เรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อหลาย 10 ปีก่อน โดยเรื่องนั้นมีอยู่ว่าได้มีบ้านอยู่หลังหนึ่งเป็นบ้านที่อยู่ในแถวๆป่าไม้ บ้านหลังนี้นั้นเธอได้ไปอยู่เพราะว่าตอนนั้นแฟนของเธอนั้นทำงานอยู่ที่แถวๆกรมป่าไม้จึงทำให้เขานั้นได้บ้านสำหรับพนักงานอยู่ที่บริเวณแถวๆที่ทำงานของเขา เพราะเห็นนั้นเขาจึงได้ชวนเธอมาอยู่ด้วยเนื่องจากเธอกับเขาอยากที่จะอยู่ด้วยกัน แต่แล้วพออยู่ไปเรื่อยๆนั้นก็ได้เกิดเรื่องแปลกๆขึ้นมาจนทำให้เกิดเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่อง “เสาตกน้ำมัน” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเรื่องต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ขอให้ตั้งใจอ่านกันนะครับ…
ด้วยความที่เธอท้องกับแฟนของเธอในตอนนั้น ทำให้เธอต้องได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นกับแฟนของเขาด้วยเช่นกัน ในวันแรกที่เธอกับแฟนเธอได้เข้าไปในบ้านก็ได้พบว่าในบ้านหลังนั้นมีเสาอยู่กลางบ้านด้วย พอเธอได้เดินเข้าไปใกล้ๆก็ได้สังเกตเห็นเหมือนมีน้ำออกมาจากเสาด้วย แต่แฟนของเธอก็ได้แก้ต่างเพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจว่าน้ำนี้นั้นเป็นน้ำที่เขาเรียกกันว่าเสาตกน้ำมัน มันก็คือน้ำที่ออกมาจากไม้นั่นเองไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกโอเคขึ้นมา และก็ได้ที่จะทำความสะอาดบ้านและจัดแจงทุกอย่าง หลังจากนั้นในทุกๆวันเธอก็ต้องอยู่คนเดียวในช่วงเวลากลางวันเป็นส่วนใหญ่ เพราะแฟนของเธอนั้นต้องออกไปทำงานในทุกๆวัน เธอก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว มันเป็นแบบนั้นเรื่อยมา
จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นมา เพราะว่าจู่ๆเธอได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างขยับอยู่ตรงบริเวณบนบ้านของเธอ ซึ่งในตอนแรกเธอก็คิดเพียงแค่ว่านั่นคือเสียงของแมวหรือสัตว์ที่วิ่งเข้ามาภายในบ้านเพราะบ้านของเธอก็อยู่แถวๆป่าอุทยาน แต่พอคิดไปคิดมาแล้วมันก็ไม่สามารถเป็นไปได้เพราะทั่วทั้งบ้านของเธอจะมีเหล็กดัดกั้นเอาไว้ตลอด ไม่น่าจะมีสัตว์ที่น่าจะหลุดรอดมาได้ เสียงๆนั้นดังขึ้นมาไม่หยุด ดังจนเธอรู้สึกว่านั่นคือเสียงของคนที่กำลังวิ่งอยู่บนชั้นสอง ด้วยความที่ว่าบ้านของเธอนั้นเป็นบ้านไม้จึงทำให้ได้ยินเสียงค่อนข้างชัดเจนว่ามีคนวิ่งอยู่จริงๆ เธอจึงได้ตะโกนออกไปว่า “นั่นใครหน่ะ ใคร!!” แล้วเสียงนั้นก็ได้เงียบไป หลังจากวันนั้นผ่านไปเธอก็ต้องเจอกับเสียงๆของอะไรบางอย่างอยู่บนชั้นสองนั้นตลอดหลายวัน ซึ่งพอนานวันเข้าเธอก็เริ่มแน่ใจว่านั่นมันคือเสียงของคนที่วิ่งเล่นอยู่บนชั้นสอง และในตลอดเวลาที่เธออยู่บ้านหลังนี้คนเดียวเธอก็รู้สึกว่าเหมือนเธอไม่ได้อยู่คนเดียวและเหมือนจะมีคนจ้องมองมาที่เธอมาโดยตลอด แต่เธอก็ไม่ได้บอกแฟนของเธอเลย
มีอยู่วันหนึ่งหลังจากนั้นแฟนของเธอได้ไปทำงานกับเพื่อนที่ทำงานของเขาจนถึงดึก แฟนของเธอก็ได้ชวนเพื่อนของเขามานอนค้างที่บ้านของเธอในคืนนั้น หลังจากที่แฟนของเขาเหนื่อยมาจากงานกับเพื่อนของเขา เขาจึงได้ชวนเพื่อนของเขาดื่มแอลกอฮอร์ที่บ้านกันต่อหลังจากเหนื่อยจากงาน หลังจากที่แฟนของเธอกับเพื่อนของเขานั้นดื่มกันมาสักพักจนถึงเวลาที่ค่อนข้างที่จะดึก จึงได้มีการแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้เข้านอนกันต่อ ด้วยความเมาของแฟนของเธอพอเขาอาบน้ำเสร็จก็ได้ล้มนอนหลับไปภายในห้อง เธอก็ได้หลับตามไปในเวลานั้น พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนตี 3 เธอก็ได้มีอาการอยากที่จะเข้าห้องน้ำจึงได้ลุกขึ้นมาเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ โดยปกติเวลาที่เธอจะเข้าห้องน้ำ เธอจะไม่ชอบที่จะปิดประตูห้องน้ำเอาไว้ เธอมักจะแง้มประตูห้องน้ำไว้ตลอด แต่แล้วครั้งนั้นที่เธอเข้าห้องน้ำ เธอได้สังเกตเห็นคนเดินไปเดินมาอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องน้ำตลอด เธอจึงคิดว่าเป็นแฟนของเธอเลยไม่ได้คิดอะไร พอหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จเธอจึงได้ขึ้นห้องเพื่อไปนอน แต่แล้วก็เห็นว่าแฟนของเธอนั้นหลับสนิท จึงคิดว่าเงาที่เธอเห็นนั้นคงเป็นเพื่อนของแฟนของเธอเดินไปมามากกว่า
พอหลับกันไปได้สักพัก เธอก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเพื่อนของแฟนเธอนั้นได้เคาะห้องประตูอย่างรุนแรง พร้อมกับตะโกนบอกว่าเปิดประตูให้หน่อย เธอก็ได้ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และแฟนของเธอก็ได้ถามว่าเป็นอะไร ในตอนนั้นสีหน้าของเพื่อนของแฟนเธอนั้นซีดแบบเห็นได้ชัด โดยที่ตัวเขาพูดแต่ว่าช่วยพาเขาไปนอนพักที่โรงแรมที่อยู่ในเมืองหน่อย ในตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะนอนบ้านนี้ได้แล้ว แฟนของเธอจึงได้พาเขาไปนอนพักที่โรงแรมในคืนนั้นและกลับมานอนกับเธอต่อ จนวันต่อมาเธอก็ได้มารู้ว่าเพื่อนของแฟนเธอนั้นได้เจอกับวิญญาณในขณะที่เขากำลังหลับอยู่ โดยที่เขานั้นได้ฝันเห็นถึงวิญญาณของยายชราคนหนึ่งที่มาเข้าสิงเขา โดยยายคนนั้นได้เข้าฝันและด่าทอเขาด้วยคำพูดที่ไม่ดีพร้อมพูดออกมาว่า “มึงมาเมาอยู่ที่บ้านของกู มึงเจอดีแน่” พร้อมกับใบหน้าที่ดุ ทำให้เขารู้สึกกลัวมากจึงอยู่ที่บ้านของเธอไม่ได้เลย
พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้ว่าบ้านที่เธออยู่คงมีวิญญาณอยู่จริงๆ อาจจะเป็นวิญญาณจากเสาตกน้ำมัน หรืออาจจะเป็นวิญญาณที่สถิตอยู่ที่บ้านหลังนี้นานแล้วก็เป็นได้…