เรื่องราวสยองขวัญในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในค่ายลูกเสือแห่งหนึ่งที่อยู่ทางภาคอีสาน แอดไม่สามารถบอกได้ว่าค่ายลูกเสือนี้อยู่จังหวัดอะไร เพราะแอดคิดว่าหากใครที่ได้เคยไปเข้าค่ายลูกเสือแห่งนี้มาก่อนแล้วนั้น พอได้อ่านเรื่องนี้ก็อาจจะรู้ทันทีได้ว่าค่ายลูกเสือแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ เพราะที่ค่ายลูกเสือแห่งนี้นั้นได้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีและวิญญาณอยู่เยอะแยะมากมาย สำหรับเรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้แอดขอให้ชื่อเรื่องว่า “โรงนอนที่ 4 ณ ค่ายลูกเสือ” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ…
เรื่องเล่าในครั้งนี้นั้นได้เกิดขึ้นกับคุณครูผู้ชายท่านหนึ่งที่ตัวเขาได้เล่าถึงช่วงที่เขาได้มีโอกาสเข้าไปใสค่ายลูกเสือในช่วงปี 2557 โดยปกติแล้วนอกจากที่เขาจะเป็นคุณครูประจำโรงเรียนนี้แล้วนั้น เขายังเป็นวิทยากรตามค่ายลูกเสือต่างๆด้วยเช่นกัน วันหนึ่งเขาได้รับงานบรรยายสอนลูกเสือที่ค่ายแห่งหนึ่งให้กับโรงเรียนที่อยู่ต่างจังหวัด โดยการเข้ามาเป็นวิทยากรที่ค่ายลูกเสือในครั้งนี้นั้นจะเป็นค่ายที่จัด 3 วัน 2 คืน เขาก็ต้องไปรอและประจำอยู่ที่ค่ายลูกเสือแห่งนั้นก่อนที่นักเรียนของโรงเรียนจะมา พอทางโรงเรียนได้มาถึง เขาก็ต้องต้อนรับคุณครูและนักเรียนทุกคนที่เข้ามา พร้อมกับทำพิธีเปิดกองไฟตามค่ายลูกเสือทุกที่เขาทำกันก่อนที่จะไปทำกิจกรรมต่อๆไป หลังจากพิธีเปิดกองไฟเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้มีการแบ่งกลุ่มของลูกเสือกับวิทยากรกัน ซึ่งวิทยากร 1 คนจะดูแลกลุ่มลูกเสือกับเนตรนารีหนึ่งกลุ่ม ซึ่งเขาก็ต้องรับผิดชอบกลุ่มนักเรียนด้วยเช่นกัน
เขาก็ได้พานักเรียนไปเล่นเวียนฐานตามสถานที่ต่างๆกัน แต่พอได้เดินเข้าฐานได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้มีนักเรียนคนหนึ่งรู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมาและนักเรียนคนนั้นก็ได้แอบไปปัสสาวะที่ใต้ต้นไม้ใหญ่จุดหนึ่งโดยที่ไม่ได้บอกเขาหรือใครเลย พอหลังจากที่นักเรียนคนนี้ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ได้กลับมาเข้ากลุ่ม แต่แล้วนักเรียนคนนั้นก็มีลักษณะที่เปลี่ยนไปเพราะเขารู้สึกมีอาการเวียนหัว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็นปกติแท้ๆ จนได้มีนักเรียนมาบอกเขาว่ามีนักเรียนที่รู้สึกไม่สบาย พอเห็นแบบนั้นเขาก็ได้ให้นักเรียนคนนี้ไปนอนพักที่ห้องพยาบาลเสียก่อน และเขาก็ได้นำลูกเสือคนอื่นๆเข้าฐานต่อไป หลังจากที่เขาได้พานักเรียนเข้าฐานจะครบมันก็เป็นเวลาเกือบจะ 4 โมงเย็นแล้ว ด้วยความนักเรียนทุกคนค่อนข้างเลอะ เขาเลยปล่อยให้นักเรียนไปอาบน้ำและกลับมาเจอกันอีกครั้งในตอนกลางคืน
ในระหว่างที่เขาได้ปล่อยให้นักเรียนคนอื่นๆไปอาบน้ำเตรียมตัวเจอกันอีกครั้ง เขาก็ได้เดินไปที่ห้องพยาบาลเพื่อที่จะไปดูนักเรียนที่ล้มป่วยคนนั้นอีกครั้ง พอเขาได้เดินไปถึงห้องพยาบาลปรากฏว่าเขาไม่พบกับนักเรียนนอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาลเลยสักคน เขาเลยได้โทรศัพท์ไปหาคนที่เฝ้านักเรียนคนนี้ก่อนหน้านี้ ซึ่งคำตอบที่ได้จากคุณครูที่เฝ้านักเรียนคนนี้บอกว่า “นักเรียนคนนี้มีอาการป่วยมากขึ้น จึงได้นำนักเรียนส่งไปที่โรงพยาบาลแล้ว เนื่องจากว่านักเรียนคนนี้ไข้ขึ้นและก็เพ้ออะไรไม่รู้” เขาได้แต่บอกว่าฝากดูนักเรียนคนนี้ให้ด้วย เพราะเขาต้องดูแลกิจกรรมช่วงค่ำต่อ พอถึงเวลาตอนค่ำเขาก็ได้ทำกิจกรรมกับนักเรียนจนเสร็จ
หลังจากแยกย้ายกันนั้นเขากับวิทยากรคนอื่นๆก็ต้องแยกย้ายกันกับนักเรียนและไปนอนที่โรงนอนที่เป็นที่สำหรับวิทยากรและคุณครูรวมกันเท่านั้น แต่พอถึงช่วงกลางคืนเขาก็ต้องไปตรวจเช็คนักเรียนที่นอนอยู่โรงนอนกันว่าทุกโรงนอนนั้นนักเรียนหลับกันไปหมดแล้วหรือยัง เขาก็ได้ไล่ไปทีละโรงนอน ก็สังเกตเห็นได้ว่านักเรียนส่วนใหญ่หลับหมดแล้ว แต่แล้วพอเขาได้เดินไปถึงโรงนอนที่ 4 ไม่ทันที่เขาจะเดินไปถึง เขาก็ได้ยินเสียง กริ๊ดโวกแวกโวยวาย…ดังมาจากโรงนอนที่ 4 นี้ เขาจึงได้รีบวิ่งไปดูทันทีเพราะกลัวว่านักเรียนจะเจอสัตว์หรืออะไรที่อันตราย แต่แล้วพอไปถึงก็ได้เห็นนักเรียนหญิงคนหนึ่งกำลังนอนสลบอยู่และได้มีนักเรียนคนอื่นๆยืนมองนักเรียนคนนี้กันอยู่ เขาจึงได้แจ้งไปที่คุณครูคนอื่นๆและได้นำนักเรียนคนนี้ไปที่ห้องพยาบาล และได้ถามนักเรียนคนอื่นๆว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
สิ่งที่เขาได้รู้จากนักเรียนก็คือ “นักเรียนผู้หญิงคนนี้ได้เดินไปห้องน้ำคนเดียว เพราะไม่มีนักเรียนคนอื่นๆไปเป็นเพื่อนเธอ แต่แล้วพอนักเรียนคนนี้เดินไปห้องน้ำได้สักพัก เธอก็ได้เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับท่าทีที่เปลี่ยนไป โดยที่เธอนั้นมองไปรอบๆนักเรียนคนอื่นๆโดยสายตาที่น่ากลัว พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ทุกคน และก็หัวเราะดังขึ้นมา มันไม่ใช่สิ่งที่ปกตินักเรียนคนนี้จะเป็น เพราะเธอไม่ใช่เป็นคนแบบนั้น” พอเห็นแบบนั้นก็ได้มีนักเรียนคนอื่นๆเกิดอาการกลัวขึ้นมาและก็ร้องกริ๊ดออกมาด้วยความดังด้วยความกลัว หลังจากนั้นนักเรียนคนนั้นก็ได้สลบไป
พอเขาได้ยินเรื่องนี้ เขาก็พอเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเขาก็เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาภายในค่ายลูกเสือนี้มาก่อน แต่ก็ไม่คิดว่า โรงนอนที่ 4 ณ ค่ายลูกเสือแห่งนี้ มันเป็นเรื่องจริง…