เหตุการณ์สยองขวัญในครั้งนี้นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อหลายเดือนก่อน ผู้ที่ได้เจอเหตุการณ์นี้นั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ในช่วงที่เกิดเรื่องนั้น เพื่อนๆที่เธอรู้จักกันมาในสมัยก่อนได้นัดกันไปกินเลี้ยงที่โรงเรียนที่เคยเรียนด้วยกันในสมัยมัธยมปลาย พอเธอได้รับคำเชิญจากเพื่อนๆที่ได้ส่งมาให้เธอ เธอและเพื่อนทุกคนก็ต่างดีใจกันมากที่จะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากที่ทุกคนหายหน้าหายตาไปนานหลายปี งานเลี้ยงนี้จัดกันในวันศุกร์ที่ 13 มันควรจะเป็นวันที่เกิดแต่เรื่องที่มีความสุขแต่กับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเธอและเพื่อนนั้นถึงกับต้องไม่อยากที่จะจดจํามันเลย วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่อง “เรื่องเล่าจากเพื่อน” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร แอดขอให้ทุกคนอ่านอย่างมีสติและให้สนุกนะครับ บรื้อ…
วันนี้เป็นวันสำคัญ มันคือวันที่เพื่อนๆจะมาเจอกัน พอเริ่มถึงเวลาที่นัดกันนั้น เธอก็ได้ไปถึงสถานที่ตามเวลาที่กำหนด พอใกล้ๆเวลาที่นัด เพื่อนๆของเธอก็ต่างมาตามนัดกันที่โรงเรียน แต่แล้วก็มีเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ยังมาไม่ถึงาสักที เวลาก็ผ่านมานานสักพักแล้ว ด้วยความเป็นห่วงและอยากจะให้มาให้ครบกันเร็วๆเธอจึงตัดสินใจโทรเบอร์ไปเช็กดู พอเธอได้โทรไปในครั้งแรก แต่ก็ไม่มีใครรับสายเลย เธอก็ได้โทรย้ำไปอีกแต่ก็ยังคงไม่มีใครรับสายเช่นเดิม ตัวเธอและเพื่อนๆที่ได้มาถึงแล้วนั้นก็เริ่มกังวลแล้วว่าทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์กันหรือจะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า เพราะเพื่อนกลุ่มนี้เป็นเพื่อนที่รักของทุกคนในรุ่นเดียวกัน และมีเพื่อนของเธออยู่ในกลุ่มนั้นอยู่ด้วย พอเธอวางหูโทรศัพท์ได้สักพักเพื่อนของเธอก็โทรมาหาเธอ โดยที่ปลายสายนั้นได้บอกเธอว่า “พวกเขาจะไปถึงที่โรงเรียนช้าหน่อยนะ ไม่ต้องเป็นห่วง” เธอจึงได้ถามกลับไปด้วยความเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ทางนี้เป็นห่วงทางนั้นนะ” แต่ไม่ทันที่จะได้ฟังเสียงเพื่อนของเธอตอบกลับ โทรศัพท์ก็โดนตัดสายไปก่อน เพราะว่าแบตโทรศัพท์ของเธอหมดไปแบบกะทันหัน แต่เพื่อนๆของเธอที่อยู่ที่งานก็บอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงไปเดี่ยวสักพักเพื่อนกลุ่มนี้ก็คงจะมากัน
หลังจากที่วางสายไปได้ไม่นาน พอเวลาผ่านไปสักพักเพื่อน ๆ ก็มาถึงตามที่นัด เพื่อนๆรวมถึงตัวเธอต่างที่รอกัน ก็ได้ถามกันว่า “นี่ทำไมพวกเธอมากันช้ากันมากเลยล่ะ” เพื่อนๆกลุ่มนี้ก็ได้ตอบกลับกันว่า “คือว่าพวกฉันไปเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นนะสิ“ ด้วยความสงสัยก็เลยปล่อยให้พวกเขาเล่าเรื่องที่พวกเขาได้เจอกัน “พวกเราออกจากบ้านกันมานานแล้วล่ะ และก็มาถึงโรงเรียนนานแล้วแต่มันไม่ใช่โรงเรียนของเราน่ะสิ” นั่นคือสิ่งที่กลุ่มเพื่อนที่มาช้าได้พูดขึ้นมา พอเธอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที เธอจึงได้ถามกลับไปว่า “แล้วโรงเรียนของใครหรอ“ “มันเป็นโรงเรียนร้างน่ะ” เพื่อนของเธอตอบทันทีหลังจากที่เธอได้ถาม “แต่พวกฉันเห็นเป็นโรงเรียนของเราได้ยังไงก็ไม่รู้นะ ตอนแรกพวกเราก็ลงจากรถกำลังจะเดินเข้าไปในโรงเรียน แต่ไม่เห็นมีคนเลย แต่พอดีมีลุงที่เขาทำความสะอาดอยู่ พวกฉันก็เลยเข้าไปถามลุงว่าที่นี่ได้มีงานจัดเลี้ยงตามที่ได้มีคำเชิญกันไหม คุณลุงแก่บอกว่าที่นี่ไม่มีงานเลี้ยง พวกฉันถึงกับงง พอคุยกับลุงได้สักพัก อยู่ๆก็ได้มีเด็กที่ไหนไม่รู้ใส่ชุดนักเรียน เขาได้เดินมาคู่กับอาจารย์คนหนึ่งที่ตัวพวกฉันเองก็ไม่รู้จัก ทั้งสองได้เดินมาหา แต่ระหว่างที่เดินมาหานั้น พวกเขามีท่าทางที่ดูแล้วเป็นกาเดินมาหามันซึ่งหน้ากลัวซะเหลือเกิน เดินกันมาอย่างช้าๆ พร้อมกับใบหน้าที่ขาวซีด ตอนแรกก็คุยกันดีๆพอสักพักเพื่อนคนหนึ่งโมโหเลยเถียงกัน”
เธอจึงได้ถามต่อว่า “เถียงกันเรื่องอะไร” เพื่อนของเธอจึงได้เริ่มเล่าต่อ “เถียงกันเรื่องโรงเรียนเนี่ยแหละ อาจารย์และเด็กนักเรียนบอกว่าที่นี้ไม่มีงานเลี้ยง เพื่อนเรามันก็ไม่เชื่อจนฝ่ายนั้นเขาโกรธขึ้นมา มันเป็นอาการโกรธที่ทำให้พวกฉันตกใจและขนลุกพร้อมๆกันเลยหล่ะ เพราะพออาการโกรธมันมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งตัวนักเรียนและอาจารย์ ทั้งคู่ก็ค่อยๆลอยขึ้นมาและก็เลยปรากฏร่างที่ไม่หน้าดูสักเท่าไร นั่นก็คือหัวของทั้งอาจารย์และนักเรียนได้หายไปและตัว อาจารย์ที่ไร้หัวนั่น เขาก็พูดบอกว่า งานเลี้ยงของพวกคุณๆอยู่ข้างหน้า พวกฉันตกใจจนเป็นลมล้มไปรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่รุ่นพี่ที่เขามางานเลี้ยงด้วยเข้ามาเรียก ไม่อย่างนั้นพวกเราคงต้องนอนอยู่ที่นั้นแน่ๆ”
พอได้ยินเรื่องที่เพื่อนเธอเล่าทั้งหมดนั้น ก็ทำให้เธอพอคิดได้ว่าการที่จะเจอเรื่องผีนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในที่ไหน สถานการณ์ไหน ไม่ว่าคนจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กันเป็นกลุ่ม ก็สามารถเจอกันได้หมด ถ้าดวงคนเรานั้นมีสิทธิที่จะเจอ เธอเลยตัดสินใจจะนำเรื่องนี้มาแชร์ให้กับทุกคนได้รับรู้กันว่า ทุกพื้นที่ ทุกเวลา เราสามารถเจอวิญญาณกันได้ทั้งนั้น นี่ก็คือทั้งหมดของเรื่องเล่าของเพื่อน ถ้าชอบเรื่องแบบนี้ก็ขอให้ติดตามกันเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย…
ที่มา : www.ookbee.com เว็บสล็อต