เรื่องราวสยองขวัญในครั้งนี้นั้น แอดได้นำเรื่องราวที่เกี่ยวกับป่าไม้ที่มีความน่ากลัวในหลายๆด้านให้ทุกคนได้อ่านกัน สำหรับครั้งนี้นั้น แอดได้เอาเรื่องของโป่งโพง มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ต้องบอกก่อนว่า โป่งโพงนั้นเป็นสถานที่ที่หนึ่งที่สามารถพบเจอได้ภายในป่า ตัวชาวบ้านได้เล่ากันว่า โป่งโพงนั้นเป็นสถานที่ที่มีผีดุและวิญญาณเฮี้ยนอยู่มาก หากใครได้เข้าไปเจอหรือหลงเข้าไปในระหว่างที่ไปเดินภายในป่าแล้วหล่ะก็ ก็อาจจะไม่ได้ออกมาจากที่แห่งนั้นอีกเลย วันนี้แอดเลยนำเรื่องราวนี้มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ถ้าอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่แอดนำมาแล้วหล่ะก็ ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ..
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้ชายคนหนึ่ง เขามีอาชีพเป็นพรานป่า เขาเป็นพรานป่ามาเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่สมัยที่ตัวเขานั้นยังเป็นวัยรุ่นจนมาถึงตอนนี้ที่เขานั้นมีอายุที่ค่อนข้างเยอะ แต่ตัวเขาก็ยังคงเป็นพรานป่าอยู่ กลับกันเพื่อนๆของเขาในวัยที่สูงอายุขึ้นก็เลิกอาชีพเป็นพรานป่ากันหมดเสียแล้ว แต่สำหรับเขา เขาก็ยังคงใช้ชีวิตเป็นพรานป่าต่อไป เขามักจะเอาของป่าจากที่เขาพบภายในป่าเอาไปขายในเมืองบ้าง บางทีก็ล่าสัตว์ที่อยู่ในป่าเอามาขายในเมืองบ้างเป็นบางครั้ง ในบางวันก็รับงานพานักท่องเที่ยวเดินเล่นในป่าบ้าง ถึงอายุเขาจะเยอะแล้ว เขาก็ไม่ได้กลัวการที่จะต้องเข้าไปภายในป่า เพราะตัวเขานั้นก็มีคาถาอาคมที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยก่อนจนปัจจุบันก็ยังคงมี ซึ่งนั่นทำให้เขาไม่กลัวในการที่จะเดินไปในป่าแต่ละครั้ง
ได้มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขานั้นได้แบกปืนและเดินเข้าไปในป่า เขาใช้เวลาประมาณสองวันที่เดินเข้าไปในป่า แต่ก็ยังคงไม่ได้สัตว์กลับออกมาสักตัว มันจึงทำให้เขาค่อนข้างที่จะหงุดหงิด เพราะโดยปกติแล้วนั้นทุกครั้งที่เขาเข้าไปเดินภายในป่า เขาควรที่จะได้อะไรออกมาบ้าง เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปในโป่งโพง แต่ด้วยความที่โป่งโพงนั้นทั้งตัวชาวบ้านและคนที่มาท่องเที่ยวแถวนี้รู้กันดีเกี่ยวกับเรื่องผีของที่แห่งนี้ จึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปที่นั่น กว่าที่เขาจะเดินทางไปถึงตรงโป่งโพงมันก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว พอถึงแล้วเขาก็ปืนขึ้นไปตรงบนต้นไม้เพื่อที่จะตั้งใจที่จะดักยิงสัตว์ แต่เขาก็รอมานานแล้ว ก็ยังคงไม่มีสัตว์เดินผ่านมาแม้แต่ตัวเดียว ด้วยความโมโหที่เขานั้นเสียเวลาและรู้สึกเหนื่อยฟรี เขาจึงพูดคนเดียวว่า “สัตว์มันหายไปไหนหมดวะ หรือพวกผีป่ามันเอาสัตว์ไปกินกันหมดแล้ว พวกมันจะไม่เหลือให้ข้าล่าบ้างเลยเหรอวะ” หลังจากสิ้นเสียงพูดของเขาได้ไม่นาน อยู่ๆก็มีเสียงขยับบางอย่างอยู่ตรงพุ่มไม้ นั่นเป็นสมเสร็จที่เดินออกมาจากพุ่มไม้
สมเสร็จนั้นสำหรับพรานป่าแล้วมันเป็นสัตว์ที่มาซึ่งลางร้าย ที่เคยมีเรื่องจากพรานป่าเล่ากันว่า หากยิงสมเสร็จเข้าไปที่ส่วนไหน มันก็จะร้องออกในลักษณะเสียงที่แตกต่างกัน ซึ่งด้วยความโมโหที่ตัวเขานั้นรอสัตว์มานานมาก แต่กลับพบกับสมเสร็จที่เป็นเหมือนลางร้ายสำหรับพรานป่าแบบเขาออกมา มันทำให้เขาตัดสินใจที่จะยิงสมเสร็จตัวนั้นให้ตายไป หลังจากนั้นเขายิงสมเสร็จไปนัดแรก เสียงร้องของสมเสร็จที่ออกมานั้นเป็นเสียงหมู มันร้องออกมาดังอย่างชัดเจน แต่แล้วมันก็ยังไม่ตายและพยายามที่วิ่งหนีออกไป เขาจึงยิงเข้าไปที่สมเสร็จอีกนัด มันก็ร้องออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร้องออกมาด้วยเสียงของช้าง มันทำให้เขาตกใจมาก เพราะเขาคิดว่าเรื่องราวเกี่ยวกับสมเสร็จนี้เป็นเพียงเรื่องเล่าของพรานป่าเพียงเท่านั้น แต่แล้วสมเสร็จตัวนั้นก็ยังคงไม่ตายและยังพยายามที่จะวิ่งหนีต่อไป เขาจึงได้ยิงเข้าไปอีกนัดนึง แต่ครั้งนี้นั้นเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่า เสียงร้องของสมเสร็จครั้งนี้นั้น มันร้องออกมาเป็นเสียงผู้ชายแก่ ร้องออกมาว่า “โอ้ย มึงยิงกูทำไม” หลังจากที่เขาได้ยินแบบนั้นสมเสร็จตัวนั้นก็ได้วิ่งหนีหายไปภายในป่า
หลังจากนั้นได้ไม่นานต้นไม้ที่เขาปืนขึ้นนั่งอยู่นั้นก็เหมือนมีการเขย่าสั่นออกมาอย่างรุนแรง นั่นมันทำให้เขาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เขาจึงพยายามที่จะท่องคาถาที่ตอนนั้นเขาสามารถนึกขึ้นได้ขึ้นมา เขาพยายามท่องคาถาไปเรื่อยๆ แต่มันก็ยังคงไม่หยุด ต้นไม้ที่เขานั่งอยู่นั้นยังคงสั่นอย่างรุนแรงทั้งๆที่ต้นอื่นๆนั้นนิ่งสนิท เขาจึงเลือกที่จะขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา ณ ที่แห่งนั้นหลังจากนั้นได้ไม่นานต้นไม้ก็กลับมานิ่งเป็นปกติ เขาจึงนั่งรออยู่บนต้นไม้อย่างนั้นจน เช้าและออกจากป่าแห่งนั้นทันที หลังจากนั้น เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปที่โป่งโพงแห่งนี้อีกเลย
สำหรับเรื่องราวของ โป่งโพง ที่เป็นเหมือนจุดๆหนึ่งภายในป่าที่สามารถพูดได้ว่า เป็นจุดที่มีผีดุเป็นอย่างมาก เป็นความเชื่อของพรานป่าและชาวบ้านที่อยู่ระแวงป่าแห่งนั้น ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่แต่งขึ้นมากันแน่ แต่สำหรับแอดนั้น คิดว่าเราไม่ควรไปยุ่งกับป่าในช่วงเวลากลางคืน เพราะป่าแต่ละที่นั้นก็มีอะไรที่เหนือความคิดเราไปอย่างมากเหมือนกัน…