เรื่องเล่าสยองขวัญในวันนี้เป็นเรื่องราวของคุณเอก ในช่วงตอนที่เรียนอยู่คุณเอกได้ทำงานกับอาซึ่งเป็นเจ้าของกิจการกำจัดปลวกอยู่ คุณเอกจึงได้สะสมประสบการณ์เอาไว้พอสมควร พอจบการศึกษามหาวิทยาลัย คุณเอกคิดว่าเอาละในเมื่อเรามีประสบการณ์ทำงานกับคุณอามา คุณเอกจึงได้ตัดสินใจเปิดบริษัทจำกัดปลวกขนาดเล็กขึ้นมาเป็นของตัวเองเขาได้ทุนมาจากพ่อและแม่ประมาณหนึ่งถึงจัดตั้งได้
ระยะเวลาผ่านไปก็มีลูกค้าประจำอยู่พอสมควร ณ วันหนึ่งวันที่เกิดเรื่องก็มาถึง เช้าวันนั้นคุณเอกก็ได้เข้าบริษัทไปเคลียร์เอกสารเหมือนดั่งทุกๆวันตามปกติ วีนนี้พนักงานที่บริษัทก็ลาเหลือแต่คุณเอกที่อยู่ “กริ๊ง กริ๊ง” มีสายโทรศัพท์เรียกเข้าดังขึ้นมา คุณเอกตกใจนิดหน่อย คุณเอกคิดว่าทำไมวันนี้เรานั่งละเมอแบบนี้ เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นาน คุณเอกก็ได้รับสายโทรศัพท์
“สวัสดีคับ บริษัทกำจัดปลวกยินดีรับใช้คับ” เสียงจากปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงเล็กๆ “สวัสดีคะคุณเอก พี่นุ้ยเองนะ อยู่ที่ผับคุณเอกเคยมาที่นี้แล้ว” คุณเอกพอได้ฟังเสียงจากปลายสายก็จำได้ “จำได้สิคับ พี่นุ้ย จะให้ผมรับใช้อะไรคับ” พี่นุ้ยแกก็บอกว่า “พี่อยากให้คุณเอกมาฉีดปลวกบริเวณชั้นบนของผับนะคะ อีก 2 วันถ้าคุณเอกไม่มีคิวเข้ามาช่วงผับปิดประมาณ ตี 3 ได้เลยนะคะ พี่จะรออยู่ที่ผับ”
คุณเอกพอได้ยินเช่นนั้นจึงบอกไปว่า “คับ ผมว่างอยู่พอดี อีกสองวันผมเข้าไปที่ร้านคับ” พอคุณเอกได้ตกลงสถานที่เวลานัดหมายในการทำงานเรียบร้อยแล้ว คุณเอกก็ได้ว่างสายไป วันเวลาก็ได้ผ่านไปมาถึงอีกสองวัน คุณเอกก็ได้ไปตามนัด คุณเอกขับรถพร้อมอุปกรณ์กำจัดปลวกที่ผับได้นัดหมายไว้แล้ว คุณเอกคิดว่าฉีดไม่มากจึงไปทำงานนี้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้เอาลูกน้องไปด้วย
รถเคลื่อนจนไปถึงสถานที่นัดหมาย คุณเอกได้ขับรถอ้อมไปด้านหลังของผับ บรรยากาศในช่วงตี่ 3 นี่มันดูเงียบ ไม่มีใครเลย มันวิวๆจนน่ากลัว สถานที่คุณเอกไปนี้มันผับตึกพาณิชย์สองคูหา เป็นผับขนาดเล็ก มีทั้งหมด 4 ชั้น สองชั้นล่างจะเป็นผับกึงบาร์ ส่วนสำนักงานจะอยู่ที่ชั้น 3 ชั้น 4 จะเป็นที่เก็บของ บางทีก็อาจเป็นที่อยู่ของเด็กในร้าน แต่ส่วนมากแล้วไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไรพี่นุ้ยเคยบอกว่าชั้น 4 จะไม่มีใครอยู่สะมากกว่า
คุณเอกจอดรถที่บริเวณด้านหลังนี้ ที่ผับก็เปิดไฟอยู่ คุณเอกจึงได้ลงไปหาคนที่ชื่อพี่นุ้ยต้องรอเข่าอยู่ในร้านแน่เลย พอคุณเอกเดินเข้าไปเปิดประตูปรากฏว่า ประตูถูกล็อคด้วยแม่กุญแจจากด้านนอก คุณเอกก็สงสัย อ้าวทำไมล็อคละ ไม่มีคนอยู่แล้วรึไงแต่ไฟก็เปิดอยู่ พี่นุ้ยคงออกไปไหนรึป่าว คุณเอกก็ได้รออยู่เป็นระยะเวลานานพอสมควร คุณเอกก็เดินไปเดนมาอยู่ในด้านหลังของผับแห่งนั้น
คุณเอกเริ่มจะรอไม่ไหวขึ้นรถกำลังจะขับรถกลับ มีผุ้ชายใส่เสื้อกล้ามสีแดงคนหนึ่งเดินมาจากไหนไม่ทันได้สังเกตุ เดินมาเรียกคุณเอก “น้อง มาทำอะไร มาหาใคร” คุณเอกก็ตกใจสะดุ้ง “อุ้ย พี่ตกใจหมด ผมมาหาพี่นุ้ยคับ พี่เขานัดให้ผมมาฉีดปลวกชั้นบน” พี่เขาทำท่าทีตกใจบอกคุณเอกว่า “พี่นุ้ยไหน แกโดนรถชนตายไป 3 วันแล้ว” คุณเอกตกใจเป็นอย่างมากแล้วบอกไปว่า “เป็นไปไม่ได้เมื่อสองวันก่อนเพิ่งคุยกับพี่นุ้ยไปเอง”
คุณเอกไม่อยากเชื่อ พี่ผู้ชายคนนี้ก็บอกว่า ถ้าไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร มาฉีดปลวดใช่มั้ยเดี๋ยวเขาจะพาเข้าไปในร้าน คุณเอกก็บอกว่าคับ คุณเอกก็หันมาเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด หันมาอีก ผู้ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว คุณเอกคิดว่าพี่เขาคงเดินเข้าไปในร้านแล้วมั่ง คุณเอกก็ได้เดินตามเข้าไป แต่ก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก คุณเอกกับเจอพี่นุ้ยไม่ใช่ชายคนนั้น คุณเอกตกใจมาก พี่นุ้ยตายแล้วไม่ใช่เหรอ พี่นุ้ยว่า “อะไรตายที่ไหน มาจับตัวดูว่าอุ่น”
คุณเอกได้จับตัวดู ก็ปรากฏว่าอุ่นจริงๆ คุณเอกได้บอกพี่นุ้ยว่า เมื่อกี้มีพี่ผู้ชายใส่เสื้อกล้ามสีแดงมาตอนรับ พี่นุ้ยบอกว่า “โดนแล้วเอก ตามพี่มาพี่จะพาไปดูอะไรดีๆ” พี่นุ้ยก็ได้เดินขั้นไปที่ชั้น 4 คุณเอกก็เดินตามไป ด้วยที่คุณเอกถืออุปกรณ์ไว้มาก ก็ทำให้คุณเอกต้องเดินตามไปอย่างพะรุงพะรัง คุณเอกเดินตามพี่นุ้ยไม่ทันได้ยินแต่เสียงรองเท้า พอถึงชั้น 4 คุณเอกก็ได้ตกใจอีกรอบหนึ่ง ชั้น 4 นี้มีกรอบรูป มีขวดน้ำแดงวางอยู่เต็มไปหมด
คุณเอกตกใจกับรูปที่ได้เห็น ในรูปเป็นผู้ชายที่ใส่สีกล้ามสีแดง ช้างๆมีรูปของพี่นุ้ยเขียนวันชาตะมาเช่นกันคุณเอกก็ตกใจมากล้มลงไปที่พื้น สติสตางค์ไม่มีแล้วขณะนั้น คุณเอกตั้งสติคิดอย่างเดียวคือต้องออกจากที่นี้ให้ได้ คุณเอกหันหลังกลับแต่เจอกับพี่นุ้ยที่มาด้วยสภาพแขนขาผิดรูปเหมือนโดนรถชน หันมาอีกข้างก็เจอกับพี่ผู้ชายเสื้อแดงมากระซิบข้างๆหูของคุณเอกว่า “เชื่อกู รึยัง”
ที่มาข้อมูล