เรื่องนี้เกิดขึ้นกับวัดแห่งหนึ่งที่มีการพูดกันปากต่อปากว่าวัดนี้ผีดุ โดยผู้ที่เล่านั้น เขาได้มีโอกาสที่จะต้องบวชอยู่ภายในวัดแห่งนี้ที่มีการลือกัน เมื่อตอนอายุประมาณ 22 ปีและการบวชในครั้งนั้น มันทำให้เขาเชื่อเลยว่าวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ไปมาโดยไม่มีร่างอาศัยนั้นมีอยู่จริง วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่องราวสยองขวัญ เรื่อง “เรื่องเล่าจากพระใหม่” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
เขาบวชเป็นพระมาระยะเวลาหนึ่ง แต่ก่อนบวชเป็นพระเขาก็ต้องเป็นนาคอยู่ภายในวัด ซึ่งในช่วงเวลานั้น เขามักจะตื่นก่อนพระองค์อื่นๆก่อนตลอดเวลา เพราะเขานั้นกลัวผี เพราะก่อนหน้านี้เขาได้มีโอกาสรับรู้ว่าวัดที่เขาบวชนั้นเป็นวัดเก่าแก่ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องผี ช่วงแรกของการอยู่วัด เขานอนไม่หลับเลย เขารู้สึกกระวนกระวายใจ มีคนบอกเอาไว้ว่ากุฏิที่นอนก็ทำจากไม้โลงศพแทบทั้งนั้น ช่วงกลางคืนดึกดื่นมักจะมีเสียงหมาหอนตลอดข้างหลังกุฏิที่เขานอน มันมีเสียงเหมือนคนมาเดินไปมา แต่พอเปิดหน้าต่างออกก็ไม่เจอใครเลย มันเป็นเรื่องแปลกที่ทำให้เขานอนไม่หลับจนกระทั่งมาฟังอาจารย์พระท่านหนึ่งได้สอนเกี่ยวกับเรื่องวิญญาณที่ไม่มีจริง และพยายามที่จะให้เขาทำใจให้สงบลงได้บ้าง
แต่แล้วพอมาคุยกับหลวงพี่บางคนก็บอกว่าวัดนี้มีผีนะ พอได้ยินอย่างนี้ก็เริ่มกลัวอีก แต่ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ทำใจให้สงบหากวันไหนเกิดเจอะเจอเข้าจริงๆก็แสดงว่าเขามาขอส่วนบุญส่วนกุศลให้แผ่เมตตาแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้กับวิญญาณเหล่านั้น ด้วยความกลัวเขาเลยแผ่เมตตาให้ทุกคืนและกรวดน้ำให้กับทุกวิญญาณที่อยู่โดยรอบจะได้ไม่ต้องมาให้เห็น แต่ก็มีบางสิ่งที่น่าแปลกได้เกิดขึ้น ก็คือถ้าคืนไหนตัวเขาไม่กรวดน้ำมันจะทำให้รู้สึกร้อนห้องในกุฎีจะร้อนมากๆ ทั้งที่มีพัดลมอยู่ แต่มันก็ร้อนอบอ้าว แต่พอลุกขึ้นไปกรวดน้ำให้กับวิญญาณเหล่านั้น เมื่อกลับมานอนมันก็รู้สึกเย็นสบายขึ้นมา นอนหลับได้อย่างสบาย ห้องน้ำในวัดนี้สามารถมองออกไปเห็นสภาพภายนอกได้หมดไม่ว่าจะเป็นศาลาสวดศพเมรุหลังวัด ก็เป็นป่าช้าแม้ไม่อยากมอง แต่สายตาของเขามันก็ลอกแลกมองเห็นอะไรสูงๆ เคลื่อนไหวอยู่ ในใจเขาก็อดคิดไม่ได้ว่าต้องเป็นเปรต แต่ก็พยายามได้แต่คิดว่ามันคือยอดมะพร้าว
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มองออกไปแล้วก็เจอดี วันนั้นเขาเข้าไปอาบน้ำประมาณ 4 ทุ่มสายตาก็มองลอกแลก เหมือนเช่นเคยมองเห็นอะไรสูงๆ เคลื่อนไหวอยู่ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นยอดมะพร้าว แต่ก็อดมองไม่ได้พอมองตรงไปก็เห็นยอดมะพร้าวโยกไปโยกมา แต่แปลกเกินตรงที่ว่าพอมองไปสักพัก ก็ได้เห็นคนนั่งอยู่บนยอดมะพร้าวนั่งสูบบุหรี่แดงวาบๆ อยู่แล้วคนอะไรจะมานั่งอยู่บนยอดมะพร้าวตอน 4 ทุ่ม เห็นแบบนั้นเขาวิ่งออกจากห้องน้ำในกุฏิไม่เหลียวหลังอีกเลย และไปเล่าให้หลวงพี่ฟัง ก็ได้รับรู้ว่าเคยเห็นเหมือนกัน หลวงพี่จึงชวนไปกรวดน้ำแล้วพยายามพูดปลอบให้สงบลง เหตุการณ์อีกเหตุการณ์หนึ่งที่แปลกมากได้เกิดขึ้นที่วัดแห่งนี้เช่นกัน นั่นก็คือได้มีชาวบ้านแถวนั้นเป็นโรคประหลาดขึ้นมา ญาติๆ จึงนำตัวมาให้อาจารย์รักษา อาจารย์แกตรวจอยู่พักหนึ่งแล้วก็ทำน้ำมนต์แล้วเป่าน้ำมนต์ไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น 3 ครั้ง ผู้หญิงคนนั้นถูกน้ำมนต์เป่าก็ดิ้นพล่านร้องครวญคราง ที่แปลกกว่านั้นคือเสียงที่ออกมาจากหญิงคนนั้นในตอนแรกก็เป็นเสียงผู้หญิงวัยกลางคนธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่พอมาเจอน้ำมนต์ก็ส่งเสียงร้องออกมาเป็นเสียงผู้ชาย เป็นเสียงของชายแก่ๆ แหบแห้งร้องบอกอาจารย์ว่า “กลัวแล้วๆจะไปแล้วไม่อยู่แล้วจากนั้นร่างของหญิงกลางคนนี้” และก็เป็นลมหมดสติไปพอฟื้นกลับมาอีกครั้งก็เป็นเสียงผู้หญิงเดิม เมื่อพวกชาวบ้านกลับไป เขาก็ได้เข้าไปถามอาจารย์และก็ได้รับคำตอบว่าผู้หญิงคนนี้ถูกวิญญาณเข้าสิงแล้วบอกอีกว่าวิญญาณที่เข้าสิงนั้นได้ไปแล้วจะไม่มารบกวนอีกแล้ว และไม่ได้อยู่ในเขตวัดนี้ พอเขาได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยอย่างน้อยๆ อาจารย์ก็คงไม่โกหก แต่เพื่อความชัวร์ก็ลงไปกรวดน้ำล่วงหน้าให้เสียเลยจะได้ไม่ต้องมาให้เห็นกันอีก แต่ในช่วงตลอดเวลาของการเป็นพระของเขานั้น เขาต้องคอยระแวง รอบๆโดยตลอด เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นคืออะไรกันแน่
ซึ่งหลังจากที่เขาสึกออกมา เขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องวิญญาณอีกเลยมันคงเป็นเพราะขณะที่ตอนเขายังเป็นพระนั้น เขายังคงเคร่งอยู่ในศีลในธรรม วิญญาณส่วนใหญ่จึงมาปรากฏให้เห็นเพื่อขอแบ่งปันผลบุญ แต่เมื่อสึกออกมาก็ค่อยๆห่างจากเรื่องดังกล่าว จึงไม่มีวิญญาณแม้แต่ตนเดียวได้ออกมาให้เห็นกัน มันเป็นสิ่งที่ดีแล้วเพราะคงไม่มีใครที่อยากจะเห็นวิญญาณกัน ขนาดเป็นพระเขายังกลัวขนาดนั้นแล้วตอนนี้เป็นแค่คนธรรมดาจะกลัวขนาดไหน นี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของ เรื่องเล่าพระใหม่ นะครับ ถ้าชอบเกี่ยวกับเรื่องเล่าสยองขวัญแบบนี้ ก็ขอให้ติดตามกันเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย…