เรื่องเล่าต่อจากนี้ได้เป็นเรื่องเล่าที่ได้มีผู้ชายคนหนึ่งได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากับเพื่อนของเขาคนหนึ่ง เพื่อนของเขาคนนี้เป็นคนดี และเป็นคนที่น่ารักมาเสมอมากับเพื่อนๆ เป็นคนที่ไม่เดิมเหล้าและไม่สูบบุหรี่และยังเป็นเด็กเรียนอยู่พอสมควร โดยตัวเขานั้นเดิมทีมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องผีอยู่แล้ว แต่เขานั้นไม่เชื่อว่าวิญญาณหรือผีนั้นจะสามารถทำร้ายอะไรคนได้ ความเชื่อที่เขาเชื่อนั้นคือพวกวิญญาณนั้นจะสามารถแค่ที่จะโผล่ออกมาให้เห็น มาทำให้รู้สึกขนลุกหรือต่างๆเพื่อที่วิญญาณเหล่านั้นต้องการที่จะขอส่วนบุญเพียงเท่านั้น แต่เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อจากนี้นั้นทำให้ความคิดของเขาเหล่านี้ถึงต้องเปลี่ยนไป กับเรื่อง “เจ้ากรรมนายเวร” ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาในช่วงที่เขานั้นเรียนอยู่ในชั้นมอ.6 เขานั้นได้อยู่กับเพื่อนคนนี้มาโดยตลอด แต่แล้วพอเวลาได้ผ่านไปและเข้าสู่ช่วงเทอมสอง เขานั้นก็สังเกตได้ว่าเพื่อนของเขานั้นมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เพราะเวลาเดินด้วยกันในกลุ่ม เพื่อนของเขาคนนี้นั้นมักจะหันหลังไปเพื่อดูอะไรบางอย่างเสมอ จนมีการพูดกันภายในกลุ่มเกี่ยวกับท่าทีที่แปลกไปของเพื่อนคนนี้ แต่พอเวลาผ่านไปทั้งตัวเขาและเพื่อนคนอื่นๆก็เริ่มรู้สึกชินเกี่ยวกับท่าทีของเพื่อนคนนี้แล้ว จนกระทั่งอาการของการชอบหันหลังไปมองอะไรบางอย่างนั้นหายไป แต่ได้เปลี่ยนไปเป็นการที่เพื่อนคนนี้นั้นชอบที่จะหลับตาและขยี้ตาตัวเองแทน จนตัวเขาเริ่มคิดแล้วว่ามันต้องเกิดอะไรบางอย่างกับเพื่อนคนนี้แล้ว ในช่วงแรกตัวเขาไม่ได้ถาม เพราะคิดว่าเป็นปัญหาทางบ้าน เนื่องจากที่บ้านของเพื่อนเขาคนนี้นั้นมีปัญหาทำให้พ่อกับแม่ของเขานั้นหย่าร้างกัน แต่พอดูๆไปแล้วนั้นเขาก็คิดได้ว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่บ้านของเพื่อน
เย็นวันหนึ่งขณะที่เขากับเพื่อนคนนี้นั้นเดินกลับบ้านด้วยกันในเส้นทางปกติที่เคยกลับ พอเริ่มที่จะผ่านสวนสาธารณะที่อยู่ระหว่างทางกลับนั้น อยู่ๆเพื่อนของเขาก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เขาจึงได้รีบวิ่งตามโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนของเขาอยู่ๆก็มีท่าทีที่เหมือนกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง เพื่อนของเขาวิ่งไปแบบไร้สติโดยที่วิ่งข้ามถนนไปโดยที่ไม่มองรถหรืออะไรที่กำลังขับผ่านเลย ทำให้เขาวิ่งตามไม่ทันเพราะกลัวรถจะชน จนสุดท้ายเขาได้วิ่งข้ามถนนตามทันในที่สุด และก็ได้เห็นเพื่อนของเขากำลังนั่งกอดเข่าของตัวเองอยู่ตรงมุมตึก เขาจึงได้รีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อนทันที และได้ถามว่าเพื่อนว่าเป็นอะไรทำไมอยู่ๆถึงวิ่ง แต่เพื่อนเขาตอบด้วยอาการเสียงสั่นว่า “มึงเชื่อเรื่องผีมั้ย เพราะระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้น กูได้เห็นผู้ชายแก่ๆมีเลือดเต็มตัวยืนอยู่ข้างทางระหว่างที่จะผ่านสวนสาธารณะและอยู่ๆชายคนนั้นก็วิ่งไล่ตามเขามาอย่างรวดเร็ว” เขาจึงได้ตอบว่าเป็นไปได้ยังไง เพราะนี่ก็ตอนกลางวันและก็มีคนอยู่เต็มไปหมดแล้วทำไมจู่ๆจะมาเห็นผีได้
เพื่อนของเขาจึงตอบมาว่า “กูเห็นผู้ชายแก่คนนี้มานานแล้ว เห็นเขาเดินตามหลังมาตลอด บางทีก็แอบอยู่ตามทาง แรกๆก็เข้ามาในฝัน และตอนนี้ก็เริ่มมาในชีวิตจริงแล้ว ไม่กล้าที่จะบอกใคร จนกระทั่งวันนี้โดนวิ่งไล่ จนแทบสติแตก” เขาจึงเห็นใจและได้เชื่อสิ่งที่เพื่อนเขาพูด เขาคอยดูเพื่อนเขามาโดยตลอด แต่หลังจากนั้นมาเพื่อนของเขาก็ยังคงมีท่าทางที่เหมือนจะกลัวอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลาอยู่ดี และเพื่อนของเขามักจะบ่นพืมพำคนเดียวเสมอ ยิ่งนับวันอาการยิ่งน่าเป็นห่วง เขาจึงได้ชวนเพื่อนเขาไปทำบุญ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย เขาจึงพยายามที่จะสายสินธุ์หรือพระมาให้เขาใส่ แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาและแถมหนักมากยิ่งขึ้น จนวันหนึ่งแม่ของเพื่อนเขาได้โทรมาหาเขาว่าเกิดอะไรกับเพื่อนของเขารึเปล่า เขาจึงได้เล่าสิ่งที่เพื่อนของเขาได้เล่าให้ฟัง
หลังจากนั้นแม่ของเพื่อนเขาก็ได้พาเพื่อนเขาไปทั้งหาหมอและพระที่วัดในหลายๆที่ แต่ก็เหมือนว่ามันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเพื่อนเขาคนนี้ โดยที่แม่ของเขาโทรมาบอกว่า เพื่อนของเขานั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาจึงได้รีบไปที่บ้านของเพื่อนเขาทันที เพราะอยากทราบว่าเพื่อนของเขาเสียชีวิตไปเพราะอะไร พอไปถึงเขานั้นได้เห็นร่างของเพื่อนเขานั้นนอนแน่นิ่งในถุงห่อศพสีขาวอย่างน่ากลัว และทางตำรวจได้บอกไว้ว่าอาจจะเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาพลัดตกลงมาจากชั้นสามที่บ้าน จนทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้ ซึ่งตัวเขานั้นไม่เชื่อว่าอยู่ๆทำไมเพื่อนของเขาต้องมาพลัดตกตึกเป็นอย่างแน่ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
ในช่วงงานศพของเพื่อนของเขา เขาจึงได้ยินจากปากแม่ของเขาว่า สิ่งที่เพื่อนของเขาเห็นทุกวันนั้นคงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่อยากจะได้ชีวิตของเพื่อนเขาไปเป็นอย่างแน่นอน เพราะพระที่เคยดูให้นั้นได้เล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ว่า ตอนนี้เพื่อนของเขากำลังดวงตกและกำลังโดนเจ้ากรรมนายเวรเล่นงานอยู่นั่นเอง แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเล่นงานจนถึงแก่ความตายเลย….