เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับครอบครัวๆหนึ่ง โดยเรื่องนี้นั้นขอตั้งชื่อเรื่องไว้ว่า “หนูไม่ไหว” มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว โดยตัวผู้เล่านั้น เธออยู่ที่จังหวัดกรุงเทพ วันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์จากทางครอบครัวมาบอกว่า ลุงของเธอได้เสียชีวิตแล้วและถูกตามให้เขารีบกลับบ้านที่ต่างจังหวัดโดยด่วน พอเธอได้โดนเร่งแบบนั้น เธอก็ได้รีบจองตั๋วเครื่องบินและรีบเดินทางกลับต่างจังหวัดโดยทันที และนี่ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ แอดขอให้ตั้งใจอ่านกันนะครับ บรื้อ…
โดยครอบครัวของเธอนั้นอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ในตอนนั้นเธอมีลูกชายอยู่คนนึงด้วยเช่นกัน เธอจึงได้นำลูกชายของเธอเดินทางไปกับเธอด้วยเพราะตอนนั้นลูกชายของเธอมีอายุได้แค่ 4 ขวบเท่านั้น พอเธอได้เดินทางไปจนถึงจังหวัดอุดร ญาติของเธอก็ได้มารับเธอที่สนามบินและนั่งรถไปที่งานศพทันที โดยที่งานศพของลุงของเธอนั้นถูกจัดอยู่ที่ภายในบ้าน พอไปถึงก็ได้เข้าไปไหว้นั่งฟังพระสวดตามปกติ พอจัดพิธีในช่วงกลางคืนเสร็จแล้ว ญาติๆของเธอรวมไปถึงเธอก็ได้รวมตัวกันนอนเพื่อที่จะเฝ้างาน แต่แล้วก็ได้เกิดอาการแปลกๆเกิดขึ้นมากับลูกชายคนเล็กของเธอ เพราะว่าอยู่ๆลูกชายของเธอก็ยืนร้องไห้อยู่คนเดียวตรงบริเวณหน้าบ้าน มันเป็นอาการที่ตัวเธอเองนั้นก็ไม่เคยได้เห็นลูกชายของเธอร้องไห้แบบนี้มาก่อน เพราะก่อนหน้านี้นั้นช่วงที่พระสวดมนต์หรือทำพิธีต่างๆอยู่ทุกอย่างก็ดูปกติ โดยที่ลูกชายของเธอก็ไม่ได้ร้องไห้หรืองอแงอะไร แต่แล้วพอพระท่านได้กลับไป อยู่ๆลูกชายของเธอก็ร้องไห้งอแงอยู่หน้าบ้าน
พอเห็นแบบนั้นเธอจึงได้รีบเดินไปดูลูกชายของเธอเพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นมีอะไรรึเปล่า หรือมีคนมาแกล้งเขา ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างมืดมากแล้ว ประมาณสามทุ่มได้แล้ว เธอได้พยายามถามลูกชายของเธอว่าเกิดอะไรขึ้นและพยายามที่จะพาตัวของเขาเข้าไปข้างในภายในบ้าน เธอพยายามแล้วพยายามอีกแต่ลูกชายของเธอก็ไม่ยอมที่จะเข้าไปข้างในภายในบ้าน เขาได้แต่พูดออกมาว่า “ไม่เอา ไม่เอา ไม่เข้าบ้าน” ซึ่งเธอก็ได้ถามกลับไปว่าทำไมถึงไม่ยอมเข้าไปข้างใน ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่า “ผีหลอก ไม่เอา ไม่เข้าบ้าน” และร้องไห้อยู่แบบนั้นต่อไป เธอก็พยายามอธิบายว่าไม่มีอะไรข้างในเพราะตัวเธอเองก็ไม่เห็นอะไรเลยข้างในภายในบ้าน แต่เขาก็ยังคงร้องไห้และงอแงที่จะไม่ยอมเข้าไปข้างในอยู่ดี ในตอนนั้นญาติๆของเธอหลายคนเริ่มเดินเข้ามาดูอาการของลูกชายของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งลูกของเธอก็พูดอยู่อย่างเดียวว่า “ไม่เอา ไม่เข้า ผีหลอก” ญาติๆของเธอจึงตัดสินใจให้เธอว่า ให้เธอกับลูกไปนอนที่รีสอร์ทที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้ก่อน เพื่อที่จะได้พักผ่อนกันและลูกของเธอจะได้ไม่ร้องงอแงด้วย ซึ่งเธอก็เห็นชอบด้วยจึงได้พาลูกชายของเธอไปนอนที่รีสอร์ทที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ระหว่างที่เดินทางไปรีสอร์ทลูกของเธอก็ดูมีอาการที่ดีขึ้นมานิดหน่อย พอไปถึงรีสอร์ทและได้ห้องนอนแล้ว ในตอนที่กำลังจะเดินเข้าห้องนั้น อยู่ๆลูกของเธอก็ยืนนิ่งอยู่บริเวณหน้าห้องรีสอร์ท ไม่พูดไม่จายืนนิ่งๆแบบนั้น เธอจึงได้เรียกลูกของเธอให้เข้าห้องและจู่ๆลูกของเธอก็ได้พูดขึ้นมาคำนึงว่า “ไม่เหงาแล้ว” และได้เดินเข้ามาภายในห้อง พอเข้ามาภายในห้องเสร็จเธอก็ได้กล่อมลูกให้หลับแล้วเธอก็เพลียกำลังจะหลับด้วยเช่นกัน แต่แล้วเธอก็รู้สึกแปลกๆจึงได้ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าเธอไม่เห็นลูกอยู่บนเตียง เธอจึงได้ลุกขึ้นมาและได้เห็นลูกเธอนั่งอยู่ตรงปลายเตียง เหมือนกับกำลังนั่งเล่นอะไรอยู่สักอย่างพร้อมกับหัวเราะสนุกสนาน เธอจึงได้ถามว่าทำอะไรอยู่ เขาจึงได้ตอบว่า “กำลังเล่นอยู่กับพี่เขา” ซึ่งเธอก็ไม่เห็นใครเลยจึงได้ถามย้ำ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิมของ กำลังเล่นอยู่กับพี่เขา พร้อมชี้ไปข้างหน้า บอกว่าพี่เขานั่งอยู่ตรงนี้ พอเห็นแบบนั้นเธอก็รีบเรียกลูกของเธอให้มานอนพร้อมบอกว่าไม่มีพี่ที่ไหนทั้งนั้น แต่เขาก็พูดออกมาอีกว่า “ตอนนี้พี่เขาหมุดเข้าไปใต้เตียงแล้ว” จึงได้รีบกล่อมลูกให้หลับแล้วก็นอนไป
สักพักหลังจากเธอหลับ เธอก็ได้ฝันเห็นลูกของเธอนั้นกำลังวิ่งเล่นรอบเตียงกับเด็กผู้ชายที่ไหนไม่รู้อยู่ แต่ไม่ทันได้ถามเธอก็สะดุ้งตื่นก่อน แล้วก็เห็นลูกชายยังหลับอยู่ เธอจึงจะนอนต่อ แต่แล้วก็รู้สึกได้ถึงว่ามีคนจับตรงบริเวณขาของเธอ เธอจึงรีบมองว่าใครมาจับขาเธอ ซึ่งสิ่งที่เธอเห็นทำให้เธอตกใจสุดขีดคือเห็นเป็นเด็กผู้ชายนั่งพิงเตียงอยู่และเอามือจับขาเธอไว้พร้อมกับหัวเราะว่า ฮิฮิ! และต่อจากนั้นก็วิ่งหมุดเข้าไปใต้เตียงอีกครั้ง พอเห็นแบบนั้นเธอจึงได้รีบโทรตามญาติให้รีบกลับมารับเพราะอยู่ไม่ได้แล้ว
พอญาติมารับเธอจึงได้เล่าสิ่งที่ได้เจอให้ญาติฟังทั้งหมด ซึ่งญาติของเธอก็เชื่อกับสิ่งที่เธอเล่าเพราะว่าที่รีสอร์ทนี้ไม่ค่อยมีคนมาอยู่อยู่แล้ว จนสักพักก่อนเข้าบ้าน ทางญาติก็กลัวว่าลูกของเธอจะร้องไห้อีก จึงได้ผูกสายสินให้กับลูกของเธอ จนสุดท้ายแล้วนั้นลูกของเธอก็เข้าไปภายในบ้านได้โดยไม่ร้องไห้งอแงอีก จนได้มารู้จากญาติว่าสิ่งที่ลูกของเธอเห็นคงจะเป็นวิญญาณของลุงที่เสียไปแล้วมายืนเฝ้าไม่ให้เข้าเป็นอย่างแน่นอน จึงทำใหลูกของเธอร้องไห้ไม่กล้าเข้าบ้านเลย และนี่ก็คือทั้งหมดของเรื่อง หนูไม่ไหว ถ้าชอบเรื่องสยองขวัญแบบนี้ ก็ขอให้ติดตามกันเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย….