เรื่องสยองขวัญต่อจากนี้เป็นเรื่องที่แอดได้ฟังมาจากผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า “เอม” มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาเพียงผู้เดียวแต่คนรอบตัวเขาในตอนนั้นก็ได้พบเจอกับเรื่องน่าสยองขวัญพร้อมๆกันในตอนนั้น และที่สำคัญมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่นานนี้เอง โดยเรื่องนี้ต้องเกริ่นก่อนว่าเคยได้มีเรื่องจากรายการๆหนึ่งที่มีชื่อเรื่องว่า “สวัสดีค่ะ” มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มครอบครัวหนึ่งที่ได้ไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดโดยการขับรถกันไป และระหว่างที่ไปกันนั้นก็ได้ซื้อแผ่นซีดีเล่าเรื่องผีของเดอะช็อกมาฟังกัน แต่แล้วพอถึงโรงแรมที่พักและกำลังนอนไปได้สักพัก อยู่ๆก็มีคนมาเคาะห้องและพูดขึ้นมาว่า สวัสดีค่ะ! เสียงเคาะห้องนั้นดังขึ้นมาอยู่แต่แบบนั้นเรื่อยๆ จนครอบครัวนี้ได้เปิดประตูไปดู ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ และเธอก็บอกว่าเธอทำของหาย ช่วยเธอหาหน่อย พอครอบครัวนี้ช่วยไปได้สักพัก เธอก็ได้พูดขึ้นมาว่า “เป็นไงบ้างฟังเรื่องผี เป็นไงบ้างฟังเรื่องกูน่ากลัวไหมหล่ะ” และนั่นก็คือทั้งหมดของเรื่อง “สวัสดีค่ะ” แต่เรื่องเล่าต่อจากนี้จะเป็นคนละเรื่องกับเรื่องสวัสดีค่ะ แต่จะเป็นอะไรที่คล้ายๆกันลองอ่านกันดูนะครับ บรื้อ…
โดยเรื่องนี้เริ่มต้นที่เขานั้นกำลังโทรศัพท์และเล่าเรื่องผีเรื่องสวัสดีค่ะให้กับเพื่อนของเขาฟังอยู่ในวันก่อน แต่ระหว่างที่เล่าไปเล่ามาได้เกือบจะครึ่งเรื่อง จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงสายโทรศัพท์เรียกเข้า พอมองในโทรศัพท์ของตัวเองก็กลับไม่พบอะไร และคิดว่าคงเป็นสัญญาณแทรกหรืออะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับโทรศัพท์ เขาจึงได้เล่าให้เพื่อนเขาฟังต่อ แต่พอพูดต่อได้สักพัก โทรศัพท์ก็เกิดเหมือนมีเสียงสายเรียกเข้าอีกครั้ง ในตอนนั้นเขาเริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วว่ามันคงไม่ปกติเท่าไหร่ เขาจึงได้บอกเพื่อนว่าหากเจอกันแล้วจะเล่าให้ฟังใหม่ และได้วางโทรศัพท์จากเพื่อนไป หลังจากวางโทรศัพท์จากเพื่อนไปได้ไม่นาน เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าอยู่ๆห้องของเขาก็มีคนมาเคาะประตูดัง ปังๆๆ! (ตอนนั้นเขาอยู่หอพัก) เขาจึงได้เดินไปดูตรงตาแมวปรากฏว่าไม่มีใครยืนอยู่ที่หน้าห้องของเขาเลย และขณะที่เขาหันหลังได้แปปเดียว เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาอีก ปังๆๆ! ตอนนั้นเขาก็รู้แล้วว่าเขาคงโดนดีไม่ต่างจากเรื่องสยองขวัญที่เขาได้ฟังมาอย่างแน่นอน และในคืนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงใส่รองเท้าส้นสูงเดินไปมาวนเวียนอยู่ตรงหน้าห้องของเขาอยู่ตลอดเวลาตลอดทั้งคืน เขาจึงได้แต่เก็บความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ตลอดเวลา
จนวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสโทรศัพท์ไปถามถึงรายการเดอะช็อกว่าต้นตอของเรื่องราวสวัสดีค่ะนั้นเป็นเรื่องอะไรกันแน่ ทำไมอยู่ๆช่วงเวลาที่เขานั้นกำลังเล่าอยู่เขาถึงได้พบเจอกับเรื่องสยองขวัญอันนี้ เขารู้สึกกลัวและคาใจเป็นอย่างมากว่าทำไม เขาจึงได้โพสเรื่องนี้ลงเฟสบุ๊คแล้วสอบถามเกี่ยวกับว่าใครได้เคยฟังเรื่องเล่าเรื่องนี้และได้พบเจอกับเรื่องประหลาดๆตามมากันบ้างไหม คำตอบที่เขาได้มานั้นก็มีหลายเสียงไป บางคำตอบก็บอกว่า เขาหรือเธอก็เคยฟังเรื่องนี้อยู่ครั้งหนึ่งและก็ได้พบเจอกับเรื่องแปลกๆตามมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่คิดไปเองหรือแต่งขึ้นมาหลอกเขาหรือเปล่า ส่วนบางคำตอบก็บอกว่าเขาคงฟังเรื่องเล่าผีมากเกินไปทำให้เขานั้นคิดมากและนำเรื่องพวกนี้มาทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองหลอนๆไป
หลังจากที่โทรไปได้ทางรายการก็ได้ให้คำตอบเขาว่ามันน่าจะไม่เกี่ยวกันกับเรื่องราวที่เขาได้เคยฟังก่อนหน้านี้ เพราะเรื่องเล่าก่อนหน้านี้ที่เขาได้ฟังนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเขา มันคนละส่วนกัน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ว่าพอฟังแล้วจะมีวิญญาณจากเรื่องที่ฟังมา มาหลอกหลอนเขา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือเขาอาจจะไปไหนมาไหนหรือไปทำอะไรไม่ดีมาหรือเปล่า ทำให้เขามีวิญญาณของผู้หญิงติดตามตัวเขามาแบบไม่รู้ตัว หรืออาจจะเป็นช่วงเวลาที่เขาดวงตกหรือถึงคราวซวยของเขาหรือเปล่า พอเขาได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกขนลุกทันที และเขาก็โดนถามกลับมาอีกว่าเขาเคยได้ไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอะไรมาหรือเปล่า พอเขานึกๆแล้วก็ไม่น่ามี
แต่ทางรายการก็ได้พูดขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งว่า อาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาหรือเปล่าที่มาหลอกหลอนเขา พอเขาได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันก็มีสิทธิเป็นไปได้เหมือนกัน เขาจึงโดนแนะนำว่าให้เขาไปทำบุญตักบาตรและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้วิญญาณตนนั้นดีกว่า หลังจากได้คำแนะนำจากรายการว่าให้ไปทำบุญเขาก็ได้ไปทำตามที่บอก ความรู้สึกที่ว่าผวาของเขาที่มีก่อนหน้านี้นั้นก็เริ่มดีมาขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเสียงเคาะห้องและเสียงเดินหน้าห้องของผู้หญิงที่เขาเจอนั้นเป็นของใครกันแน่ แต่ที่เขามั่นใจเป็นอย่างแน่นอนนั่นก็คือเสียงๆนั้นคงไม่ใช่เสียงของคนที่จะมาหลอกเล่นกับเขาเป็นอย่างแน่นอน และนี่ก็คือทั้งหมดของเรื่อง สวัสดีค่ะ ถ้าชอบเรื่องหลอนๆแบบนี้ก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย…