เรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้เป็นประสบการณ์หลอนๆที่เกิดขึ้นภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ในใจกลางกรุงเทพเลย ซึ่งแอดไม่ขอบอกว่าเรื่องนี้อยู่ที่โรงพยาบาลอะไร แต่คิดว่าถ้าใครได้อ่านแล้วก็อาจจะเดาออกก็ได้ว่าโรงพยาบาลที่อยู่ในเรื่องนี้คือที่ไหนกันแน่ วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่องที่มีชื่อว่า “แผนกโอพีดี” ขอให้ทุกคนอ่านกันด้วยความตั้งใจนะครับ รับรองว่าหลอนแน่นอน บรื้อ…
เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับแม่บ้านคนหนึ่งที่ตัวเธอนั้นเพิ่งได้ย้ายและเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ใหม่ๆ เธอเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากๆ ไม่ว่าจะกะไหนเธอก็พร้อมทำ มีอยู่คืนหนึ่งด้วยความที่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกิดเรื่องโควิดขึ้นมา ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อกันเป็นการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ซึ่งการทำความสะอาดนั้นจำเป็นต้องไปทำความสะอาดตามห้องผู้ป่วยต่างๆ พวกเขาจึงเรียกคนที่ทำความสะอาดกันว่า แผนกโอพีดีและเธอก็เป็นหนึ่งในนั้นและก็ต้องทำความสะอาดในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย เพราะในช่วงเวลากลางวันมักจะยุ่งจากกับรับคนไข้เป็นส่วนใหญ่
โดยปกติแล้วการทำงานจะแบ่งการทำงานของแม่บ้านแต่ละชั้นๆไป ซึ่งเธอได้ทำงานคู่กับแม่บ้านอีกคนหนึ่ง ในวันนั้นเธอได้เริ่มทำความสะอาดกับแม่บ้านคนอื่นในช่วงเวลาประมาณตอน 5 ทุ่มกว่าๆ เธอได้ไล่ทำความสะอาดตั้งแต่ชั้นบนไล่ลงมาเรื่อยๆลงมาทีละชั้น จนกระทั่งได้มาถึงชั้นๆหนึ่งเป็นชั้นที่ทุกๆคนนั้นเริ่มเกี่ยงกันที่จะทำชั้นนี้ แม่บ้านหลายคนต่างพูดกันว่ากลัวที่จะทำความสะอาดในชั้นนี้ จึงทำให้เธอนั้นเป็นคนอาสาที่จะทำความสะอาดชั้นนี้เองร่วมกับแม่บ้านอีกคนหนึ่งที่ก็อาสาด้วยเช่นกัน ด้วยความที่เธอไม่อยากให้เสียเวลาและไม่อยากให้ทุกคนมาเถียงกันไปมากกว่านี้ เธอกับอีกคนจึงอาสาเอง โดยตอนนั้นแม่บ้านคนอื่นเลยพากันไปทำความสะอาดที่ชั้นอื่นกันหมด โดยที่ทิ้งเธอกับแม่บ้านอีกคนเอาไว้ทำความสะอาดชั้นนี้เพียงแค่สองคน ในระหว่างที่ทำความสะอาดไป เธอทั้งสองก็ได้คุยกันไปด้วยเช่นกัน จนกระทั่งผ่านไปสักพัก เธอได้เห็นเหมือนนางพยาบาลคนหนึ่ง นางพยาบาลคนนี้มีผิวขาวซีด หน้าตาก็ซีดเช่นกัน นางพยาบาลคนนี้เดินวนไปวนมาแปลกๆเหมือนกับกำลังเดินหาอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่เห็นเพราะอีกคนหนึ่งก็เห็นเช่นกัน
เธอกับอีกคนสังเกตเห็นว่านางพยาบาลคนนี้ใส่ชุดที่มีลักษณะแปลกๆ เพราะชุดที่นางพยาบาลคนนี้ใส่นั้นมันค่อนข้างที่จะเก่าและไม่เหมือนกับชุดที่พวกเธอได้เห็นนางพยาบาลคนอื่นๆใส่กันในช่วงเช้าเลย และท่าทางของนางพยาบาลคนนี้ก็ดูแปลกๆด้วย ยิ่งช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ยิ่งไม่ควรจะมีนางพยาบาลมาวนเวียนอยู่แถวนี้ เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินไปถามนางพยาบาลคนนี้ว่า “กำลังหาอะไรอยู่หรือเปล่า ให้เธอช่วยอะไรไหม” พอนางพยาบาลคนนั้นได้ยินเสียงเธอถาม เธอก็ได้ตอบกลับมาว่า เธอกำลังหาของอยู่ เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและตอบแบบช้าๆน่ากลัวๆ พอเธอพูดเสร็จเธอก็เดินก้มหน้าก้มตาเหมือนกับกำลังหาของต่อไป พอเธอเห็นแบบนั้นเธอก็ไม่ได้เดินตาม เพราะยังติดทำความสะอาดต่ออยู่และคิดว่านางพยาบาลคนนี้คงตามหากุญแจเข้าห้องอยู่ก็เป็นได้ แต่เธอก็ยังคงแปลกใจกับชุดของนางพยาบาลคนนั้นอยู่ดี หลังจากนั้นเธอจึงทำความสะอาดต่อ จนเสร็จในที่สุด พอวันนั้นเธอทำงานทุกอย่างเสร็จ เธอก็ต้องไปรายงานเรื่องทำความสะอาดกับหัวหน้าของเธอ ด้วยความแปลกใจที่ยังจำเรื่องของนางพยาบาลได้ เธอจึงได้เล่าเรื่องที่เธอเห็นนางพยาบาลให้หัวหน้าฟัง ด้วยความที่เธอก็ไม่ไว้ใจและกลัวว่าจะเป็นคนนอกมาหรือคนร้ายมาแทนก็เป็นได้
ตอนนั้นที่หัวหน้าของเธอได้ยินเรื่องที่เธอเล่าให้ฟังนั้นก็รู้สึกตกใจกับเรื่องที่เธอเล่าให้ฟัง เพราะว่าตั้งแต่เวลาประมาณ 2 ทุ่มเป็นต้นมาก็เริ่มที่จะไม่มีนางพยาบาลจะมาอยู่ตรงบริเวณนั้นแล้ว เพราะนางพยาบาลทุกคนก็ต้องกลับห้องของตัวเองหรือแผนกตัวเอง ไม่สามารถที่จะมาอยู่แถวที่ทำความสะอาดได้ ด้วยความสงสัยเพราะก็กลัวว่าอาจจะเป็นโจรหรืออะไรก็ตามที่อาจจะแอบแฝงมาก็ได้ หัวหน้าของเธอจึงได้พาเธอพร้อมกับอีกคนไปถามที่แผนกนางพยาบาลคนอื่นๆว่า ได้มีนางพยาบาลที่ไหนได้มาขึ้นหาของที่ตึกนี้ที่มีแม่บ้านโอพีดีกำลังทำความสะอาดกันอยู่ไหม ทางแผนกพยาบาลก็ได้ตอบกลับมาด้วยความยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีนางพยาบาลที่ไหนขึ้นไปที่ตึกแห่งนั้นเพราะด้วยมาตการโควิดตอนนั้นนางพยาบาลส่วนใหญ่ก็ได้ถูกให้ลดคนและมีคนเท่าที่จำกัด และตอนนั้นนางพยาบาลทุกคนที่อยู่ในวันนั้นก็อยู่ในแผนกกันทุกคน โดยไม่ได้ไปไหนอย่างแน่นอน จึงได้มีการสอบถามถึงเกี่ยวกับคนไข้ต่อว่า มีใครได้นำนางพยาบาลส่วนตัวมาดูแลตัวเองกันด้วยบ้างหรือเปล่า
แต่ปรากฏว่าก็ไม่มีใครนำนางพยาบาลส่วนตัวมาเลย ด้วยความอยากรู้และตอนสุดท้ายหัวหน้าจึงได้ไปดูที่กล้องวงจรปิด ปรากฏกว่าในกล้องนั้นปรากฏเธอกำลังยืนคุยกับใครบางคนอยู่จริงๆ แต่คนๆนั้นไม่มีตัวตนอยู่เลย นั่นก็คือเธอกำลังยืนคุยอยู่กับความว่างเปล่านั่นเอง และนี่ก็คือทั้งหมดของเรื่อง แผนกโอพีดี ถ้าชอบเรื่องหลอนๆแบบนี้ก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย…