เรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้นั้น เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขาไม่เคยคิดนึกฝันมาก่อนว่าตัวเองจะได้สัมผัสหรือรับรู้ถึงความรู้สึกที่ทั้งน่ากลัวตื่นเต้นและหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน โดยปกติแล้วนั้น เขาจะเป็นคนที่เฉยมากๆกับเรื่องผีๆ ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่กลัว แต่เป็นเพราะว่าเขาเองไม่เคยได้เห็นหรือพบเจอกับสิ่งนั้นอย่างจริงๆจังๆเลยสักครั้ง เท่าที่ผ่านมาก็ล้วนเป็นเรื่องราวที่เพื่อนฝูงของเขาได้บอกเล่าต่อกันมาบ้าง หรือไม่ก็จากการดูหนังอ่านหนังสือซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่ทุกครั้ง แต่มันก็ไม่ทำให้เขาหวาดกลัวมากนัก บางครั้งที่เพื่อนบางคนแสดงอาการหวาดกลัวผีหรือหวาดหวั่นต่อความมืดออกมา มันทำให้เขาเห็นแล้วก็ต้องรู้สึกตลก เขาเองยังเคยหัวเราะเยาะและคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นธรรมดามากถ้าคนเราจะเจอกับผี แต่ขณะเดียวกันเขาเองไม่เคยรู้สึกว่าอยากจะลบหลู่หรือดูหมิ่นคนกลัวผี เพราะอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเขาเองไม่เคยเจอผี แต่พวกเขาอาจจะเจอมามากกว่าเขา ก็เลยทำให้พวกเขาต่างกลัวกัน คนไม่เคยถูกผีหลอกจะกลัวผีได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้นี่จึงเป็นเรื่องราวที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่กลัวเรื่องผี ได้เจอกับเรื่องผีๆครั้งแรกในชีวิตเขา วันนี้แอดขอเสนอเรื่อง “ห้องตรงข้าม” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเรื่องนี้จะเป็นอย่างไหร่ อ่านกันได้เลยครับ บรื้อ…
เรื่องครั้งนี้มันเกิดขึ้นเมื่อเขาต้องย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง อพาร์ตเมนต์แห่งนี้เป็นสถานที่สะดวกและผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก มันทำให้เขาชอบกับบรรยากาศ เขาจึงย้ายเข้าไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ อพาร์ตเมนแห่งนี้อยู่ชานเมืองกรุงเทพฯเนื่องจากอยู่ใกล้กับที่ทำงานของเขา ที่เขาสามารถหาที่พักแห่งนี้ได้นั้นเป็นเพราะคำชวนของเพื่อนของเขา ซึ่งเพื่อนคนนี้เขาเช่าห้องอยู่ที่นี่ก่อน แล้วเผอิญว่าตอนนั้นเขาต้องการที่พักใหม่พอดี เพื่อนของเขาเขาเลยเป็นธุระหาให้เขา พอหลังจากเขาเข้าไปอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว ห้องของเขาอยู่ชั้น 4 เป็นตึกทางปีกซ้ายสุดของตึก บนชั้นนี้มีคนอยู่เพียง 3 ห้องเท่านั้น จะมีห้องเหลือว่างอีก 4 ห้อง ทำให้บรรยากาศค่อนข้างเงียบและไม่วุ่นวาย ส่วนเพื่อนของเขานั้น เช่าอยู่ที่ชั้น 2 นั่นเอง ซึ่งเวลาว่างหรือหลังเลิกงานเขาก็มักจะลงไปกินข้าวเย็นที่ห้องเพื่อนอยู่เป็นประจำ
วันนั้นที่เกิดเรื่อง เขาได้เดินไปกินข้าวที่ห้องของเพื่อนของเขา คืนนั้นเขากับเพื่อนก็ได้มีการนั่งดื่มกันบ้างนิดหน่อยพอมึนๆ แต่ไม่ถึงกับเมาขนาดนั้น พอเวลาผ่านไปจนถึงเกือบเที่ยงคืน เขายังพอมีสติเดินกลับขึ้นห้องเองได้ โดยเขาออกจากห้องของเพื่อนมาปกติ แล้วก็เดินตามทางเดินที่ขึ้นไปยังห้องพัก บนชั้น 4 จะมีไฟนีออนเปิดสว่างตลอดทางระหว่างที่เขาเดินขึ้นบันไดจากชั้น 3 มาชั้น 4 เขาก็ได้เริ่มรู้สึกแปลกๆขึ้นมา แต่ตอนนั้นเขาเพียงคิดแค่ว่าเป็นเพราะกินเหล้าเข้าไปเลยรู้สึกหนาวยะเยือก เมื่อก้าวขาพ้นบันไดขั้นสุดท้ายขึ้นมาจนถึงชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของตึก เขาก็ต้องแปลกใจเพราะไฟนีออนที่ติดไว้ตามทางดับหมด มันทำให้เขาทำรู้สึกขนหัวลุก ซึ่งตลอดทางเดินมืดมากแทบจะมองอะไรไม่เห็นและยิ่งคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืดและฝนข้างนอกกำลังตกหนักยิ่งทำให้บรรยากาศดูทืบไปหมด
เขาพยายามตั้งสติและลากขาเดินไปทางห้องของตัวเอง ในใจคิดว่าอีกนิดหนึ่งก็ถึงแล้ว แต่ทำไมเขายิ่งเดินมันเหมือนยิงไกลออกไปและที่น่าสงสัยก็คือห้องเช่าอีก 3 ห้องที่มีคนอยู่ทำไมจึงเงียบสนิทเหมือนไม่มีใครอยู่บนชั้นนั้นเลย ตอนนั้นเขาไม่คิดอะไรคิดแค่ว่าอยากเข้าห้องของเขาและล้มตัวลงนอนให้สบาย แต่แล้วภาพข้างหน้าขณะที่เขาเงยหน้ามองระหว่างทางเดินก็ทำให้เขาถึงกับตะลึงจนตัวแทบแข็ง เมื่อสายตาของเขากระทบกับสิ่งหนึ่งลักษณะเป็นแสงไฟวาบๆ สีเหลืองนวลมีรูปโครงคล้ายตัวคน แต่มีลักษณะสูงใหญ่หัวชนเพดาน ยืนโงนเงนอยู่ที่ปลายทางเดิน ซึ่งตรงกับประตูห้องพักของเขาเลยพอดี ตอนนั้นเขาคิดว่าเขาอาจจะตาฝาดเลยขยี้ตาและสะบัดหัวอยู่ 2-3 ครั้ง แล้วตัดสินใจเพ่งมองไปที่ภาพข้างหน้าอีกครั้ง สิ่งที่เห็นคือภาพของผู้ชายหุ่นสูงใหญ่ เห็นแต่ส่วนเอวขึ้นไปถึงหัว ส่วนล่างว่างเปล่า ใบหน้าที่ชิดติดเพดานดำมอม มันดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ขณะที่เขานิ่งเงียบเพื่อเพ่งมอง เขาได้ยินเสียงครางๆของคนที่เจ็บปวดดังเบาๆและค่อยๆหวีดแหลมออกมา จนกลายเป็นเสียงกรีดร้องชนิดที่ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นมาปิดหูตอนนั้น ขณะเขายืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังคนเดียวรอบข้างมืดมิดตรงหน้ามีตัวอะไรไม่รู้ที่ทั้งน่ากลัวและน่าขยะแขยง แต่ทำอย่างไรเขาก็ขยับจากตรงนั้นไม่ได้ขามันแข็งหน้าตาร้อนวูบเนื้อตัวเย็นเฉียบและสมองคิดอะไรไม่ออก พอเขามีสติก็ได้วิ่งลงไปหาเพื่อนและเล่าสิ่งที่เจอให้เพื่อนฟัง เพื่อนของเขาจึงเล่าให้ฟังตอนหลังว่า “คงเป็นวิญญาณของผู้ชายห้องตรงข้ามเขาที่ตายไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนเขาคนนั้นถูกชนตัวขาดสองท่อน” นั่นเอง…
ที่มา : https://www.bookpanich.com/ เว็บสล็อต