ขณะที่โลกวิทยาศาสตร์กำลังเจริญก้าวหน้าต่อไปโดยไม่ยอมหยุด แต่ในอีกด้านหนึ่งของชีวิตมนุษย์นั้นเรื่องราวลี้ลับยากต่อการพิสูจน์หลายต่อหลายเรื่องก็ยังมีเกิดขึ้นมาให้ได้รับรู้รับเห็นกันอยู่อย่างไม่ห่างหาย โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องของวิญญาณที่เร้นลับนั้นยังคงเป็นสิ่งที่เราได้ยินได้ฟังมาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาได้แล้วกว่า 20 ปีที่แล้ว โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นขณะที่ผู้ชายคนหนึ่งได้ไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนคนหนึ่ง จึงได้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ กับเรื่อง “ไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิต” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นยังไงขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
บ้านเพื่อนของเขาเป็นบ้านไม้หลังขนาดกลาง นอกจากเพื่อนของเขาและตัวเขาแล้ว ในวันนั้นภายในบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่อีกเลยเนื่องจากพ่อแม่และน้องๆของเพื่อนได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ห่างไปไม่ไกลเท่าไรนัก การไปพักบ้านเพื่อนในครั้งนี้เขารู้สึกสนุกสนานมาก เพราะเขาและเพื่อนผู้เป็นเจ้าของบ้านสามารถทำอะไรได้ตามอำเภอใจ โดยไม่มีผู้ใหญ่มาคอยดูและเตือนนัก เขาและเพื่อนของเขาจึงตัดสินใจขับรถมอไซต์ออกไปเที่ยวนอกบ้านกันในเวลากลางคืน เพราะไม่ต้องมากลัวว่าพ่อและแม่จะว่าจึงพากันไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน หลังจากเที่ยวเตร่สนุกสนานกันพอสมควรแล้ว เราสองคนก็เดินทางกลับบ้านด้วยอาการมึนเมาเล็กน้อย ระหว่างทางขณะเขาและเพื่อนได้พบรถจักรยานยนต์คันหนึ่งพลิกล้มอยู่ข้างทาง สภาพของรถคันดังกล่าว มองครั้งแรกก็รู้ได้ในทันทีว่าได้รับอุบัติเหตุค่อนข้างรุนแรง แต่รอบๆบริเวณไม่พบเห็นร่องรอยของคนขับเลย ซึ่งเขาสามารถเดาได้ว่าคนขับอาจได้รับบาดเจ็บด้วย เขาเลยคิดว่าคงมีคนที่ผ่านมาพบเห็นคงช่วยนำส่งยังโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้วคงทิ้งรถเอาไว้ แต่ตรงนั้นก็มีรอยเลือดที่กองเป็นแอ่งอยู่ไม่ห่างจากจุดที่รถคันนั้นพลิกล้มอยู่นัก
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาและเพื่อนจึงจอดรถลงไปดู ก็พบว่าสภาพของรถเครื่องคันนั้นเสียหายหนักมาก อุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆแตกกระจายร่วงหล่นเกลื่อนกลาดอยู่รอบๆ รถยับเยินแทบไม่มีชิ้นดี ขณะที่เขากำลังยืนมองสภาพรอบๆ สายตาของเพื่อนเขาก็ได้พบกับกระเป๋าหนังใบหนึ่งลักษณะคล้ายกระเป๋าเงินหล่นอยู่ตรงขอบถนน พอเห็นแบบนั้นทำให้เพื่อนของเขารีบเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสตางค์ใบนั้นขึ้นมา พร้อมกับเปิดดูก็ได้พบว่ากระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าเงินจริงๆ และมีเงินอยู่ในนั้นจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยรูปภาพของชายวัยกลางคนๆหนึ่ง พวกเขาคิดว่าคงเป็นของคนที่เกิดอุบัติเหตุนี้อย่างแน่นอน พวกเขาจึงเอากระเป๋านี้ตั้งไว้ใกล้ๆกับมอไซต์ที่พัง จากนั้นพวกเขาเดินทางกลับถึงบ้านและเข้านอนตามปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกได้ตลอดเวลาก็คือกลิ่นคาวเลือดที่ยังคงติดอยู่ที่จมูกนับตั้งแต่ได้พบเห็นอุบัติเหตุระหว่างทาง
เขาพยายามไม่สนใจกลิ่นคาวเลือดที่ได้สัมผัสและพยายามข่มตาให้หลับลงให้ได้ โดยหลังจากที่ได้พยายามอยู่นานในที่สุดก็หลับ แม้ว่าเขาและเพื่อนจะอยู่ในอาการค่อนข้างเมาจากการไปเที่ยวมาอยู่บ้าง แต่สติของเขาทั้งสองในตอนนั้นยังคงอยู่ ดังนั้นจึงจำภาพของชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของกระเป๋าเงินคนนั้นได้อย่างแม่นยำ ตอนเขาหลับนั้น มันเป็นการหลับเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่มันก็ทำให้เขาได้ฝันเห็นเหตุการณ์บางอย่างที่น่ากลัว มันเหมือนกับเขาได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจริงๆ บนถนนสายพิจิตรตะพานหินในช่วงเวลาที่มืดสนิทเขาได้เห็นมอไซต์คันหนึ่งขับด้วยความเร็วที่ไม่สูงมากนัก เขาเห็นว่าคนขับเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเหมือนกับผู้ชายภาพถ่ายในกระเป๋าเงินใบนั้น เขาขับรถตามถนนอย่างอารมณ์เย็นแต่แล้วได้ปรากฏรถบรรทุกสิบล้อคันหนึ่งที่มาด้วยความเร็วสูง จากนั้นรถบรรทุกก็ได้ขับชนเข้าด้านหลังของมอไซต์คันนั้น เสียงของมันดังมากขณะที่ร่างของผู้ชายกระเด็นหลุดออกจากรถของเขาและลงมากลิ้งอยู่บนถนนและถูกล้อของรถบรรทุกเหยียบบดขยี้เสียจนแหลกไม่มีชิ้นดี ตอนเขาเห็นแบบนั้นแทบหัวใจวายกับฝันร้ายนี้และได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา โดยที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
เขาต้องปลุกเพื่อนที่นอนหลับให้ตื่นขึ้นมาเพื่อจะได้อยู่เป็นเพื่อนไปจนกว่าจะเช้า เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันคงทำให้เขานอนไม่หลับเลย พอถึงตอนเช้าเขาและเพื่อนจึงพากันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปหาอะไรกิน ระหว่างนั้นเขาจึงได้เล่าถึงสิ่งที่ได้ฝัน พอหลังจากทำทุกอย่างเสร็จและกำลังจะกลับบ้าน เขาก็ได้เห็นรถขับผ่านหน้าเขากับเพื่อนเพื่อเลี้ยวเข้าสู่บริเวณวัดที่ตั้งอยู่ระหว่างทาง หน้าบนรถคันที่ขับผ่านมีพวงหรีดสีดำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนกระบะท้าย พร้อมกับภาพของชายวัยกลางคนที่ขยายใหญ่อยู่ในกรอบ ทันทีที่เขาและเพื่อนได้เห็นต่างก็ต้องขนลุกไปทั้งตัว เพราะจำได้แม่นยำว่ามันเป็นภาพของผู้ชายที่เราได้พบในกระเป๋าใบนั้น
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาและเพื่อนจึงเดินตามเข้าไปในบริเวณวัดเพื่อดูให้แน่ใจ ซึ่งที่นั่นเองที่ทำให้เขาต้องรู้สึกกลัวจนตัวสั่น เพราะเมื่อเขาได้อ่านข้อความต่างๆที่ระบุอยู่ภายใต้กรอบรูปของผู้ตายรายนี้ ปรากฏว่าเขาได้ตายไปแล้วเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา ไม่ใช่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อคืน อย่างที่เขาและเพื่อนได้เจอมา นั่นจึงทำให้เขาเข้าไปขออนุญาติเจ้าของงานและได้เล่ากับสิ่งที่เจอพร้อมกับไหว้ผู้ตายตรงนั้นเพื่อเป็นการขอโทษหรือไม่ให้ตามเขามานั่นเอง…
ที่มา : https://www.bookpanich.com/ เว็บสล็อต