เรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับป่า ซึ่งใครหลายๆคนอาจจะรู้กันดีว่าภายในป่านั้นมักจะมีเรื่องสยองขวัญมากมายที่เกิดขึ้นมา ทั้งเรื่องของวิญญาณเอ่ย เรื่องของความลึกลับที่อาจจะหาทางออกไม่ได้เอ่ย เรื่องของเจ้าป่าเจ้าเขาที่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น หรือแม้กระทั่งเรื่องของความเชื่อของการหลงหายไปไหนป่าแบบไม่รู้ว่าจะหาพวกเขาเจอได้จากที่ไหนกันอีก ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ยากมาก สำหรับครั้งนี้ที่แอดได้นำเรื่องเล่ามาจะเป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในแถบเพื่อนบ้านของเราที่อยู่ในประเทศมาเลเซียและได้มีผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นคนได้ไปเจอกับเรื่องในครั้งนี้ วันนี้แอดจึงขอนำเสนอเรื่อง “เรื่องเหลือเชื่อที่อยู่ภายในป่า” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ…
ผู้ชายคนหนึ่งที่เขาได้เจอนั้นเขาได้ทำงานเกี่ยวกับวิศวะปิโตเรียมและหน้าที่ของเขาคือการสำรวจและวางท่อก๊าซ และตัวเขาได้มีโอกาสที่ได้ไปแถบประเทศมาเลเซียและได้ยินเรื่องๆหนึ่งมาจากคนงานแถวนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องย้อนกลับไปประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ในช่วงนั้นก็มีการจัดสำรวจและวางท่อก๊าซเช่นกัน เขาก็ต้องมีการส่งคนงานเพื่อลงไปสำรวจว่าเส้นทางที่พวกเขาจะวางหรือจะติดตั้งนั้นต้องใช้ความยาวทั้งหมดกี่กิโลเมตร และต้องผ่านเส้นทางไหนบ้าง หรือต้องไล่ซื้อที่ที่ไหนบ้างเพื่อที่จะติดตั้งของเหล่านั้น แต่แล้วเส้นทางที่จัดตั้งนั้นก็ได้มีการผ่านเส้นทางป่าของทางแถบมาเลเซียด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ต้องมีการส่งคนงานไปค่อนข้างเยอะเพื่อที่จะให้ล้นเวลาในการทำงานให้เร็วขึ้น เขาก็ได้มีการไปสำรวจกัน ในตอนนั้นได้มีคนงานอยู่ทั้งหมดประมาณ 10 คนที่ได้รวมตัวกันเพื่อที่จะไปสำรวจ ซึ่งในสมัยนั้นไม่ได้มีเทคโนโลยีที่จะดีเท่าปัจจุบันนี้ เรื่องของ GPS หรือเครื่องนำทางดีๆก็ยังไม่ได้มีให้เห็นกันมากนัก ในตอนนั้นพวกเขาต้องใช้กล้องในการส่องเส้นทางแทน
ทุกคนก็ได้ทำงานกันแบบนี้ไปเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ผ่่านไป วันหนึ่งก็ได้มีฝนตกมารุนแรงทำให้การทำงานนั้นทำอะไรไม่ได้ ทุกคนก็ได้มีการรวมตัวกันเพื่อที่จะหลบฝนที่รุนแรงนั้น แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะได้มีน้ำป่าไหลมาอย่างรุนแรง ทำให้คนงานทุกคนต่างวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง และได้มีคู่บัดดี้คู่หนึ่งได้วิ่งหลกเข้าไปในป่า หลงไปที่ไหนไม่รู้ไม่มีใครทราบ หลังจากที่รวมตัวกันคบ 8 คน ตอนนั้นทุกคนก็ได้พากันเดินตามหาคู่บัดดี้นั้นว่าหายไปไหนกันแน่ พวกเขาทั้งเดินตามหาและตะโกนแต่ก็หาไม่เจอ จนมาถึงในตอนกลางคืนพวกเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะหยุดตามหาและตั้งแคมป์เอาไว้ก่อน พอตั้งแคมป์คืนนั้นเรื่องประหลาดก็ได้เกิดขึ้นมา
โดยปกติก่อนหน้านั้นการทำงานของพวกเขาที่สำรวจป่านั้น พวกเขาไม่เคยที่จะได้เจอคนเลยระหว่างที่เดินภายในป่า แต่แล้ววันนั้นอยู่ๆก็ได้มีคนแก่สองคนเป็นผู้หญิงและผู้ชายได้เดินตรงเข้ามาที่แคมป์พวกเขาอย่างช้าๆ และพวกเขาก็มีการพูดถามพวกเขาว่าพวกเขากำลังหาอะไรกัน พวกเขาก็ได้อธิบายว่ากำลังทำงานกันอยู่ ชายหญิงชราคู่นั้นก็ได้ทักมาว่า “พวกเขาเดินมาถึงที่นี่กันได้อย่างไรที่นี่มันลึกมากเลยนะ ไม่กลัวหลงกันเหรอมาทำงานภายในป่ากันแห่งนี้” พวกเขาก็ได้ตอบกลับว่า “ไม่หลงกันหรอกเพราะพวกเขาทำงานกันแบบนี้กันมาโดยตลอด” แต่แล้วหญิงชายชราก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ไม่หลงจริงเหรอ ตอนนี้ไม่ใช่ว่ามีใครในกลุ่มหายไปหรือเปล่า” พวกเขาก็รู้สึกตกใจเพราะพวกเขาไม่ได้เล่าให้ใครฟังเรื่องเพื่อนของพวกเขาที่หายไป พวกเขาเลยได้ถามกลับไปว่ารู้ได้อย่างไร หญิงชายชราก็ได้บอกกลับว่า พวกเขาได้เห็นเหมือนมีคนเดินหลงอยู่ในป่าแห่งนี้ และได้บอกพวกเขาว่าให้รอพรุ่งนี้เดี่ยวพวกเขาจะพาไปหาเพื่อนที่หลงป่านั่นเอง และทั้งชายและหญิงชราก็ได้เดินหายไปในป่า
พอหลังจากนั้นพวกเขาก็มานั่งคุยกันว่า พวกเขาก็ทำงานที่นี่กันมาซักระยะหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เห็นคนมาเลย แต่ทำไมจู่ๆถึงได้มีหญิงและชายชราโผล่มากลางป่าตอนดึกๆได้ มันเป็นอะไรที่น่าแปลกใจอย่างมาก และก็ได้มีหนึ่งคนในกลุ่มพูดขึ้นมาว่าหรือจะเป็นผีเจ้าที่ที่อยู่ภายในป่าแห่งนี้ เพราะมันเป็นอะไรที่เป็นไปได้ยากมากที่จะมีคนมาเดินกลางดึกแบบนี้และยิ่งเป็นคนแก่แล้วหล่ะก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย พวกเขาจึงได้พูดกันว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ขอให้พรุ่งนี้พวกเขาได้พบเจอกับเพื่อนที่หายไปจริงๆเถอะ เพราะพวกเขาเป็นห่วงกันมากไม่อยากจะให้หายไป พอถึงวันถัดมาพวกเขาก็ได้เดินทางตามหากันต่อ และจู่ๆพวกเขาก็ได้เจอกับสองคนนั้นจริงๆ ซึ่งสองคนนั้นอยู่ไม่ได้ไกลจากพวกเขากันมากนัก และทำไมพวกเขาถึงไม่ได้ยินเสียงของสองคนนี้เลย
จึงได้มีการถามกันว่าระหว่างที่พวกเขาหายไปพวกเขาไปไหนกันมา ทั้งสองคนได้ตอบกลับมาว่าเมื่อคืนตอนกลางคืนที่พวกเขาหลงป่ากัน จู่ๆก็ได้มีผู้หญิงกับผู้ชายชราคู่หนึ่งได้เดินมาหาพวกเขาและได้บอกกับพวกเขาว่าให้ใจเย็นๆก่อน ถ้าพวกเขาใจเย็นพอและไม่เดินไปไหนมาไหนมั่วๆ พวกเขาก็จะได้เจอกับเพื่อนที่พวกเขากำลังตามหากันอยู่ ทั้งสองจึงได้เชื่อและวันถัดมาก็ได้เจอกันจริงๆ นี่คือเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่อยู่ภายในป่าเป็นอันแน่ ซึ่งคงไม่มีใครอยากจะเจอกันจริงๆหรอก เพราะมันน่ากลัวมาก…