากได้ความเป็นธรรมคืนก็เป็นได้

   นอกจากนี้บริเวณด้านรอบนอกของบริเวณป่านิวฟอเรสต์แห่งนี้ ยังเป็นที่โด่งดังของวิญญาณของกลุ่มนักบวช ซึ่งกลุ่มวิญญาณนี้โผล่มาในลักษณะที่เดินอยู่บนถนนเป็นกลุ่มที่กำลังเดินไปที่ไหนซักแห่ง ซึ่งวิญญาณของกลุ่มนักบวชนั้นจะปรากฏอยู่ใกล้ๆ กับสุสานที่อยู่ใกล้ๆ โบสท์ หลังจากที่พวกวิญญาณเดินไปได้ซักพักพวกเขาก็ค่อยๆ หายไปพร้อมกับหมอกที่อยู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาในตอนนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีตำนานอื่นๆ ที่ได้พูดถึงกัน มีทั้งตำนานของเหล่าแม่มดที่เป็นที่พูดถึงของผู้คนในสมัยก่อน เสียงของวิญญาณที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณนี้ซึ่งวิญญาณเหล่านี้ร้องโหยหวนเหมือนเป็นอาการทรมานจากอะไรบางอย่าง และยังมีใบหน้าของใครบางคนที่มีลักษณะน่ากลัวที่จะโผล่มาบนหน้าตาของชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น

4. ฟาวเทนส์ แอบบี้ (Fountains Abbey) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ฟาวเทนส์ แอบบี้ สามารถพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สามารถเจอได้ในประเทศอังกฤษ เป็นสถานที่ที่อยู่ในตอนเหนือของประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีเหล่านักบวชเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เพื่อเก็บตัวเกี่ยวกับทางศาสนา แต่นอกเหนือจากเรื่องที่ว่ามานั้น ฟาวเทนส์ แอบบี้ ก็ยังคงโด่งดังเรื่องเกี่ยวกับลี้ลับน่ากลัวสยองขวัญไม่แพ้ที่อื่นในโลกเลย สถานที่แห่งนี้ถูกก่อตั้งในช่วงปี 1132 ซึ่งถือว่าเป็นเวลานานมากนับจากปัจจุบัน เกี่ยวกับเรื่องราวความน่ากลัวนั้นได้พูดถึงเกี่ยวกับวิญญาณของนักบวชที่จากไปภายในพื้นที่แห่งนี้ ภายในโบสท์ที่อยู่ที่แห่งนี้นั้นได้มีผู้คนที่เห็นวิญญาณของเหล่านักบวช ซึ่งว่ากันว่ามีนักบวชที่ได้เสียชีวิตกว่า 2000 รูปที่ได้เสียชีวิตลงไปและถูกฝั่งไว้ในใต้สถานที่แห่งนี้ 

    มีหลายจุดที่นี่ ที่ชาวบ้านมักได้ยินเสียงเหมือนสวดภาวนามาดังก้องมาจากภายในโบสท์บ้าง รอบๆ ตัวโบสท์บ้าง ซึ่งบางจุดนั้นไม่น่าจะมีใครเค้าไปเพื่อไปสวดมนต์กันอย่างแน่นอน บางจุดก็จะอยู่ตรงสวนดอกไม้และป่ากว้าง ซึ่งเคยมีผู้ที่มาจากที่อื่นได้เข้ามาดูสถานที่แห่งนี้และได้ทำการถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึกแต่สิ่งที่พวกเขาได้กลับไปนั่นก็คือภาพติดวิญญาณที่อยู่ภายในป่า และบางรูปก็มีอยู่ในโบสท์เช่นกัน แม้กระทั่งตรงสวนกวางที่อยู่แถวๆ นั้นซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวกับวิญญาณเกิดขึ้น แต่ก็ไม่พ้นต้องมีคนเห็นวิญญาณอยู่แถวนั้นเช่นกัน

   ซึ่งโดยปกติแล้วช่วงเดือนก.ค.จะเป็นเดือนที่ ฟาวเทนส์ แอบบี้ ถูกเปิดให้มีเทศกาลสวนดอกไม้ให้เหล่าผู้คนภายนอกได้เข้ามาดู ซึ่งจะมีผู้คนมากมายที่แต่งตัวครอสเพลเป็นนักบวชมาเดินอยู่ภายในงานแห่งนี้กันมากเพื่อเหมือนเป็นที่ระลึกและเครารพนักบวชที่อยู่ในที่นี่มาก่อน ซึ่งหากใครได้เข้าไปเยี่ยมชมเทศกาลสวนดอกไม้ภายในที่แห่งนี้ก็ขอให้สังเกตให้ดีนะครับว่า คนที่เดินอยู่ใกล้ๆ เราที่ใส่ชุดนักบวชอยู่นั้น เค้าใช่คนที่แต่งครอสเพลหรือเค้าเป็นนักบวชจริงๆ…

5. วิทช์วูด (Witchwood) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ป่าวิทช์วูดแห่งนี้มันอยู่ในเขตอุทยานริฟอร์ต จอช อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ป่าแห่งนี้นั้นมีเรื่องที่ล่ำลือกันจนหนาหูเกี่ยวกับเรื่องผีที่มีอยู่ในป่าแห่งนี้หลายรูปแบบและหลายตน ในส่วนทางเดินที่จะเข้าไปในป่าเข้า เป็นทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้เล็กต้นไม้น้อยซึ่งมันส่งผลให้ทางเดินเข้าไปในป่านั้นเป็นอะไรที่มืดมาก หากได้เดินผ่านช่องทางมือที่เข้าไปในป่าได้แล้ว คุณจะได้เจอกับน้ำตกที่พวกเขาเรียกกันว่า white lady มันเป็นน้ำตกทางสีขาวที่มีความยาวถึง 30 เมตร มันมีความสวยงามมากหากได้เห็นด้วยตาจริง แต่นอกจากความสวยงามของน้ำตกแล้ว เรื่องเกี่ยวกับที่มาของชื่อ white lady นั้นก็ยังมีที่มาที่น่ากลัวอยู่อีกด้วย ซึ่งชื่อ white lady นั้นแปลไทยก็คือผู้หญิงสีขาว หรือผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาว ซึ่งเล่ากันว่ามีผู้คนที่มักจะเห็นผู้หญิงที่ใส่ชุดสีขาวยืนอยู่แถวน้ำตกด้วย เธอใส่ชุดสีขาวบริสุทธิ์และเธอจะคอยช่วยเหลือผู้คนไม่ให้จมน้ำ เพราะบริเวณใต้น้ำตกนั้นเป็นบริเวณที่อันตรายเพราะมีความลึกที่ลึกมากและมักที่จะมีคนตกลงไปและเสียชีวิตลง ซึ่งสาเหตุที่เธอสามารถช่วยผู้คนได้นั้นเพราะว่าเธอไม่ใช่มนุษย์

   มันยังคงมีอีกสถานที่บริเวณหนึ่งที่มีความน่ากลัว พวกเขาเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าหุบเขาหม้อของปีศาจ จากข้อมูลที่มีนักข่าวหลายแหล่งได้เขียนไว้ พวกเขาได้เขียนไว้ว่าบริเวณส่วนนี้คือแม่น้ำวน มันเป็นสถานที่อันตรายมาก หากพลาดหรือประมาทไปเพียงชัวครู่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตได้ เคยมีคนบอกว่าใจกลางของแม่น้ำวนแห่งนี้พวกเขาเคยได้เห็นเหมือนโลกอีกใบที่เหมือนมีปีศาจอยู่ข้างในนั้นจริงๆ

   ซึ่งด้วยความที่วิทช์วูดแห่งนี้มีสถานที่อันตรายถึงสองแห่งที่สามารถเห็นได้ชัดนั่นจึงทำให้มีผู้คนเชื่อกันว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยวิญญาณของผู้ที่ได้พลาดและได้เสียชีวิตลงไปในบริเวณทั้งน้ำตก white lady และตรงบริเวณหุบเขาหม้อของปีศาจ ซึ่งก็มีบางคนที่เคยเดินทางมาเพื่อมาดูความสวยงามของพื้นป่าแห่งนี้แต่เขาก็ได้เจอกับกลุ่มคนกลุ่มอื่นที่พวกเขาเหมือนจะเข้ามาในป่าแห่งนี้มาก่อน แต่ซักพักหลังจากเจอกันพวกเขาก็ได้เดินหายโดยไร้สาเหตุและก็ไม่มีใครหาพวกเขาเจออีกเลย นั่นก็ต่างเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเชื่อว่าในป่าแห่งนี้คงมีวิญญาณจากผู้เสียชีวิตที่ได้ตายไปก่อนหน้านี้อยู่มาก

6. แบรดลีย์วูดส์ (Bradley Woods) (ระดับความสยอง : 9/10)

   ป่าแบรดลีย์วูดนั้นได้มีหมู่บ้านที่ชื่อว่าหมู่บ้านแบรดลีย์อยู่ในลิงคอล์น ซึ่งที่นี่นั้นได้ถูกกล่าวเอาไว้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ผีดุและเฮี้ยนที่รู้จักกันในนามเลดี้ แบล็กลีย์วูดส์ (lady bradley woods) หรือในความหมายภาษาไทยคือผู้หญิงสีดำแห่งป่าแบรดลีย์

   มีชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นต่างล่ำลือเกี่ยวกับการได้เจอวิญญาณกันมานัดต่อนัดวิญญาณของผู้หญิงสีดำคนนั้นคอยออกมาหลอกหลอนอาระวาดผู้คนชาวบ้านที่อยู่ริมเขตแดนของหมู่บ้าน ลักษณะของวิญญาณที่ชาวบ้านได้พูดอ้างอิงเอาไว้นั้นก็คือ เธอส่วมเสื้อเหมือนชุดฮูตยาวสีดำ ตลอดเวลาที่เธอเดินหรือทำอะไรนั้นเธอจะร้องไห่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยน้ำตา ซึ่งถึงจะเป็นแบบนั้นวิญญาณของเธอก็ไม่เคยมีคนบอกว่าได้รับบาดเจ็บหลังจากที่ได้เห็นวิญญาณของเธอ แต่หลังจากที่ชาวบ้านได้เห็นเธอก็ต่างตกใจและวิ่งหนีกัน มันเป็นภาพที่ติดตาทำให้ชาวบ้านกลัวและหลอกหลอนชาวบ้านตลอดเวลา บางคนก็ได้เล่าเอาไว้ว่าบางครั้งที่พวกเขาได้ขับรถผ่านบริเวณแถวนั้น เหมือนจะมีใครบางคนที่ตั้งใจกระโดดออกมาจากป่าเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันอย่างกะทันหัน แต่เมื่อชาวบ้านได้ออกมาดูข้างนอกรถก็ต้องพบกับเพียงความว่างเปล่า

   นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานทีได้ถูกบันทึกเอาไว้เกี่ยวกับวิญญาณของผู้หญฺิงสีดำเอาไว้ว่า เธอจะปรากฏตัวในรูปของหมอกควัน หากมีใครได้พบและเห็นเธอและหากพยายามเข้าไปใกล้ๆเพื่อที่จะดูเธอ เธอก็จะค่อยๆหายไปสลายเหมือนไม่มีอะไรมาก่อน ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีบางคนยืนยันว่าพวกเขาได้ถ่ายรูปวิญญาณของเธอติดได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2019 นี้เองที่มีคนเอ่ยถึงว่าเขาได้สามารถถ่ายติดอะไรบางอย่างได้ ซึ่งเป็นรูปภาพที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ได้มีสำนักพิมอื่นๆ ได้ออกมาพูดถึงภาพถ่ายนี้ไว้ว่ามันไม่ใช่ภาพถ่ายที่ถ่ายติดวิญญาณของผู้หญิงสีดำ แต่มันเป็นภาพที่ถ่ายติดบิ๊กฟุตมากกว่า

   ซึ่งเรื่องของวิญญาณผู้หญิงสีดำนั้นมีเรื่องเล่ามากมายที่บอกไว้ว่าเป็นจุดกำเนิดของวิญญาณเฮี้ยนตนนี้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ได้เล่าไว้ว่า ตอนเธอมีชีวิตอยู่นั้นเธอเป็นเพียงแม่บ้านคนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับลูกของเธอ แต่เธอเป็นคนที่โชคร้าย เธอได้ถูกพวกมิจฉาชีพเข้ามาข่มขืนเธอจากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพนั้นก็ได้พลางลูกของเธอไปจากเธอ นี่เป็นเพียงหนึ่งในเรื่องเล่าที่เล่ากันไว้เกี่ยวกับที่มาของเธอ แต่ก็ไม่มีใครพูดได้ว่าจริงๆแล้วเธอมาจากที่ไหนกันแน่ เพราะไม่มีใครสามารถยืนยันได้ แต่ชาวบ้านก็ยังยืนยันอยู่เรื่องหนึ่งคือวิญญาณของผู้หญิงสีดำนั้นยังคงไม่ไปไหน ยังคงอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้เหมือนคอยอะไรซักอย่างแล้วเธอคงจะหายไปเอง

7. แคนน็อกเชส (Cannock Chase) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ป่าแคนน็อกเชสนั้นเป็นสถานที่ที่เป็นชนบทขนาดใหญ่ที่อยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยป่าหนาถืบและมีสถานทีที่โล่งกว้างสลับกันไปภายในป่าแห่งนี้ ป่าแคนน็อกเชสนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของชาวอังกฤษและเป็นที่โด่งดังตั้งแต่ในช่วงปี 1960 ซึ่งป่าแคนน็อกเชสโด่งดังมาจากการเกิดเหตุคดีที่สะเทือนขวัญเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นมาหลายราย นอกจากคดีที่เกี่ยวกับการเกิดฆาตกรรมภายในป่าแล้ว ก็ยังมีคนที่รู้จักป่าแห่งนี้ในกรณีที่ว่าป่าแห่งนี้มีผีที่ดุมาก ซึ่งเรื่องที่มีผีดุในป่าแห่งนี้นั้นเป็นเรื่องที่มีมาก่อนที่ชาวบ้านจะรู้เรื่องนี้กันอีก

   ได้มีการพูดถึงโรงแรมโรงแรมหนึ่งที่อยู่ในบริเวณป่าแห่งนี้ โรงแรมนี้มีชื่อว่า The Four Crosses โรงแรมแห่งนี้ถูกสร้างมาและอยู่คู่กับป่าแคนน็อกเชสมาเป็นเวลานาน ต่างมีการพูดถึงวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ภายในโรงแรมแห่งนี้มากมาย ซึ่งวิญญาณที่พวกเขามักจะเจอนั้นคือวิญญาณประเภทพ็อลเทอร์ไกสท์หรือที่รูู้จักกันเกี่ยวกับสิ่งของที่สามารถขยับเองได้ ซึ่งภายในโรงแรมนี้มีสิ่งของที่เคลื่อนที่ได้อยู่ตลอด และยังมีเสียงเด็กร้องไห้ปริศนาดังขึ้นมาจากห้องบางห้องในโรงแรม และรวมถึงวันดีคืนดีจะมีรอยเท้าปรากฏอยู่ตรงบริเวณทางเดินทั้งๆที่ไม่มีใครได้ผ่านไปมา

   ส่วนในบริเวณของป่าแคนน็อกเชสนั้นได้มีการพูดถึงเกี่ยวกับวิญญาณของเด็กผู้หญิงที่มีดวงตาสีดำเต็มดวง ซึ่งวิญญาณของเด็กผู้หญิงคนนี้ได้เริ่มมีคนได้พบเจอเธอตั้งแต่ช่วงปี 1980 ซึ่งได้มีแม่บ้านคนหนึ่งได้พูดเกี่ยวกับเรื่องหลานที่เธอได้เจอมากับตัว ซึ่งเธอได้บอกไว้ว่า เธอได้มองไปรอบๆป่าแห่งนี้และเธอได้พบเห็นเด็กผู้หญิงยืนอยู่ข้างหลัง อายุของเด็กผู้หญิงคนนี้นั้นน่าจะไม่เกิน 10ขวบ เธอใช้มือของเธอทั้งสองข้างปิดดวงตาของเธอเอาไว้ ซึ่งตัวแม่บ้านก็ได้ถามเธอด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอะไรไหม หลังจากนั้นเด็กผู้หญิงก็กริ๊ดร้องออกมาด้วยความดัง หลังจากนั้นเธอก็เอามือทั้งสองข้างของเธอออกแล้วเธอก็ลืมตาขึ้น สิ่งที่แม่บ้านเห็นก็คือเด็กผู้หญิงคนนี้มีแต่ตาดำไม่มีตาขาวเลย เป็นสีดำสนิท ไม่มีม่านตา ซึ่งเธอก็ได้ตกใจและกำลังหันหนี แต่เด็กคนนั้นก็ได้หายไปก่อนที่เธอจะวิ่งหนีเสียอีก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทั้งแปลกทั้งน่ากลัวมาก ซึ่งข่าวเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณของเด็กตาดำนั้นมาจากสำนักงานหนึ่งที่พูดถึงแต่เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันนี้ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนี้มาจากไหนและต้องการอะไรกันแน่

8. เดอริงวูดส์ (Dering Woods) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ป่าเดอริงวูดส์นั้นอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านหนึ่งที่ชื่อว่า พาร์กลีย์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนของผีเช่นกัน เฮี้ยนขนาดที่ว่ามีการบันทึกลง Guinness book เกี่ยวกับเป็นหมู่บ้านที่มีผีเฮี้ยนที่สุดในประเทศอังกฤษ หมู่บ้านแห่งนี้ถูกล้อมไปด้วยป่าต่างๆ รวมถึงป่าเดอริงวูดส์ด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวความน่ากลัวของหมู่บ้านผีเฮี้ยนนี้ก็เกิดขึ้นมาจากป่าเดอริงวูดส์ด้วยเช่นกัน ได้มีชาวบ้านที่ได้พูดถึงการได้พบเจอวิญญาณหรืออะไรแปลกๆ ที่อยู่ในป่าอยู่บ่อยๆ ซึ่งพวกเขาได้พูดไว้ว่า พวกเขาสามารถได้ยินเสียงกริ๊ดร้องของเด็กมาจากข้างในป่า เสียงร้องของเด็กปริศนานั้นมันดังตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน นั่นก็เลยทำให้ชาวบ้านที่อยู่ระแวงนั้นต่างเรียกป่าแห่งนี้อีกชื่อหนึ่งคือป่ากริ๊ดร้อง เพราะการที่พวกเขาได้ยินเสียงกริ๊ดนั้นพวกเขาไม่สามารถหาต้นตอของเสียงนี้ได้เลยว่าเป็นเสียงของใครหรือมาจากที่ไหน ซึ่งก็ได้มีเหล่านักล่าท้าพิสูจน์ที่พยายามที่จะเข้ามาในป่าแห่งนี้เพื่อที่จะหาที่มาของต้นตอของความสยองนี้ พวกเขานั้นพยายามที่จะสำรวจจนทั่ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาต้นตอของเสียงนั้นได้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งภายในโลกออนไลน์นั้นก็ได้มีการพูดถึงความเฮี้ยนของป่าแห่งนี้เช่นกัน พวกเขาพูดถึงเสียงกริ๊ดร้องปริศนานี้กันว่า มันอาจจะเป็นของคนที่เคยโดนลักพาตัวหรืออาจจะโดนลากมาเพื่อฆ่าจนวิญญาณนั้นอาจจะต้องการความช่วยเหลือก็ได้

   นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่ากลัวที่พูดถึงนายทหารคนหนึ่ง นายทหารคนนี้เขาเดินทางมาเพื่อตั้งใจที่จะจบชีวิตตัวเองภายในป่าแห่งนี้ และยังมีเรื่องราวจากคนอื่นๆ เกี่ยวกับโจรลึกลับที่ได้ออกมาปล้นนักเดินทาง ซึ่งการมาปล้นของโจรปริศนานี้พวกเขาไม่ได้ต้องการสิ่งของหรืออะไร แต่พวกเขาได้ออกมาเพื่อที่จะทำให้นักท่องเที่ยวนั้นตกใจและวิ่งกลับเข้าไปในป่า หลังจากนั้นซักพักก็ออกมาอีก ซึ่งจะเป็นแบบนั้นจนนักท่องเที่ยวต่างกลัวและวิ่งหนีไป เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเหล่านักท่องเที่ยวมาแล้วหลายคน ซึ่งจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าโจรที่ว่านั้นใช่คนจริงๆ หรือเปล่าหรือเป็นเพียงแค่โจรที่ต้องการแกล้งผู้คนที่เดินผ่านไปมาอย่างสนุก

9. บิแชมวูดส์ (Bisham Woods) (ระดับความสยอง : 8/10)

   ป่าบิแชมวูดส์นั้นเป็นป่าที่อยู่ใกล้ๆกับ Bisham Abbey ที่อยู่ในแถบ Berkshire ตัวป่าบิแชมวูดส์นี้อาณาเขตบริเวณทั้งหมดของป่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สมบัติของตะกูลบิแชมเกือบจะทั้งหมด มันทำให้รู้ว่าตะกูลบิแชมนั้นเป็นตะกูลที่มีฐานะที่ร่ำรวยมาก ซึ่งที่นี่นั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเลดี้โฮบี้ เธอเป็นพระสหายของพระนางควีนอลิซาเบธที่หนึ่ง 

   ได้มีตำนานที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเลดี้โฮบี้ โดยปกติแล้วเธอเป็นคุณแม่ที่ค่อนข้างจะดุและเข้มงวดกับลูกชายของเธอ แต่ด้วยความที่เธอนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างควบคุมตัวเองไม่ได้ด้วยส่วนหนึ่งอาจจะด้วยเพราะความโกรธหรืออะไรบางอย่างแต่มันทำให้เธอนั้นได้ฆ่าลูกชายแท้ๆ ของเธอเองในระหว่างที่เธอกำลังทำโทษเขา สาเหตุที่เธอนั้นได้ลงโทษลูกชายของเธอจนเขานั้นได้เสียชีวิตนั้นเป็นเพียงเพราะเลดี้โฮบี้ต้องการให้ลูกชายของเธอนั้น มีความดูดีและสง่างามเหมือนกับลูกชายของญาติที่อยู่ในวงศ์ตะกูล เธอตั้งใจที่จะทำให้ลูกชายของเธอนั้นได้เป็นกษัตริย์คนต่อไปของอังกฤษแต่ไม่ทันได้ถึงขั้นนั้นลูกชายของเธอก็ได้ตายไปก่อนเสียแล้ว และหลังจากนั้นเธอก็รู้สึกเสียใจและได้เสียชีวิตลงตามไปด้วยความที่รู้สึกผิดต่อการกระทำของเธอที่ทำต่อลูกชายไป ซึ่งด้วยการกระทำของเลดี้โฮบี้นั้นได้เป็นที่มาของความน่ากลัวของ Bisham Abbey ซึ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิญญาณและผีดุมากมาย ที่หลายๆ คนต่างรู้จักกัน   ชาวบ้านที่พูดถึงวิญญาณที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ว่า พวกเขามักจะได้เห็นวิญญาณของเลดี้โฮบี้ ที่โผล่มาในลักษณะที่กำลังทำความสะอาดมือของเธอ ซึ่งมือของเธอทั้งสองข้างนั้นเต็มไปด้วยเลือดสีแดง ใบหน้าของเธอที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยน้ำตาที่โศกเศร้าเหมือนกำลังรู้สึกผิดอะไรบางอย่าง ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องเล่าอีกว่าวิญญาณของเลดี้โฮบี้นั้นจะถูกพบเห็นถี่ขึ้นในช่วงเวลาของการแต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็ต่างคาดเดากันว่าคงเป็นเพราะเธอนั้นรู้สึกเสียใจที่เธอนั้นได้สังหารลูกชายของเธอ คนที่ควรจะได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์คนต่อไป พวกเขาได้บอกไว้ว่าเลดี้โฮบี้นั้นจะแต่งตัวเป็นชุดประจำหลักของเธอที่เป็นสีขาว ในขณะที่ใบหน้าของเธอนั้นดำสนิทพร้อมกับใบหน้าที่รู้สึกผิดที่เธอนั้นได้สังหารลูกชายแท้ๆ ของเธอไป ซึ่งนั่นก็ได้สร้างความหวาดกลัวให้กลับเหล่าชาวบ้านและเป็นตำนานสำหรับวันแต่งตั้งกษัตริย์องค์ใหม่ตามๆ มา

10. วิสท์แมนส์วูด (Wistman’s Wood)  (ระดับความสยอง : 8/10)

  ในป่าวิทส์แมนส์วูดนั้นจะมีต้นโอ๊กต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ป่าแห่งนี้ ผู้คนต่างรู้จักกันในชื่อ Dartmoor และภายในป่าวิทส์แมนส์นั้นจะถูกปกคลุมไปด้วยขี้ตะไคร้เป็นหลักซึ่งทำให้ลักษณะของผืนป่านั้นดูมืดและน่ากลัวกว่าพื้นที่ป่าอื่นๆเสียอีก เคยได้มีนิตยาสารอยู่สำนักหนึ่งได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับตะไคร่และป่านี้ไว้ว่า “เหล่าต้นไม้ที่ป่าแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยตะไคร่นั้นช่างเหมือนกับแขนของคนที่กำลังคดเคี้ยวและเหมือนในมือของต้นไม้พวกนี้กำลังกำเส้นผมของแม่มดอยู่” หากใครที่ต้องการตามหาสัตว์ป่าในบริเวณแห่งนี้นั้นสามารถหาได้อย่างง่ายดายเพราะรอยเท้าสัตว์ป่าจะปรากฏได้ง่ายและเห็นได้ชัด เพราะป่าแห่งนี้ไม่ค่อยมีใครมารบกวน

   ป่าวิทส์แมนส์นั้นจะถูกเชื่อมโยงกับเรื่องเล่าตำนานของ Wish Hound ซึ่งมันคือขบวนแห่ของเหล่าสำนักผีที่ออกมาเพื่อไล่ล่าอาระวาดสัตว์อื่นๆในช่วงยามค่ำคืน Wish Hound นั้นได้มีตำนานเกี่ยวกับเรื่องอื่นอีกด้วย พวกมันคือเหล่าสุนัขผีเจ้าถิ่นที่อยู่ในป่าแห่งนี้มานาน มันจะคอยแอบซ้อนตัวอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ คอยออกตามล่าเหยื่อในเวลากลางคืน ลักษณะของ Wish Hound นั้นจะเป็นวิญญาณของหมาที่มีสีดำสนิท ซึ่งข้อมูลของวิญญาณหมานั้นมีไม่มากนักแต่ยังคงเป็นตำนานที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อน

   นอกจากนี้ภายในป่ายังมีตำนานเกี่ยวกับสะพานที่อยู่ที่ป่าแห่งนี้ ชาวบ้านได้พูดถึงเรื่องราวความเฮี้ยนของวิญญาณที่สามารถพูดได้ว่าเป็นวิญญาณเถื่อน ซึ่งมือของเหล่าวิญญาณนั้นเต็มไปด้วยเส้นผม ชาวบ้านได้เล่ากันว่าเส้นผมที่อยู่บนมือของเหล่าวิญญาณนี้คือเส้นผมของมนุษย์ที่เหล่าวิญญาณได้เข้าไปหลอกหลอนโดยการค่อยๆ ดึงผมของพวกเขาออก ซึ่งผู้คนที่มักจะโดนนั้นมักจะเป็นพวกที่เดินทางกันในตอนกลางคืน ซึ่งมันได้สร้างความกลัวจนไม่มีใครกล้าที่จะมาสะพานแห่งนี้ในตอนกลางคืนอีกเลย

   ในประเทศอังกฤษนั้นมีป่าที่มีประวัติน่ากลัวและมีตำนานมากมาย สำหรับ 10 ตำนานป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ ถือได้ว่าเป็นการรวบรวมสถานที่ป่าเฮี้ยนไว้ให้หมดแล้วของประเทศอังกฤษ และสำหรับใครที่ชอบเดินเล่นในป่านั้นอาจจะกลัวไปเลยก็ได้ถ้าได้รู้ประวัติเหล่านี้มาก่อน ยังไงก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บายบรัยย…

ที่มา : bestglitz.com, www.eppingforestguardian.co.uk, www.historic-uk.com, yorkmix.com, www.grimsbytelegraph.co.uk, www.huffingtonpost.co.uk, www.thesun.co.uk

เรื่องเล่าผีล่าสุด
Tag ผี
Annabelle (1) ข่าวผี (11) คำสาปบนดอยสูง (1) คืนพุธมุดผ้าห่ม (1) ตำนาน (122) ตำนานสยองขวัญทั่วโลก (1) ตำนานสยองทั่วโลก (2) ตึกร้างสยอง (1) ตุ๊กตาผี (1) น้ำตกไพรสวรรค์ (1) บูกี้แมน (1) บ้านร้างในประเทศไทย (1) ปราสาทผีสิง (1) ป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ (1) ผีกระสือ (1) ผีกระหัง (1) ผีญี่ปุ่น (2) ผีต่างประเทศ (61) ผีที่คนเจอบ่อยที่สุด (1) ผีอาเซียน (1) ผีฮานา (1) ภาพติดวิญญาณ (3) ภาพถ่ายติดวิญญาณ (3) มหาลัยสยองขวัญ (4) วิญญาณเฮี้ยนในจังหวัดตาก (1) วิธีการเห็นผี (1) ศุกร์ที่ 13 (1) สถานที่หลอน (48) สยองขวัญจากพันทิป (1) สไตล์การปรากฏตัวของผี (1) หนังผีไทย (1) ฮาจิซาคุ (1) เก้าอี้ผีสิง (1) เทเค เทเค (Take Take) (1) เรื่องผี (15) เรื่องเล่าผี (230) แฟรงเกนสไตน์ (1) โรงเรียนผี สุดหลอนของไทย (1) โรงเรียนหลอน (3) โรงแรมหลอน (2)