เรื่องเล่าสยองขวัญต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ปกติแล้วในทุกๆปีในช่วงปลายปีผู้หญิงคนนี้นั้นมักจะได้ยินเสียงของใครบางคนมักจะเรียกชื่อของเธอตลอดเวลา โดยเธอนั้นมีชื่อว่า “กุ๊ก” ในการเรียกแต่ละครั้งนั้นจะมีเสียงผู้ชายบ้าง เสียงผู้หญิงบ้าง หรือบางครั้งเสียงเรียกนั้นก็เป็นเสียงของคนในครอบครัว และตัวเธอเองนั้นก็มักจะเห็นวิญญาณอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่เห็นนั้นจะเป็นการเห็นเพียงเวียบเดียวแล้วก็หายไปมากกว่า เธอเลยไม่ค่อยใส่ใจมากนักเพราะทุกครั้งที่เธอเห็นแล้วนำเรื่องนี้ไปเล่าให้กับใครฟัง ก็ไม่ค่อยจะมีใครมาเชื่อเธอมากนัก ชีวิตของเธอช่วงนั้นไม่ค่อยจะเป็นอะไรที่ดีมากนัก จนกระทั้งได้เกิดเรื่องขึ้นมากับเธอเรื่องหนึ่ง จะเป็นเรื่องที่แอดนำเสนอต่อจากนี้ กับเรื่อง “เสียงสาวปริศนา” ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้ตั้งใจอ่านกันนะครับ
มีอยู่ปีหนึ่ง เธอนั้นก็ได้ยินเสียงของคนเรียกเธอในช่วงปลายปีเป็นปกติเหมือนกับทุกๆปี แต่ในครั้งนี้นั้นมันมีอะไรที่แปลกไปมากขึ้นอีกเพราะปีนี้เสียงเรียกที่เรียกชื่อเธอนั้น มันเริ่มที่จะเรียกถี่มากขึ้น จนมันทำให้เธอรู้สึกรำคาญและรู้สึกที่จะทนไม่ไหว เธอจึงได้ตะโกนออกมาว่า “จะเรียกอะไรนักหนาวะ” เสียงๆนั้นก็ได้เงียบไปสักพัก แต่แล้วก็กลับมาเรียกอีกในอีกสักพัก เธอก็รู้สึกรำคาญและรู้สึกไม่ดีด้วยในเวลาเดียวกัน เธอจึงได้ตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้กับแม่ของเธอฟังเหมือนอย่างเคยในทุกๆปี แต่แม่ของเธอกับคนอื่นๆก็ยังคงไม่เชื่อเธออยู่ดี ที่บ้านของเธอบอกว่าเธออาจจะคิดมากไปเองมากกว่าคงไม่มีอะไรหรอก อาจจะหูฝาดไปเองมากกว่า เธอจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ วันถัดมาในช่วงหลังเลิกเรียน เธอจึงได้ไปพูดกับน้องสาวของเธอในช่วงระหว่างเดินออกจากโรงเรียน โดยได้บ่นเกี่ยวกับเรื่องของคนที่เรียกเธอแบบไม่หยุดในช่วงนี้ น้องของเธอจึงได้ตอบกลับมาเหมือนกับแม่ของเธอว่าคงคิดไปเองมากกว่า และได้บอกว่าให้เธอนั้นไปลองชวนเสียงเรียกนั้นคุยดูว่าเป็นใครหรืออะไรกันแน่ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นอาจจะตอบกลับมาก็ได้
หลังสิ้นเสียงจากน้องสาวของเธอแล้ว เธอก็ได้ยินเสียงของคนเรียกชื่อเธออีกครั้งทันที มันเป็นเสียงเรียกเหมือนกับครั้งก่อนๆแต่ในครั้งนี้เหมือนจะมีน้ำเสียงที่โกรธขึ้นด้วย เหมือนกับว่าโกรธกับสิ่งที่น้องสาวของเธอได้พูดมาเมื่อกี้ และที่สำคัญในครั้งนี้นั้นน้องสาวของเธอก็ได้ยินเสียงเรียกในครั้งนี้ด้วย ในตอนนั้นเธอกับน้องสาวของเธอถึงกับมองหน้ากัน และตัดสินใจวิ่งหนีไปจากจุดๆนั้นทันที พอวิ่งไปได้สักพักก็ได้เจอกับลุงยามที่อยู่หน้าโรงเรียน หลังจากนั้นเธอกับน้องสาวก็พากันกลับบ้านและได้ไปพูดกับแม่ของเธอในเรื่องที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีน้องสาวของเธอด้วยที่ช่วยพูดให้แม่เข้าใจ แต่แม่ของเธอก็ไม่เชื่ออย่างเช่นเคย เธอจึงไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้พากันเข้าห้องนอนในคืนนั้น คืนนั้นในขณะที่เธอกำลังจะหลับ เธอมีความรู้สึกว่าร้อนมาก เธอจึงได้ลุกขึ้นมาเพราะร้อน แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นเพราะข้างหน้าเธอตรงปลายเตียงนั้น เธอได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ลักษณะผมยาวถึงเอว นั่งอยู่ที่ปลายเตียงโดยนั่งบังพัดลมเอาไว้ พอเธอเห็นเธอจึงรีบหลับตาทันทีและค่อยๆลืมตาขึ้นมาดูอีกที
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพราะคิดว่าตัวเองอาจจะตาฝาดไป แต่สิ่งที่เห็นคือผู้หญิงคนนั้นยังคงนั่งอยู่ที่เดิม และผู้หญิงคนนั้นค่อยๆหันหน้ามาหาเธออย่างช้าๆ ในตอนนั้นเธอไม่สามารถที่จะหลับตาได้แล้วเพราะตกใจสุดขีด แล้วหลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มที่จะขยับตัว และคลานเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ พร้อมกับพูดชื่อเธอออกมา เธอถึงกับตัวเกรงและน้ำตาไหลออกมาด้วยความกลัว เธอพยายามที่จะร้องขอความช่วยเหลือ แต่ปากของเธอก็ค้าง และเธอก็ได้ตะโกนออกมาเรียกแม่ได้ในที่สุด แล้วไฟในห้องก็เปิดขึ้นมา พร้อมกับแม่ของเธอก็เข้ามาหาเธอ เธอได้แต่ร้องไห้ใส่แม่ของเธอพร้อมกับเล่าเรื่องแล้วก็ร้องไห้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน พอแม่เธอเห็นแบบนั้นก็ได้บอกเธอว่าแม่จะพาไปทำบุญในพรุ่งนี้เช้า และได้ให้เธอไปนอนกับแม่ของเธอหลังจากนั้น
วันต่อมาหลังจากเลิกเรียนแล้ว เสียงเรียกนั้นก็ยังคงดังกล้องมาที่หูของเธอไม่หยุดดั่งเคย แต่เธอก็ได้แต่ทำเป็นไม่สนใจและได้ซื้อของเตรียมตัวไปทำบุญตักบาตรในวันถัดไป พอในวันถัดไปช่วงเวลาตี 5 เธอจึงได้ลุกขึ้นมาเตรียมตัวที่จะไปใส่บาตร เธอพยายามที่จะชวนคนอื่นๆไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาเลย เธอจึงได้เดินออกจากบ้านไปที่หน้าปากซอยเพื่อที่จะไปรอพระ แต่ระหว่างที่กำลังเดินไปนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเรียกพร้อมกับเสียงฝืเท้าเดินตามเธอมาอีกแล้ว และเธอก็ได้เห็นผู้หญิงที่เธอเห็นเมื่อวันก่อนวิ่งเข้ามาหาจากทางข้างหลัง เธอจึงได้วิ่งหนีทันทีและได้เจอผู้คนในที่สุด
ในวันเดียวกันเธอได้ไปทำบุญที่วัดด้วยเช่นกัน ซึ่งเธอก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้พระฟังและพระท่านก็ได้พูดขึ้นมาว่า เธอได้มีเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นเสียงสาวปริศนาติดตามตัวมาตั้งแต่เด็ก พระท่านจึงอยากให้เธอคอยทำบุญนั่งสมาธิ แพ่ส่วนบุญส่วนกุศลไปให้เขา หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆดีขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้หายไปในทีเดียว ปัจจุบันนี้ถึงเสียนั้นจะหายไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคงยังคงอยู่กับเธอ…