เรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้นั้น มันเป็นเหตุการณ์ประหลาดเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับคุณน้าของเธอ ซึ่งเดิมทีน้าของเธอนั้นเป็นคนที่ไม่มีความเชื่อถือในเรื่องสิ่งลี้ลับหรือภูติผีวิญญาณหลอนน่ากลัวๆที่ใครหลายๆคนกลัวมาก่อน แต่แล้วเมื่อในที่สุดน้าของเธอก็ต้องถึงกับเปลี่ยนความคิดของตัวเอง เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับน้าของเธอ พอได้เจอกับเรื่องนี้เข้าไปน้าก็ต้องเปลี่ยนใจหันมาเชื่อ เพราะน้าของเธอได้เจอเข้ากับตัวเองแล้ว พอได้เจอเข้ากับตัวเองแล้วจะให้น้าไม่เชื่ออีกได้อย่างไร วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่องสยองขวัญจากน้าคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “อาบน้ำมนต์” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
คุณน้าชายของเธอที่เป็นคนที่ได้เจอกับเรื่องสยองขวัญนั้น เขามีอายุได้ 40 ปีเศษ เขาเป็นคนที่ทั้งชีวิตของเขานั้นไม่เคยได้พบเจอกับเรื่องของวิญญาณหรือเรื่องเหนือธรรมชาติเลย มันจึงทำให้เขาไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มากนัก วันหนึ่งเขาได้มีอาการป่วยขึ้นมา และเขาได้เล่าอาการเจ็บป่วยให้คุณแม่ของเธอฟังว่า เขารู้สึกซาและรู้สึกปวดเจ็บที่เอวข้างขวาของเขาเป็นประจำ เวลาเขาเดินไปไหนมา ไหนก็มักจะรู้สึกไม่สะดวก เขาเป็นแบบนี้มาได้หลายเดือนแล้วและได้เขาก็ได้ตัดสินใจไปตรวจรักษาโดยนายแพทย์ตามโรงพยาบาล และคลินิกหลายแห่งแล้ว เขาได้ทั้งกินยา ฉีดยา ทายา แต่อาการก็ไม่เบาหรือช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลย ตัวเขาเองนั้นก็ไม่ทราบว่าที่เขาเป็นแบบนนี้นั้นมันเป็นเพราะอะไรกันแน่
พอคุณแม่ของเธอได้ทราบเรื่องนี้ จึงได้พาไปยังสำนักที่เป็นที่โด่งดังเกี่ยวกับเรื่องของทางวิญญาณแห่งหนึ่ง เพราะแม่ของเธอเริ่มคิดว่ามันไม่ปกติแล้ว แม่ของเธอตั้งใจจะพาน้าเพื่อขอให้ช่วยทำพิธีตรวจให้ด้วย แล้วขอทราบว่าจะรักษาอย่างไร และจะหายเมื่อใด พอได้ไปถึงที่สำนัก ท่านอาจารย์ได้พูดผ่านคนกลางออกมาว่า คุณน้าของเธอได้ไปต่างจังหวัดทางแถบภาคเหนือแล้วได้ไปปัสสาวะที่กอหญ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งบริเวณนั้นมีวิญญาณดวงหนึ่งสถิตอยู่ที่นั่น แต่ขาข้างซ้ายของดวงวิญญาณนี้ด้วนไปข้างหนึ่ง เขาไม่ได้อดอยากหิวโหยแต่ประการใด เพียงแต่เขาเดินไม่ได้จึงมีความลำบากมากที่จะไปไหน มาไหน แล้วช่วงนี้น้าของเธอเป็นช่วงที่เขากำลังมีเคราะห์ จึงได้เปิดช่องโอกาสเปิดให้เขาเข้ามาอยู่ในตัวของคุณน้าได้ มันจึงทำให้คุณน้าป่วยเจ็บเหมือนกันกับวิญญาณตนนี้ คุณน้ากับคุณแม่ของเธอได้ซักถามว่าจะรักษาอย่างไร จะใช้เวลา นานสักเท่าไรจึงจะหายจากอาการป่วยเจ็บ
ท่านอาจารย์ก็ได้ตอบว่า “นับว่าโชคดีที่คุณน้ามีเคราะห์ร้ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ให้ไปรักษาเหมือนกับที่ใครๆเขารักษากัน คือการอาบน้ำมนต์รักษา ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วคุณน้าก็จะค่อยๆหายไปโดยเร็ว”
แต่ก่อนที่จะไปอาบน้ำมนต์นั้น วันที่ไปรักษา อาจารย์ได้ขอให้คุณน้าหาไม้เท้าไปให้เขาสักอันหนึ่ง เพื่อไปให้ผู้รักษาเขามอบให้วิญญาณที่อยู่ในร่างกายของคุณน้า เมื่อวิญญาณตนนั้นได้ไม้เท้าแล้วเขาก็จะไป ไม่ต้องทำอะไรเลย คุณน้าได้ถามว่าไม้เท้าที่ว่านั้นจะต้องเลือกไม้เท้าอย่างไร จะไปซื้อได้จากที่ไหน ท่านอาจารย์ก็ตอบว่า ไม้เท้าอะไรก็ได้ เช่น ไม้ตะพด หรือไม้รากคือไม้ไผ่ลำเล็กๆยาวพอยันได้เท่านั้น ในระหว่างการพูดคุยกับท่านอาจารย์ที่สำนักทางวิญญาณนั้น คุณแม่และคุณน้าได้ถามถึงเกี่ยวกับพวกผีทั้งหลาย พวกนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไรกันแน่ ใครๆเขาก็ว่าลอยไปไหนก็ได้ ไปได้รวดเร็ว แต่ตนนี้เหตุใดจึงต้องมาขอไม้เท้าเพื่อค้ำยัน อาจารย์จึงได้ตอบว่า ตามที่เข้าใจนั้นถูกต้องแล้ว ว่าพวกวิญญาณนั้นไปมาได้อย่างรวดเร็ว เพราะร่างกายเป็นรูปปรมาณูแต่ก็เหมือนคนเหมือนกัน แม้ว่าจะเดินได้แต่ถ้าเกิดเจ็บป่วยก็เดินไม่ไหว หรือเป็นอัมพาตก็เดินไม่ได้เลย ผีบางตนจะไปไหนก็ต้องคลานไปก็มี และบางตนไปไหนไม่ไหวเลยก็มี ซึ่งมันแล้วแต่กรรมที่เขาได้ทําเอาไว้
พอเวลาผ่านไป ในวันที่ไปให้พระท่านอาบน้ำมนต์รักษา คุณน้าได้เอาไม้รวกเล็กๆไปให้ 1 อัน คุณน้าบอกว่าไม้เท้านี้ได้มาโดยไม่ต้องเสียเงินเลย เก็บเอามาจากข้างบ้าน พอเข้ามารักษาแบบนี้เขาก็ไม่ต้องเสียเงินอีก เขานั้นรู้สึกแปลกมากๆที่ไม่ต้องเสียเงินด้วย ตลอดเวลาน้าเขามีอาการขาเจ็บ เขาได้ไปรักษาหลายแห่งเสียเงินไปมากมายหลายบาท ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นหรือทุเลาลงเลย หลังจากให้พระท่านอาบน้ำมนต์อุทิศไม้เท้าให้แล้ว อาการของคุณน้าก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งประมาณ 3 วัน หลังจากนั้นคุณน้าก็หายจากอาการป่วยอย่างสนิท ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าแปลกมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำให้น้าของเธอนั้นได้เกิดความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับมากขึ้น และก็มีการคอยทำบุญอยู่บ่อยๆเพื่อที่จะไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก…