วันนี้จะเป็นเรื่องเล่าสยองขวัญที่เกี่ยวข้องกับอพาท์เมนต์ ซึ่งนับได้ว่าอาจจะเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเป็นอย่างมาก เพราะแอดเชื่อว่าใครหลายๆคนที่ได้อ่านนั้น ตอนนี้ทุกคนอาจจะกำลังอาศัยอยู่ที่อพาท์เมนต์หรืออาจจะเคยได้อาศัยที่อพาท์เมนต์มาก่อนอาจจะเข้าใจดีเกี่ยวกับเรื่องราวต่อไปนี้ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งนั่นเอง วันนี้แอดจึงขอนำเสนอเรื่อง “ไม่สามารถอยู่ห้องนี้ได้” ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร จงระวังและอ่านในที่ดึก แล้วคุณจะพบความหลอน บรื้อ…
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาได้ 5-6 ปีที่แล้ว โดยตัวเธอนั้นได้มีโอกาสที่ได้มาย้ายอยู่ที่จังหวัดกรุงเทพเพราะเธอต้องการที่จะมาหางานที่นี่ เธอจึงต้องไปหาอพาท์เมนต์สำหรับที่พักที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ทำงาน ในตอนนั้นเธอก็ได้เดินตามหาอพาท์เมนต์กับเพื่อนของเธอที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน จนสุดท้ายนั้นเธอได้เจออพาท์เมนต์แห่งหนึ่ง ที่ตึกแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่ไม่ใหญ่ จะมีห้องพักอยู่ทั้งหมดไม่ถึง 20 ห้องเห็นจะได้และมีอยู่ประมาณ 4-5 ชั้น พอเธอเข้าไปติดต่อข้างใน เธอรู้สึกโชคดีมากที่อยู่ๆห้องก็ว่างและเธอสามารถย้ายเข้ามาอยู่ได้ทันที แต่มันก็มีอะไรแปลกๆที่เธอรู้สึกมาก็คือว่า เจ้าของหอพักนั้นอยู่ๆก็ลดค่าจองห้องให้ ลดค่ามัดจำให้ ระหว่างที่เธอกำลังจะติดต่อเรื่องชำระเงินนั้น เธอก็ได้เห็นเหมือนกับจะเป็นคนที่อยู่ที่ห้องที่เธอกำลังจะได้นั้น กำลังย้ายของออกกัน ซึ่งเธอสามารถสังเกตเห็นใบหน้าของคนเก่าได้ว่ามีสีหน้าที่ไม่ดีมากนัก
หลังจากที่ทำสัญญากันเสร็จ วันถัดมาเธอก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่ห้องนี้ทันที พอเธอได้เข้ามาที่ห้องพักใหม่ของเธอนี้ โดยห้องนั้นเป็นห้องที่ไม่ได้เก่าหรือใหม่มากนัก กำลังอยู่ในช่วงกลางๆ มีลักษณะที่กว้างพอสมควร และมีระเบียงที่ยื่นออกไปข้างนอกนิดนึงและสามารถมองห้องข้างๆได้ ปรากฏว่าในวันแรกที่เธอกำลังย้ายของเข้าห้องนั้นก็เกิดอุบัติเหตุโดยที่ตู้เย็นนั้นทับนิ้วเท้าของเธอ ทำให้เธอนั้นไม่สามารถที่จะเดินได้เท่าไหร่เพราะเจ็บเท้าของเธอ เธอจึงได้แต่อยู่ห้องทั้งวันและได้ให้เพื่อนของเธอนั้นซื้อข้าวมาให้กิน เท่ากับว่าวันแรกที่เธอย้ายเข้ามานั้นเธอก็ได้อยู่แต่ในห้องของเธอ ด้วยความไม่ชินกับการมาอยู่ที่นี่ทำให้เธอเปิดประตูห้องเอาไว้เพื่อที่จะดูคนเดินผ่านไปมา แต่แล้วเธอก็ได้สังเกตเห็นห้องที่อยู่ทางเหยื่องห้องของเธอ มีลักษณะที่เหมือนกำลังแง้มประตูเปิดมาและในห้องนั้นก็เหมือนว่ามีคนเดินไปเดินมาเป็นเงาให้เธอได้เห็นอยู่ พอเธอรู้สึกแปลกๆเธอก็ได้ปิดประตู อาจจะเป็นเพราะความไม่คุ้นชินที่เพิ่งเข้ามาอยู่จึงทำให้เธอรู้สึกแปลกๆก็เป็นได้ จึงทำให้เธอนอนไม่ค่อนจะหลับ
เธอจึงได้ลุกไปที่ระเบียงหลังห้องของเธอ พอดูอะไรเรื่อยเปื่อยไปได้สักพักห้องข้างๆของเธอก็เหมือนว่ากำลังจะมีคนเข้ามาในห้อง สักพักเธอก็ต้องตกใจเพราะมีผู้หญิงที่อยู่ห้องข้างๆมายืนอยู่ตรงระเบียงเหมือนกัน เธอหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มจึงได้มีการทักทายกันตามภาษาเพื่อนข้างห้อง พอคุยกันไปได้สักพักก็เหมือนว่าจะถูกคอกัน จึงมีการชวนกันให้เข้ามานั่งเล่นคุยกันต่อที่ห้อง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็มายืนหน้าห้องของเธออย่างรวดเร็ว และเธอจึงได้เปิดประตูให้ผู้หญิงเข้ามาในห้องของเธอทันที ตลอดการคุยกันนั้นเธอก็เก็บห้องไปด้วยและก็คุยกับผู้หญิงข้างห้องไปด้วย แต่ตลอดการคุยนั้นเธอสามารถสังเกตได้ว่าผู้หญิงคนนี้นั้นสายตาของเธอมองไปที่ตรงระเบียงตลอดเวลา จนเธอก็หาเรื่องคุยไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายนั้นเธอจึงได้ตัดสินใจถามผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวกับว่า ที่นี่มีผีไหม ผู้หญิงคนนั้นจึงได้หันหน้ามาหาเธอด้วยสีหน้าเหมือนกำลังจะยิ้มมาหาเธอแปลกๆ แต่ก็ได้ตอบว่าไม่มีหรอกผีหน่ะ และผู้หญิงถามเธอกลับมาว่า “แล้วเธอหล่ะ กลัวผีบ้างหรือเปล่า”
พอเธอได้คำถามนั้นกลับมา เธอก็ตอบทันทีว่ากลัว แล้วในจังหวะนั้นเพื่อนของเธอก็ได้โทรมาหาเธอพอดี เธอจึงได้รับโทรศัพท์เพื่อนพร้อมพูดคุยกัน โดยที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นนั่งรอไปสักแปปหนึ่ง เธอก็ได้บอกเพื่อนของเธอไปว่าตอนนี้เธอไม่รู้สึกเหงาแล้ว เพราะมีพี่ผู้หญิงข้างห้องมานั่งเล่นที่ห้องด้วย แต่แล้วเธอก็ต้องรู้สึกตกใจว่า เพื่อนของเธอได้บอกว่า ตอนเพื่อนของเธอมาเอาข้าวให้เธอนั้น ห้องข้างๆของเธอนั้นถูกล็อกด้วยกุญแจจากข้างนอกอยู่ แล้วทำไมอยู่ดีๆจะมีผู้หญิงมาอยู่ที่ข้างห้องของเธอได้หล่ะ ในตอนนั้นเธอก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาทันที และพอหันหลังกลับไปเพื่อมองผู้หญิงคนนั้น ก็ปรากฏว่าตอนนั้นผู้หญิงได้หายไปไหนแล้วก็ไม่ทราบ ทั้งๆที่ไม่มีทั้งเสียงเปิดหรือปิดประตูอะไรเลย เธอจึงตัดสินใจเปิดประตูออกไปเพื่อดูห้องข้างๆว่าเป็นอย่างที่เพื่อนเธอพูดจริงหรือเปล่า แต่แล้วเธอก็เห็นห้องข้างๆที่เธอคุยเมื่อกี้นั้น ถูกล็อคด้วยกุญแจข้างนอกจริงๆด้วย
คืนนั้นเธอจึงให้เพื่อนเธอมารับและไปนอนห้องเพื่อนทันที และเช้าวันถัดมาเธอจึงได้ขอยกเลิกสัญญาทั้งหมดและออกจากที่หอพักแห่งนั้นทันที เพราะมันเธอคงไม่สามารถอยู่ห้องนี้ได้จริงๆ…