เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญที่ได้มีผู้ชายคนหนึ่งได้พบเจอมา โดยตัวเขานั้นมีชื่อว่า “คุณบอย” ปกติแล้วนั้น คุณบอยเป็นคนที่มักจะเห็นอะไรแปลกๆอยู่เป็นประจำ ถึงเขาจะเห็นอะไรแปลกๆเป็นประจำ แต่ตัวเขาก็ไม่เคยได้เห็นแบบเต็มตา หรือสามารถพูดได้ว่าตัวเขานั้นเป็นคนที่มีซิกเซ้นต์หรือที่บางคนเรียกกันว่าสัมผัสพิเศษ และจึงสามารถพูดได้ว่าตัวเขานั้นเป็นคนที่เชื่อเรื่องผีแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เขาจึงได้นำเรื่องราวหนึ่งเรื่องที่เขาได้เจอมามาเล่าให้กับผู้ทีชอบเรื่องผีมาได้อ่านกัน วันนี้แอดจึงขอนำเสนอเรื่อง “หญิงชราตรงข้างกำแพง” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ…
วันหนึ่งในช่วงเวลาเย็นถึงค่ำ เป็นเวลาช่วงทุ่มกว่าๆ เขานั้นได้อยากที่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนของเขา เขาจึงคิดว่าจะออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ไม่ทันที่จะได้ออกไปข้างนอกกับเพื่อน น้าของเขาก็ได้เรียกเขาเข้าไปคุยก่อน และน้าก็ได้ถามเขาว่า ช่วงที่เขาออกไปเที่ยวและกลับมาบ้านเป็นเวลาดึกๆดื่นๆช่วงตี1-2 เขาไม่เคยเจอะไรเลยเหรอ ซึ่งโดยปกติแล้วทุกครั้งที่เขาไปเที่ยวและกลับมาดึกๆเขาก็ยังไม่เคยเจออะไรเลย จึงได้บอกน้าไปแบบนั้น น้าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรและได้ปล่อยให้เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนของเขาต่อตามปกติ
ในช่วงที่เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนของเขา เขาก็ได้ไปนั่งกินเหล้า หลังจากที่เขาไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนจนถึงเวลาประมาณตีหนึ่ง เขาก็ได้แยกย้ายกับเพื่อนของเขาเพื่อที่จะกลับบ้าน บ้านของเขาอยู่ในซอยค่อนข้างลึก ไม่ค่อยที่จะมีแสงไฟมากนักจะมีก็แสงไฟที่อยู่ข้างถนนแบบเสาไฟค่อนข้างที่จะห่างกันแต่ละเสา และถนนเป็นลาดยาง ในตอนนั้นเขาได้ขับมอไซต์ของเขาเข้าซอยมืดๆมา ในช่วงระหว่างที่ขับรถไปเรื่อยๆ พอถึงในช่วงถนนที่มืดไร้แสงไฟ เขาก็ต้องค่อยๆขับอย่างช้าๆและใจเย็นๆ เพราะตอนนั้นไม่มีไฟและด้วยความที่ตอนนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้วทำให้เขาเป็นรถคันเดียวที่ขับอยู่ในถนนเส้นนั้น เขาจึงต้องขับช้าๆเพื่อระวังว่าจะมีอะไรมาวิ่งตัดผ่านถนนรึเปล่าเพราะบริเวณนั้นก็มีป่ายางอยู่ข้างทางทำให้อาจจะมีสัตว์ออกมาวิ่งเล่นกันในช่วงเวลากลางคืน
พอขับมาได้เรื่อยๆพอถึงช่วงที่จะเข้าซอยยาวเข้าบ้านเขา เขาก็ต้องยิ่งขับช้าขึ้นไปอีก เพราะซอยนั้นค่อนข้างที่จะแคบมาก ระยะกว้างประมาณรถคันนึงที่สามารถที่จะขับเข้าไปได้ โดยข้างทางนั้นก็จะมีเป็นคูน้ำทางซ้ายมือ และทางขวาจะเป็นกำแพง ในช่วงระหว่างที่ขับรถเข้าซอยอยู่นั้น ไฟก็ได้ไปสาดเข้าตรงกำแพงข้างทาง เขาก็ได้สังเกตเห็นขาสองข้างของใครบางคนนั่งห้อยขาลงมาจากข้างบน พอเขาได้เห็นแบบนั้นเขาก็รู้สึกตกใจมาก แต่ตอนนั้นด้วยความที่เขาดื่มเหล้ากับเพื่อนมาก่อนหน้านี้ทำให้เขาคิดว่าเขาอาจจะเมาหรืออาจจะตาฝาดไปเองก็ได้ ไม่ก็อาจจะเป็นต้นไม้กิ่งไม้อะไรมากกว่า แต่พอคิดไปคิดมาเขาก็เห็นว่าแทบนั้นก็ไม่มีต้นไม้แล้วนี่นา แล้วทำไมถึงมีขาของคนทีนั่งอยู่ตรงกำแพงได้ เขาจึงได้เปิดไฟสูงของรถมอไซต์ขึ้นมา พอเปิดเท่านั้นเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น
เพราะสิ่งที่เขาได้เห็นนั้นคือร่างของคนแก่ที่อายุประมาณราวๆ 80-90 ปีเป็นผู้หญิง ที่มีลักษณะค่อนข้างที่จะน่ากลัวมากเพราะใบหน้าของแกนั้นมีรอยดำหรือเบ้าตานั้นดำลึกลงไปข้างในจนเห็นได้ชัดเลย นั่งอยู่ตรงกำแพงอย่างเห็นได้ชัดและได้หันใบหน้ามาทางที่เขา ในตอนนั้นตัวเขาจะขับรถกลับก็กลับไม่ได้ มือของเขาแข็งมากและได้แต่ขับต่อไปข้างหน้าและได้เข้าใกล้แกขึ้นเรื่อยๆ พอตั้งสติได้เขาก็ได้เร่งเครื่องขับไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วขึ้น และน้ำตาของเขาอยู่ๆก็ไหลออกมาจากตาด้วยความกลัวและกดดันอยู่ข้างใน และกลัวว่าร่างๆของหญิงชราร่างนั้นจะวิ่งตามเขามา ในตอนนั้นเขาได้แต่คิดในใจว่า อย่าให้ร่างนั้นวิ่งตามเขามาเลย เพราะเขากลัวแล้ว พอเขาขับเลยร่างนั้นมาเขาก็ได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างตกลงดังปึก! อยู่ข้างหลังเขา
และในตอนนั้นก็ทำให้เขาเองนั้นถึงขึ้นตกใจหนักกว่าเดิมเพราะเขารู้ทันทีว่าเสียงๆนั้นคงต้องเป็นเสียงของหญิงชรากระโดดลงมาตรงพื้นแน่นอน เขาจึงได้รีบขับเร็วขึ้นไปข้างหน้า และไม่ทันไรนั้นเอง ทางขวามือของเขา เขาก็ได้เห็นหญิงชราค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ เธอกำลังวิ่งตามรถมอไซต์ของเขาอยู่ ใบหน้าของเธอน่ากลัวเป็นอย่างมาก พอเห็นแบบนั้นเขาก็ได้ตกใจและขับรถล้มไปทันทีในตอนนั้น พอรถที่เขาขับรถล้มไป เขาก็ได้รีบหันไปมองซ้ายขวาด้วยความกลัว ตอนนั้นเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย ได้แต่หวังว่าจะออกจากตรงนั้นไปให้ได้ และได้รีบยกมอไซต์ต่อและได้ขับรถมุ่งหน้าจนไปถึงบ้านของเขา
พอไปถึงบ้าน ที่บ้านของเขาก็ต้องตกใจว่าทำไมเขาถึงมีแผลถลอกมาเต็มตัวเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาจึงได้เล่าสิ่งที่ได้เจอให้กับที่บ้านฟัง น้าของเขาจึงได้พูดว่าดีแล้วที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะน้าของเขาก็เคยได้เจอมาเหมือนกัน แต่โชคดีที่มีสติและหลุดรอดมาได้ โดยที่เขากับคนอื่นก็ไม่รู้เลยว่า หญิงชราตรงข้างกำแพง นั้นคือใครกันแน่…