วิญญาณหรือที่หลายๆคนนั้นเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า “ผี” เป็นเรื่องที่มาคู่กับชาวพุทธทั้งหลายกันซึ่งแน่นอนว่าผู้คนเชื่อกันว่าผีมีอยู่จริง.. แต่ก็คงมีสำหรับบางคนเหมือนกันที่ต่างเชื่อกันว่าผีไม่มีจริงหรอกในโลกนี้ เรื่องผีจะมีจริงหรือไม่อย่างไรนั้นยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่จนมาถึงทุกวันนี้ และเรื่องที่แอดกำลังจะนำมาเสนอต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดมาจากเพื่อนคนหนึ่งของผู้เล่า ซึ่งเขาไม่เชื่อเรื่องของวิญญาณหรือภูติผีปีศาจ เขามีชื่อว่า “จุก” จุกเป็นเพื่อนสนิทของเขา เขากับจุกค่อนข้างสนิทสนมกันมาก เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ทำให้เขารู้ดีว่าจุกเป็นคนไม่กลัวผีและไม่มีความคิดว่าจะเชื่อเรื่องผีเลยและแน่นอนว่าจุกไม่เคยเห็นผีมาสักครั้ง จนกระทั่งเมื่อเหตุการณ์บางอย่างหนึ่งเกิดขึ้นกับจุก ทุกอย่างที่ได้จุกเคยเถียงมาโดยตลอดเกี่ยวกับเรื่องผีก็เปลี่ยน กลับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่อง “เจอจนต้องนอนจับไข้” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
สิบกว่าปีที่แล้ว เขากับจุกเรียนหนังสืออยู่ชั้นมอสาม ตอนนั้นยังจำได้ว่าหลังจากสอบไล่เสร็จก็จะปิดเทอมและทางโรงเรียนได้นัดมาฟังผลสอบในวันที่ ๒๔ มีนาคม พอสอบเสร็จ พวกเขาก็พากันขี่จักรยานกลับบ้านด้วยกัน มีเขากับไอ้จุกและได้มีเพื่อนอีกคนหนึ่ง เราทั้งสามขี่จักรยานคุยกันมาตลอดทาง โดยเพื่อนอีกคนนั้นได้เอ่ยถึงเรื่องขึ้นก่อน ว่าพ่อของมันเคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนนี้ตรงโคนต้นมะเดื่อข้างทางนี้ที่พวกเขากำลังจะขับผ่าน ด้านหน้าเคยมีผู้หญิงถูกฆ่าตายและวิญญาณของผู้หญิงคนนี้นั้นยังคงวนเวียนอยู่ เธอคอยเรียกใครที่ผ่านไปผ่านมา ว่ากันว่ากลางคืนมักจะถูกหลอกอยู่เป็นประจำ พอได้ยินแบบนั้นจุกก็ถึงขั้นหัวเราะขั้นมาอย่างดัง
เมื่อได้ยินเพื่อนเล่าอย่างนั้นมันบอกว่ามันไม่เชื่อหรอกว่าผีจะมีจริง แล้วเรื่องที่ว่าเคยมีผู้หญิงถูกฆ่าตายฝังไว้ที่ใต้โคนต้นมะเดื่อนั้น มันก็เคยได้ยินมา แต่มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่แต่งขึ้นมาเพื่อหลอกเด็กมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าตัวเขาเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน แต่เหตุการณ์มันผ่านมานานแล้วจึงไม่ได้คิดกลัว แต่อย่างไรพอเขาและเพื่อนผ่านต้นมะเดื่อข้างทางต้นนั้นมา เขาจึงเลี้ยวรถแยกจากเพื่อนเพื่อตรงกลับบ้านในขณะที่จุกกับเพื่อนอีกคนซึ่งบ้านอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ได้นัดแนะกันว่าคืนนี้จะออกมาตกปลาวางเบ็ดตรงท่าน้ำใกล้กับต้นมะเดื่อที่ร่ำลือกันว่าวิญญาณหญิงสาวถูกฆ่าตาย หลังจากกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้วเขาก็ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนอีก พอตกกลางคืนก็เข้านอนตามปกติของเขาที่เคยทำมา
รุ่งเช้าเป็นช่วงเวลาที่โรงเรียนปิดเทอมแล้ว เขาจึงขี่จักรยานไปที่บ้านของเพื่อนได้ เขาตั้งใจจะขี่จักรยานไปที่บ้านของจุกเพื่อชวนมันไปเที่ยวเล่นยิงนกตกปลากันตามที่เคยทำกันมา เมื่อเขาไปถึงจึงได้ทราบจากพ่อแม่จุกว่า จุกได้ถูกผีหลอกมาเมื่อคืน ตอนนี้นอนจับไข้ตัวสั่นจนต้องพาไปรดน้ำมนต์ที่วัด แต่ตอนนี้อาการยังไม่ดีขึ้นนัก พอเขาทราบดังนั้นจึงได้รีบไปหาเพื่อนอีกคนที่บ้าน พร้อมกับถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพราะเมื่อคืนทั้งสองคนออกไปวางเบ็ดด้วยกันมาจึงน่าจะรู้อะไรบ้าง พอไปถามเพื่อนอีกคนจึงรู้ว่ามา
เมื่อคืนตอนพวกมันออกไปวางเบ็ดตรงใกล้ๆกับต้นมะเดื่อไอ้จุกดันปากเสียนึกลองดี มันได้พูดร้องท้าทายว่า ถ้าผีผู้หญิงคนที่ถูกฆ่าตายมีอยู่จริงทำไมไม่ออกมาให้มันได้เห็น หลังจากการพูดของไอจุกได้ไม่นาน จากนั้นเพียงครู่เดียวมันก็เห็นไอ้จุกสะดุ้งโหยงหน้าซีดตัวสั่นบอกว่ามันรู้สึกเหมือนมีใครเอามือมาจับไหล่ของมัน พอมันหันไปก็แสดงอาการตะลึงตาค้างแล้วร้องลั่นว่าเห็นผู้หญิงผมยาวใบหน้าซีดเละและมีตาแดงกำลังยืนอยู่ตรงโคนต้นมะเดื่อ จุกเล่าว่าพอเห็นแบบนั้น แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนจะวิ่งใส่มันนั่นคือสิ่งที่มันเห็น แต่ตัวมันเองก็ไม่ได้เห็นอะไรอย่างที่จุกเห็น
พอได้ยินแบบนั้น มันก็วิ่งโกยหนีแบบไม่คิดชีวิตทั้งที่ไม่เห็นอะไรเลย ส่วนจุกนั้นก็วิ่งหนีตามมาพร้อมๆกัน จนกระทั่งถึงบ้านแล้วมันก็มีอาการเพ้อและจับไข้จนตัวสั่นตลอดเวลาด้วยความหวาดกลัวและตกใจสุดขีด จนพ่อแม่ต้องพาไปรดน้ำมนต์ที่วัดตั้งแต่เมื่อเช้ามืด 3 วันต่อมาพอไอ้จุกเริ่มมีอาการดีขึ้น มันก็ยืนยันกับทุกคนว่ามันถูกผีผู้หญิงซึ่งถูกฆ่าตายใต้ต้นมะเดื่อเล่นงานเอาจริงๆ มันบอกว่าสิ่งที่มันเห็นในคืนนั้นน่ากลัวมากน่ากลัวเสียจนมันแทบจะหัวใจวายไปให้ได้เลยเดียว นับจากนั้นมาเขาก็ไม่เคยเห็นไอ้จุกวิจารณ์หรือท้าดีเรื่องผีๆสางๆ กับใครอีกเลย เพราะมันเชื่อสนิทแล้วว่าเรื่องอย่างนี้มีอยู่จริงนับตั้งแต่มันเจอเสียจนต้องนอนจับไข้ปางตายเสียหลายวัน…
ที่มา : www.bookpanich.com เว็บสล็อต