สำหรับเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ทีแ่อดได้นำมานั้นจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวเธอนั้นได้เจอเรื่องแปลกๆภายในบ้านหลังหนึ่งและมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาได้ประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ถ้าใครชอบเรื่องราวสยองๆที่จะเกิดขึ้นภายในบ้านนั้น ก็ขอให้ตั้งใจอ่านกันนะครับ สำหรับเรื่อง “เธอที่ใส่ชุดแต่งงาน” ถ้าอยากรู้แล้วหล่ะก็ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้สนุกกันนะครับ…
ในช่วงเวลาตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เธอนั้นกำลังเป็นวัยรุ่นอยู่และเธอนั้นได้มีโอกาสที่จะต้องมาทำงานที่กรุงเทพ ซึ่งในตอนนั้นการทำงานส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นงานเกี่ยวกับการทำโรงงานหรือที่เรียกกันว่าสาวโรงงานอะไรประมาณนั้น แน่นอนว่าการทำงานที่ไม่ใช่จังหวัดบ้านเกิดของตัวเองนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างลำบากที่จะต้องมาหาที่พักที่นอนในแต่ละครั้ง แต่เธอก็โชคดีที่ว่างานโรงงานที่เธอทำนั้น ทางโรงงานได้มีการเตรียมบ้านพักเอาไว้ให้เรียบร้อย ทำให้เธอได้ตัดสินใจที่จะทำงานที่โรงงานนี้เพราะจะได้ไม่ต้องมาหาที่พักในตอนหลัง โดยทางเจ้าของโรงงานเขาได้เตรียมบ้านไว้สำหรับพนักงานไว้หลายหลังและเรียงกันเหมือนเป็นโซนบ้านสำหรับพนักงานเลย และบ้านที่เธอได้พักนั้นจะเป็นบ้านที่อยู่ตรงบริเวณกลางๆ เป็นบ้านไม้สีน้ำตาลอมแดงที่ดูแล้วก็มีลักษณะเก่าๆน่ากลัวๆอยู่ไม่น้อย โดยบ้านหลังนี้นั้นก็จะอยู่ไม่ไกลจากโรงงานเลย และบ้านแต่ละหลังก็จะถูกแบ่งซอยห้องไปหลายๆห้องเพื่อที่บ้านหลังนึงจะได้มีพนักงานอยู่ได้ประมาณ 6-7 คนเลย
ช่วงเวลาที่เกิดเรื่องนั้นเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตัวเธอนั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เธอก็ได้จองตั๋วคิวรถเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปกติแล้วคนนั้นมักจะจองและขึ้นรถเดินทางไปที่หมอชิตกัน แต่เธอนั้นได้จองและตั้งใจจะขึ้นรถที่ตรงที่จอดรอรถกัน แต่แล้วระหว่างที่เธอกำลังจะเดินทางไปเพื่อขึ้นรถนั้น รถที่เธอได้นั่งไปมันเป็นช่วงที่รถติดมากจึงทำให้เธอนั้นตกรถหรือขึ้นคิวรถไม่ทันนั่นเองในตอนนั้น พอมันเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เธอจึงต้องซื้อตั๋วใหม่และมันเป็นตั๋วที่ต้องเดินทางในตอนเช้าของวันถัดไป เธอจึงต้องนั่งรถกลับบ้านพักของเธอทันทีในตอนนั้นและกลับมาอีกทีในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้ พอเธอได้เดินทางกลับบ้านพัก ตอนนั้นก็มีเพียงแต่เธอคนเดียวที่อยู่บ้านหลังนั้นแล้ว เพราะว่าพนักงานคนอื่นๆก็ต่างกลับบ้านกันหมดในช่วงเทศกาลตอนนี้
พอเธอกลับมาถึงบ้านมันก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว และด้วยความที่เธอต้องไปถึงคิวรถในตอนเช้าเธอจึงตั้งใจที่จะออกจากบ้านประมาณตี 5 และมันก็อีกไม่นานแล้วจะถึงเวลาตี 5 เธอเลยไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องเธอ และได้ตัดสินใจนอนพักเพื่อรอเวลาอยู่ที่ห้องโถงที่เป็นห้องรับแขกของบ้านหลังนั้น ในห้องโถงนั้นจะมีโซฟาเก่าๆอยู่ตัวนึงและจะมีพัดลมเพดานตัวใหญ่ติดอยู่ตรงกลางห้อง เธอก็ได้ล้มตัวลงนอนเพราะเดี่ยวเธอก็ต้องตื่นอีกไม่นาน แต่แล้วพอเธอหลับไปได้สักพัก เธอก็ได้ฝันถึงอะไรแปลกๆขึ้นมา โดยในฝันนั้นเธอได้ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเคาะกระจกอยู่ข้างนอกบ้านหลังนี้ ในฝันพอเธอได้เดินไปหาผู้หญิงคนนั้นที่หน้าบ้าน ผู้หญิงคนนั้นก็ได้เอ่ยปากถามเธอว่า “คุณๆ เห็นสามีฉันไหม” ในฝันเธอก็ไม่ได้ตอบ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้เคาะตรงกระจกอีกครั้งด้วยความแรงและก็ได้ถามแบบเดิมอีกว่า “คุณๆ เห็นสามีฉันรึเปล่า” พอมันแรงขึ้นเธอก็ได้สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการตกใจ เพราะตอนนั้นเธอรู้สึกว่ามันกึ่งจริงกึ่งฝันยังไงไม่รู้ พอเธอตื่นขึ้นมาเธอก็ได้หันไปดูกระจกทันทีแต่ก็ไม่มีอะไรตรงนั้น
ในตอนนั้นเธอได้ตื่นขึ้นมาตอนประมารตี 3 พอเห็นว่าไม่มีอะไรเธอก็ได้จะล้มตัวเพื่อที่จะนอนต่อ แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงของคนสูดหายใจแบบแรงๆ โดยที่เหมือนว่าเสียงนั้นจะเป็นของคนที่เป็นหวัดอยู่ด้วย พอได้ยินเธอก็เริ่มรู้สึกกลัวเพราะกลัวว่าจะเป็นคนหรือใครหรือเปล่ามาแอบเข้าบ้านตอนนี้ เธอจึงได้เปิดไฟฉายและค่อยๆฉายไปรอบๆห้องโถง แต่ก็ไม่มีใคร แต่หลังหลังจากนั้นเธอก็สัมผัสได้ถึงน้ำอะไรบางอย่างกระเซนมาหาทางเธอ เธอก็รู้ว่าน้ำนี้นั้นน่าจะกระเซนมาจากทางขึ้นบนพัดลมเพดาน เธอจึงได้ค่อยๆเอาไฟฉายนั้นฉายขึ้นไปข้างบนเพดาน ปรากฏว่าสิ่งที่เธอเห็นก็ต้องทำให้เธอนั้นรู้สึกกลัวสุดๆ เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือ เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนอนหดตัวอยู่ตรงบริเวณใบพัดพัดลมตรงนั้น และก็หันหน้ามามองเธอที่อยู่ข้างล่าง โดยใบหน้าของเธอนั้นร้องไห้ไม่หยุดและก็มีใบหน้าเศร้าแบบเห็นได้ชัด หน้าตาของเธอไม่ได้โกรธหรืออะไร แต่เหมือนกำลังนอนเศร้าอยู่แบบนั้นและมันเป็นจังหวะที่เธอได้ไปเห็นพอดี ผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดเหมือนชุดแต่งงานและที่สำคัญเธอนั้นไม่มีขา!!
พอเธอเห็นแบบนั้นเธอก็ได้รีบยกกระเป๋าของเธอออกจากบ้านทันทีและได้ไปนอนรอที่ตรงคิวรถจนรถมาและเธอก็ได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัด โดยพอกลับมาเธอก็ได้หาข้อมูลของบ้านหลังนี้ จนได้รู้ว่า บ้านหลังนี้เคยมีผู้หญิงฆ่าตัวตายโดยเธอใส่ชุดแต่งงาน เพราะได้มารู้ว่าแฟนของเธอนั้นได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัดนั้นเสียชีวิตก่อน จึงทำให้เธอเสียใจมากจึงได้ฆ่าตัวตายตามไปนั่นเอง…