เรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดชลบุรีและได้เกิดขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่ง เขาได้เล่าให้ฟังว่าในบริเวณแถวบ้านของเขาที่อยู่ชลบุรีนั้นค่อนข้างที่จะผีดุมาก มีชาวบ้านแถวนั้นเจอผีกันเป็นประจำและในตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นตัวเขามีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ซึ่งเวลานั้นมักจะมีหนังกลางแปลงมาฉายที่วัดเป็นครั้งคราว พอได้เวลาตัวเขากับคนรอบตัวก็มักจะจับมือกันเพื่อที่จะไปดูหนังที่งานวัดกันตลอดทุกครั้งที่มี นี่จึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์สยองขวัญในครั้งนี้ กับเรื่อง “เส้นทางไปวัด” ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ…
โดยการเดินทางไปวัดนั้น การเดินทางระหว่างบ้านกับวัดจะต้องผ่านป่าช้า ซึ่งป่าช้านี้ก็มักจะมีศพใหม่ๆและกระดูกของคนตายที่ถูกฝั่งอยู่ข้างทางตลอดหลายร้อยเมตรก่อนที่จะถึงตัววัด และสมัยนั้นการเผ่าศพจะไม่เหมือนกับปัจจุบันที่จะเผ่าศพในเมรุ แต่ในสมัยนั้นเค้าจะเผ่าศพในที่กลางแจ้งเลยก็ว่าได้ และการที่จะไปวัดนั้นค่อนข้างที่จะมืดมากเพราะเสาไฟข้างทางก็ไม่มี จะมีเพียงแต่แสงจันทร์ที่ทำให้พอเห็นทางขึ้นมาบ้างและไฟฉายที่พกติดตัวมาเพียงเท่านั้น คืนวันเกิดเหตุเขาได้เดินทางไปวัดกับเพื่อนของเขารวมตัวเขาแล้วทั้งหมด 4 คนได้รวมตัวกันที่จะเดินไปที่วัดเพื่อที่จะไปดูหนัง ก่อนที่เขาจะไปเขาก็ได้ไปบอกพ่อกับแม่ของเขา แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านทั้งพ่อกับแม่ของเขาก็ได้ทักไว้ว่า ถ้าเกิดเจออะไรแปลกๆหรือใครทักอะไร ก็อย่าไปตอบไปทักเขาหล่ะ มันไม่ดี เขาก็รับรู้แล้วก็รีบออกจากบ้านเพื่อที่จะไม่ให้ถึงค่ำเกินไป
แต่แล้วพอได้รวมกลุ่มกันเพื่อที่จะไปวัด เขาก็ได้นึกขึ้นมาได้ว่าเขาได้ลืมเอาไฟฉายมา แต่เพื่อนเขาก็บอกว่าไม่เป็นไรเพราะว่านี้แสงจันทร์ก็พอสว่างอยู่ยังพอเดินไปได้ แต่เพื่อนของเขาบางคนก็รู้สึกกลัวอยู่ดี จึงได้จับกลุ่มกันเดินไปเรื่อยๆเพื่อที่จะได้ไม่ดึกมากกว่าเดิม แต่แล้วระหว่างทางเดินพวกเขาก็คุยกันไปได้สักพัก ก็เกิดเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว พอได้ยินแบบนั้นเพื่อนของเขาคนนึงก็ได้ทักขึ้นมาทันทีว่า “เสียงอะไรหน่ะ” พอเห็นแบบนั้นเขาก็รีบแก้ต่างโดยบอกว่าไม่มีอะไรหรอก คงเป็นเสียงมะพร้าวตก และได้บอกเพื่อนเขาไว้ว่าถ้าครั้งหน้ามีเสียงอะไรอีกก็อย่าทัก เพราะเขาไม่ให้ทักอะไรในตอนกลางคืนมันไม่ดีและพวกเขาก็ได้เดินกันต่อ พอเดินไปได้สักพักก็ได้ถึงวัดและก็ได้ดูหนังตามที่พวกเขาตั้งใจกันจนจบ
พอพวกเขาดูหนังกันจบงานวัดก็เลิกพอดี ซึ่งพวกเขาก็ได้เดินทางกลับกันเป็นกลุ่มเหมือนเดิม ซึ่งตลอดทางพวกเขาก็ได้พูดคุยถึงหนังที่พวกเขาดูกันว่าสนุก และก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ แต่พอเดินไปสักพักพวกเขาก็ได้ยินเสียงของกลุ่มคนเดินตามหลังมาอยู่ห่างๆ พอได้ยินแบบนั้นเขากับเพื่อนของเขาก็พูดกันว่าดีจังเลยที่ตอนกลับนั้นมีกลุ่มคนอื่นให้เดินกลับมาเป็นเพื่อนด้วยจะได้ไม่ต้องรู้สึกกลัวกันแล้ว แต่ไม่ทันที่เขาจะดีใจได้ขนาดนั้นเพื่อนของเขาคนนึงก็ได้พูดขึ้นมาว่า ให้นึกดีๆตอนที่พวกเขาออกจากงานวัด พวกเขาแทบจะเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้วที่ได้เดินออกมาไม่น่าจะมีกลุ่มคนที่ไหนออกมาหลังพวกเขาแล้วนี่ เขาก็ได้พูดมาว่าอาจจะเป็นคนที่หลงอยู่ในงานวัดก็ได้ไม่มีอะไรหรอก เพราะในตอนนั้นเขาก็ยังได้ยินเสียงของกลุ่มคนนี้ยังพูดคุยเสียงดังกันอยู่เลย แต่แล้วอยู่ๆเสียงของกลุ่มคนคุยเสียงดังที่ดังมาจากทางด้านหลังห่างออกไปก็เงียบหายไปแบบไร้สาเหตุ ในตอนนั้นทั้งตัวเขาและเพื่อนๆก็เริ่มรู้สึกแปลกๆขึ้นมา จึงได้พยายามคิดว่ากลุ่มคนเหล่านั้นคงได้เดินไปทางอื่นแล้วก็ได้ คงไม่มีอะไรหรอกอย่าคิดมากไปก่อนเลย และบอกให้ทุกคนรีบเดินกลับกันก่อน อย่าพูดอะไรเลยหลังจากนี้
ระหว่างที่รีบเดินกลับบ้านนั้น ในข้างทางก็ได้มีต้นมะพร้าวสูงใหญ่อยู่ประมาณ 4-5 ต้นอยู่ระหว่างทาง โดยตอนเดินอยู่นั้นเพื่อนของเขาก็ได้พูดขึ้นมาว่า เธอได้เห็นเหมือนเด็ก 2 คนกระโดดลงมาจากต้นมะพร้าวนั่นแล้วเด็กสองคนนั้นก็วิ่งหายไปกับตา ในจังหวะนั้นเพื่อนของเขาก็ได้กริ๊ดออกมาและก็ได้สลบไปทันทีที่พูดจบ ในจังหวะนั้นเขาไม่ได้เห็นอะไร แต่ก็สามารถที่จะได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างตกลงมาเหมือนกัน พอเพื่อนของเขาสลบไปเขากับเพื่อนอีกคนก็ต้องพยุงตัวเพื่อนคนนั้นรีบกลับบ้านทันที เพราะกลัวว่าจะมีอะไรอีกระหว่างทาง พอไปถึงบ้านเขาก็ได้รีบเล่าถึงสิ่งที่เจอกันระหว่างทางให้พ่อกับแม่ฟังทั้งหมด ทั้งเรื่องของเสียงกลุ่มคนเดินและเรื่องของคนกระโดดจากมะพร้าว
แม่ของเขาก็ได้พูดขึ้นมาว่าคงไม่มีอะไรหรอกคงจะเป็นวิญญาณของคนที่ได้ตายไปแล้วที่ถูกเผ่าแถวๆนี้ เพราะก็ได้มีชาวบ้านแถวนั้นมักจะพูดกันถึงวิญญาณของเด็กสองคนที่เคยได้เสียชีวิตเพราะพวกเขานั้นได้ไปปืนต้นมะพร้าวเล่นกัน แต่แล้วก็ได้พลาดท่าและล้มตกลงมาเสียชีวิตทันที่ ซึ่งสภาพศพของเด็กเหล่านั้นน่ากลัวแทบจะไม่น่ามองเลย และสำหรับเสียงของกลุ่มคนที่พวกเขาได้ยินนั้นคงจะเป็นวิญญาณของคนตายที่ไร้ญาติรวมตัวกันมากกว่า ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นเส้นทางไปวัดที่พวกเขาได้เจอกันทั้งหมด…