เรื่องราวของเรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้นั้นจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งที่ได้มีนักศึกษาพยาบาลได้ไปเจอดีเข้าในระหว่างที่เข้านอน กับเรื่อง “ โรงนอนที่ 9 ” ถ้าอยากรู้ว่าเรื่องราวนี้เป็นยังไงแล้วหล่ะก็ ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ
เหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาได้เกือบ 15 ปีแล้ว ผู้หญิงผู้ที่เล่า เธอเรียนเกี่ยวกับทางด้านทางการแพทย์มา และในช่วงเวลานั้นเธอได้ไปเข้าค่ายเกี่ยวกับการรักษาทางภาคสนามที่ศุนย์ฝึกวิชาทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งทีมของเธอนั้นเป็นทีมสุดท้ายที่ได้เข้าร่วมเกี่ยวกับค่ายทางการแพทย์ของทหารในปีนั้นและเธอยังได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ในเวลานั้นด้วย เธอจึงไม่จำเป็นต้องฝึกร่วมกับเพื่อนๆของเธอและหน้าที่ของเธอมีเพียงควบคุม ดูแลและเป็นผู้ช่วยครูฝึกเพียงเท่านั้น
ในคืนแรกหลังจากที่เหล่านักศึกษาวิชาทหารได้ฝึกกันมาจนเหนื่อย ก็ได้แยกย้ายกันไปนอน ครูฝึกได้ให้พวกเขาได้นอนอย่างที่พวกเขาได้เคยฝึกมาก็คือนอนเรียง เธอนั้นก็ได้เข้าไปนอนด้วยเช่นกัน เธอนั้นได้นอนเป็นคนแรกของแถว ภายในโรงนอนที่ 9 ที่เป็นโรงนอนหลังสุดท้ายติดกับชายป่า แต่ละโรงนอนจะมีเวรยามที่พลัดเปลี่ยนกัน ในทุกๆสองชั่วโมง หลังจากที่ทุกคนทำอะไรกันเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องรีบนอนเพราะในวันพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ในระหว่างที่เธอนั้นกำลังจะหลับ เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนมาเรียกอยู่ที่หน้าโรงนอน “นายหญิง นายหญิง นายหญิงขอรับ” เธอได้ยินเสียง จึงได้ลุกขึ้นมาและมองออกไปจากโรงนอน และได้เห็นคนเฝ้าเวรเดินไปมาอยู่ เธอจึงได้ตะโกนถามไปว่า “มีใครได้เรียกเธอรึเปล่า” แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ ไม่มีใครเรียกเธอเลยทั้งนั้น น่าจะหูฟาดไปเอง เธอจึงได้กลับไปนอน
หลังจากเธอกำลังหลับไปได้ซักพัก เธอก็ได้ยินเสียงคนเรียกเหมือนเดิม ใช้คำพูดแบบเดิม ด้วยความหงุดหงิดเพราะความง่วงจึงได้ลุกขึ้นมาและมองหน้าออกไปดูข้างนอกอีก แต่แล้วเธอก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้เธอต้องขนลุก นั่นก็คือเธอได้เห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งมีรูปร่างลักษณะที่สูงใหญ่ กำยำ แต่งตัวเหมือนกับนักรบโบราณ กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าประตูและทันใดนั้น เขาก็พูดออกมาว่า “ท่านหญิง เรารีบหนีกันเถอะครับ พวกทหารกำลังจะมาเราต้องรีบไปขอรับ” สิ่งที่ชายคนนี้พูดนั้นเป็นเหมือนคนสมัยเก่าได้พูดกัน เธอก็ได้ถามกลับไปว่า “คุณเป็นใครกันแน่” ชายคนนั้นก็ไม่ตอบพร้อมกับโยนดาบที่อยู่ในมือให้กับเธอ หลังจากนั้นตัวเธอก็สั่นอย่างหนักด้วยความตกใจและเริ่มคิดว่านี่เธอกำลังฝันไปรึเปล่า แต่แล้วเธอก็ต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับเพื่อนของเธอที่กำลังรายล้อมเธออยู่ เพื่อนเธอนั้นได้เขย่าตัวเธอพร้อมกับถามเธอว่า “เธอเป็นอะไรรึเปล่า เห็นตัวสั่นไม่หยุดเลย ดิ้นไปดิ้นมาเหมือนคนชัก ทุกคนเรียกอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่ตื่น” เธอตอบเพียงแค่ว่า ไม่เป็นอะไร เพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น และได้ให้ทุกคนรีบนอนกันต่อ
พอเวลาผ่านไปจนถึงตี 5 เธอนั้นรู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่เธอฝันเมื่อคืน อาการของเธอนั้นออกจนเห็นได้ชัดเจน จนได้มีอาจารย์ฝึกได้เข้ามาถามกับเธอว่า “ไม่สบายรึเปล่า” เธอได้แต่ตอบว่า “รู้สึกไม่สบายตัว หนักตัวยังไงไม่รู้” คุณครูจึงได้ทักบอกเธอว่า เมื่อคืนเธอนอนโรงนอนที่ 9 ใช่ไหม เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกหรือเสียงทักอะไร พยายามที่อย่าจะไปตอบเสียงเหล่านั้น คอยตั้งสติเอาไว้ และเมื่อจบการเข้าค่ายนี้เมื่อไหร่ ให้รีบหาโอกาสไปทำบุญให้พวกเขาด้วยนะ เธอจึงได้ถามว่า “มีอะไรรึเปล่าคะ” คุณครูจึงได้บอกว่า คนที่ได้รับการแต่ตั่งให้เป็นหัวหน้าในการเข้าค่ายส่วนใหญ่และได้นอนอยู่ที่โรงนอนที่ 9 พวกเขาเหล่านั้นมักจะเจอวิญญาณของผู้ที่เคยได้ตายไปในสงครามที่นี่ในสมัยก่อน มันเป็นแบบนี้กันทุกรุ่นทุกคนเลย เธอพยายามที่อยากจะถามต่อเกี่ยวกับเรื่องราวนี้ แต่คุณครูก็ได้ไล่เธอไปเข้าค่ายต่อทันที เธอจึงได้ไปทำอะไรต่อ ทั้งๆที่ยังคงเต็มไปด้วยคำถามในหัว
หลังจากที่เธอกลับจากเข้าค่ายเสร็จแล้ว เธอก็ได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ แต่แล้วก็มีคนมองเธอด้วยสายตาที่แปลกๆ เธอจึงคิดได้ถึงคำเตือนของครูที่ให้ไปทำบุญที่วัดหลังจากเข้าค่ายเสร็จ เธอจึงได้เข้าวัดไปทำบุญต่อจากนั้น และได้มีพระทักเธอว่า ท่านได้เห็นคนคอยเดินตามเธออยู่ตลอดเวลา พระท่านจึงให้เธอถวายสังฆทาน และได้พูดขึ้นมาว่า “โยมมารับบุญไปนะ” เธอก็สงสัยเกี่ยวกับที่พระพูด ท่านจึงได้บอกว่า “ไม่ต้องกลัวเขา เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา ไม่ได้จะมาทำอะไรเธอ เพียงแต่จะมาขอบุญเพียงก็เท่านั้น” เธอจึงเข้าใจขึ้น และทุกๆอาทิตย์หรือทุกเดือนเธอจะพยายามที่จะทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเธอมาโดยตลอด และทุกอย่างก็ค่อยๆดีขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างครับกับเรื่องราวสยองขวัญอย่าง “โรงนอนที่ 9” นี้ น่ากลัวอย่างที่คิดกันรึเปล่า ถ้าอยากอ่านเรื่องราวสยองขวัญเรื่องอื่นๆอีก ขอให้ทุกคนติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย
ที่มา : www.joox.com
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ