เรื่องสยองขวัญต่อจากนี้ แอดจะขอนำเสนอเรื่อง “อำจนชิน” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่ง โดยตัวเขานั้นทำงานอยู่กับครอบครัวของเขา อาชีพที่ตัวเขานั้นทำอยู่คือการปลูกสวนยางพร้อมกับครอบครัวอยู่ที่เขตป่าสงวนแห่งหนึ่ง ในสมัยนั้นไฟฟ้าก็ยังไม่มีที่บ้านของเขาจึงต้องใช้ตะเกียงน้ำมันเป็นแหล่งที่ให้ความสว่างแทน ด้วยความที่ทั้งบ้านเขาและระแวงเพื่อนบ้านของเขานั้นต่างทำอาชีพทำสวนยางเหมือนกัน ทำให้พวกเขาทั้งหมดนั้นต้องเข้านอนเร็วตั้งแต่หัววันเพื่อที่จะต้องตื่นขึ้นมาช่วงเที่ยงคืนถึงเช้า เพื่อที่จะต้องลุกขึ้นมากรีดสวนยาง จริงๆแล้วนี่ก็เป็นเหมือนกิจวัฒประจำวันของเขาเลยก็ว่าได้ แต่แล้ววันนึงก็ได้เกิดเรื่องที่เขาไม่อยากจะเจอขึ้นมา ถ้าสงสัยและอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
เรื่องมันเกิดเมื่อวันหนึ่งเพื่อนของเขาคนหนึ่งได้มาเที่ยวหาเขาและนอนบ้านเขา วันนั้นจึงกลายเป็นวันที่เขาต้องเข้านอนดึกเพราะมีการกินและดื่มกับเพื่อนคนนี้จนดึก หลังจากที่ดื่มกันไปได้สักพักเขาก็เข้านอนตามปกติกับเพื่อนของเขา ระหว่างที่นอนอยู่นั้นเขากับเพื่อนก็มีคุยเล่นกันไปมา แต่แล้วไม่ทันที่เขาจะพูดไปถึงไหนเขาก็เผลอหลับไปด้วยความเพลีย แต่เขาก็ยังคงได้ยินเพื่อนของเขาพูดอยู่และเขาก็พยายามที่จะตอบเพื่อนของเขาแต่ก็ตอบกลับไม่ได้ ตอนนั้นเขารู้สึกว่ามันเป็นอาการเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น รับรู้ว่าเพื่อนพูดอะไรแต่พยายามที่จะตอบก็ตอบไม่ได้อยู่ดี จนเขาได้ยินเพื่อนพูดว่า “อ้าว หลับแล้วเหรอ พูดอยู่ตั้งนาน” ตอนนั้นเขาได้ยินที่เพื่อนพูดทุกอย่างแต่ก็ตอบกลับไม่ได้อยู่ดี เขาตัวแข็งไปทั้งตัวรับรู้ทุกอย่างแต่ทำไม่ได้ เขาจึงนึกขึ้นได้ว่านี่คงเป็นอาการของผีอำเป็นอย่างแน่นอน
เขาทั้งพยายามที่จะพูดและตะโกนออกมาว่าช่วยด้วย แต่ก็ไม่สามารถทำออกมาได้ เขาจึงนึกและพยายามที่จะสวดมนต์ออกมา ระหว่างที่กำลังท่องอยู่เขาก็ได้ยินเสียงของเด็กหรือเสียงผู้หญิงหัวเราะออกมาอยู่ข้างๆหูของเขา เขาก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นไปอีกเพราะไม่รู้ว่านั่นเสียงใครและได้พยายามท่องสวดมนต์ต่อไปอีกเรื่อยๆ จากเสียงหัวเราะนั้น เขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “ช่วยสวดมั้ย” มันทำให้เขาแทบจะสติแตก แต่เสียงหัวเราะปริศนานั้นก็ยังคงดังก้องหัวของเขาอยู่ตลอดเวลา เขาจึงตั้งสติและพยายามที่จะสวดมนต์ใหม่อีกครั้ง เขาท่องสวดมนต์ไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าที่สวดไปนั้นจะได้ผลบ้างหรือเปล่า เขาได้แต่นึกถึงพ่อแม่ของเขาและพระ สุดท้ายนั้นเหมือนสิ่งที่เขาพยายามทำมานั้นก็เริ่มได้ผลเพราะเสียงหัวเราะที่เขาได้ยินนั้นกลับกลายเป็นเสียงกริ๊ดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแทน ในขณะที่เขานั้นท่องสวดมนต์ไปเรื่อยๆ เสียงกริ๊ดร้องก็ดังออกมาเรื่อยๆด้วยเช่นกัน เขาจึงพยายามใช้แรงทั้งหมดของเขาพยายามที่จะสะกิดเพื่อนของเขาที่นอนอยู่ข้างๆ จนในที่สุดเขาก็สามารถที่จะขยับแขนของเขาได้ เขาเหวียงแขนของเขาโดนเพื่อนของเขาอย่างแรงและสุดท้ายก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับเสียงเฮือก มันเป็นเสียงที่เหมือนเขาสามารถหลุดจากการโดนอำออกมาได้
พอเขาลุกขึ้นมาเพื่อนของเขาก็ลุกขึ้นมาตามพร้อมกับถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น เอาแขนมาเหวียงโดนเจ็บมากเลยเพื่อนเขาบอก เขาจึงขอโทษเพื่อนของเขาและก็ปล่อยให้เพื่อนของเขานอนต่อไป พอหลังจากที่เพื่อนของเขากลับไป และเขาก็เข้านอนตามปกตินั้นทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเลยหลังจากนั้น ซึ่งตัวเขาก็ไม่รู้ว่าใครหรือวิญญาณที่ไหนมาก่อกวนเขาเมื่อคืน
แต่แล้วก็มีอีกวันหนึ่งที่ทำให้เขาพอจะเดาได้แล้วว่าวิญญาณที่มาอำเขามาจากไหน เพราะประมาณเดือนต่อมาเขาได้มีโอกาสไปนอนบ้านของเพื่อนคนที่เคยมานอนบ้านเขา เพราะว่าวันนั้นนัดกันดูบอลรอบดึก พอหลังจากดูบอลกันอย่างสนุกสนาน เขาก็นอนหลับข้างๆเพื่อนของเขาเหมือนอย่างเคย ในตอนนั้นเขายังไม่ทันคิดว่าเขาจะเจอผีอำอย่างที่เขาเคยเจอมาก่อนเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ระหว่างที่เขาหลับอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงบางคนเรียกเขา เสียงๆนั้นมันเป็นเสียงของผู้หญิงที่เขาไม่เคยคุ้นชิน แต่พอเขาพยายามที่จะตอบก็ตอบไม่ออก เขาอยากจะขยับตัวก็ขยับตัวไม่ได้อีกแล้ว นั่นเป็นอาการอันเดิมที่เขาเคยได้เจอมาก่อนหน้านี้
ด้วยความที่เขายังคงจำได้ว่ารอบก่อนนั้นเขาก็เจอผีอำมา เขาจึงพยายามที่จะตั้งสติและสวดมนต์ต่อไปอีกเรื่อยๆ เสียงเรียกนั้นเริ่มที่จะชัดขึ้นมาเรื่อยๆ และแน่นอนว่าพอหลังจากที่เขาสวดมนต์ไปได้สักพัก เสียงๆนั้นก็กลายเป็นเสียงกริ๊ดร้องดังออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง ครั้งนี้เขารู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ตกใจเหมือนรอบก่อนและสามารถหลุดจากอาการผีอำได้อย่างง่ายดาย
พอวันถัดมาเขาเริ่มมั่นใจขึ้นแล้วว่าอาการผีอำนี้มันเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขานอนกับเพื่อนของเขา แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถามเกี่ยวกับเพื่อนของเขาว่าเกิดอะไรขึ้นรอบตัวหรือเปล่า เขาจึงได้แต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้และคงจะมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่า การโดนผีอำจนชินมันเป็นอย่างไร…
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> น้ำเต้าปูปลา