ความตาย… เป็นเรื่องปกติของสิ่งมีชีวิต เมื่อมีการเกิดก็ต้องมีการตายเป็นสามัญธรรมดาเป็นอย่างมาก แต่การตายของน้องสาวของผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ที่ตัวเธอนั้นไม่คิดไม่ฝันว่าวิญญาณของน้องสาวของเธอจะกลับมาให้เธอได้เห็นและได้รู้ถึงโลกหลังความตายว่ามีอยู่จริง มันจึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ วันนี้แอดขอเสนอเรื่อง “วิญญาณที่มารับ” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
ก่อนน้องสาวของเธอจะจมน้ำตายในสระหลังบ้านนั้น มันได้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาซึ่งเหมือนกับลางบอกเหตุอย่างหนึ่ง นั่นคือการพูดถึงป้าผิวซึ่งเธอนั้นเป็นพี่สาวของพ่อที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว น้องสาวของเธอคนนี้เป็นคนสติไม่สมประกอบนัก เธอบอกว่าเธอได้เห็นป้านั่งเล่นอยู่ที่ร้านไม้ไผ่หลังบ้าน ที่ตรงนั้นเป็นที่นั่งประจำของพ่อ ซึ่งชอบไปนั่งเล่นฟังวิทยุตอนกลางวัน ที่นั่นร่มและเย็นสบาย รวมทั้งเป็นที่รับแขกของพ่อด้วย ก่อนน้องสาวจะเสียได้บอกว่าเห็นป้าผิวนั่งก้มหน้าเหมือนนั่งและทำอะไรสั่งอย่างอยู่ตอนนั้น แล้วจังหวะที่น้องสาวเธอได้ไปเก็บผักบุ้งตรงริมขอบบ่อจึงเลยได้เห็นและเธอยืนยันว่าเธอเห็นป้าผิวจริงๆ ซึงเธอก็ไม่เชื่อสิ่งที่น้องสาวเธอพูด ใครจะไปเชื่อเพราะป้าผิวตายไปเมื่อปีที่แล้ว ป้าตายในห้องน้ำตอนไปเป็นโยมอุปัฏฐากพระที่วัดและแกได้เป็นลมตาย พอน้องสาวของเธอเอาเรื่องนี้มาพูดอีก ครั้งที่ 2 และ 3 จนกระทั่ง แม่ของพวกเราได้ดุและอย่าพูดเรื่องนี้อีก
แต่ว่าน้องสาวคนนี้ เธอสนิทกับป้าและป้าก็รักเธอมาก เพราะป้าเป็นคนเลี้ยงมาแต่เล็ก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอพูดถึงป้า ไม่กี่วันต่อมาเธอก็ไปตกน้ำตายที่สระหลังบ้าน กว่าใครจะไปเจอเธอก็ลอยขึ้นมาในตอนเย็นแล้ว เธอจึงได้นึกถึงคำพูดของน้องสาวเธอที่นึกถึงป้าผิว การตายของเธอจะเกี่ยวข้องกับการเห็นป้าผิวหรือไม่? มันเป็นคำถามที่อยู่ในหัวของเธอ และพอเวลาผ่านไป พ่อของเธอก็เป็นรายต่อมา พ่อไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยแม้จะอายุกว่า 70 ปีแล้วก็ตาม แกยังแข็งแรงเดินเหินไปไหนคล่องแคล่ว พ่อเป็นน้องคนเล็กของป้า และอยู่ด้วยกันมาตลอดที่บ้านของเธอ เพราะถ้าไม่ได้แต่งงาน ป้าจึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสําคัญ แม่ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ก็ได้รับความเมตตาจากป้าเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นงานสวนไร่นาหรืองานในบ้าน เรียกว่าแม่และเธอโชคดีมาก ที่ป้าคอยจัดการให้โดยมีเราเป็นลูกมือ พอป้าตายไป พวกเราจึงคิดถึงป้า ถ้าป้าอยู่เราไม่เหนื่อยอย่างนี้ แต่ความตายไม่มีใครกำหนดกฎเกณฑ์ได้ เมื่อถึงคราวตายก็ ต้องตายไม่ว่าชีวิตใคร
เป็นเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นก่อนที่พ่อจะตาย ไม่เพียงแต่เธอเท่านั้นที่ ประสบกับเหตุการณ์นี้ แม่ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องแต่แรกไม่มีใครกล้าที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะเกิดกับตัวเองเหมือนอย่างที่เกิดกับน้องสาวก่อนตาย คือการพบเห็นป้าผิว แต่ที่ไม่พูดเพราะไม่เชื่อตัวเอง ถึงสิ่งที่เห็นนั้นเป็นจริงหรือไม่หรือหากพูดไปจะมีใครเชื่อ นอกจากจะโดน กล่าวหาว่าตาฝาดเพ้อเจ้อ
นี่คือเหตุการณ์ก่อนที่พ่อของเธอจะเสีย ซึ่งคืนหนึ่งประมาณทุ่มกว่าๆ เธอจะไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ โดยห้องน้ำบ้านของเธอนั้น เราได้ปลูกห้องน้ำต่างหากแยกจากตัวบ้าน ห่างจากบ้านประมาณ 4 เมตร ไฟใน ห้องน้ำเป็นหลอดไฟกลมแรงประมาณหนึ่ง พอมองเห็นอะไรได้ชัดเจนพอควร เธอเปิดสวิตช์ที่บ้านแล้วนุ่งกระโจมอกตรงไปที่ห้องน้ำ ประตูห้องน้ำแง้มอยู่ พอไปถึงเธอจึงดึงประตูออกทันที เพราะรู้ว่าไม่มีใครอยู่ในนั้น ทันทีที่ประตูเปิดออกเธอก็ต้องรู้สึกขนลุกซู่ เพราะมีร่างๆหนึ่งนั่งอยู่บนโถส้วมแบบนั่งยองๆ ร่างนั้นซบหน้ากับเข่าปล่อยเส้นผมยาวคลุมไหล่ ตอนนั้นเธอได้แต่ยืนตัวแข็งที่อไม่คิดอย่างอื่นเลย ไม่คิดถึงผู้ร้าย เพราะลักษณะที่เห็นชอบปล่อยผมยาวอย่างนั้นไม่มีใครเลย นอกจากป้าผิวเท่านั้น เธอร้องกรีดออกมาแล้วหันหลังวิ่งไปทางบ้าน
แม่เธอก็ต้องถึงกับผวาออกมาเมื่อได้ยินเสียง แม่กอดเธอไว้ ลูบหลังลูบไหล่ แล้วบอกว่าแม่จะไปเป็นเพื่อน เมื่อแม่ไปเป็นเพื่อนเธอจึงกล้าไปอาบน้ำและคิดในใจว่า ต่อไปนี้จะไม่อาบน้ำตอนมืดอีก เมื่อเข้ามาในบ้านพ่อ พ่อได้ถามว่ามีอะไรหรือถึงได้ร้องอย่างนั้น เธอจึงอธิบายสิ่งที่เห็นในห้องน้ำ พ่อบอกว่าตาฝาด ตอนเช้าวันถัดมา เธอยังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ตอนที่ช่วยแม่ทำครัว แม่จึงได้ถามเธอย้ำอีกครั้งถึงเรื่องเมื่อคืน ว่าเธอเจออะไร ซึ่งเธอก็ได้อธิบายถึงสิ่งที่เห็น เธอจึงได้รู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น แม่เธอก็ได้เจอกับป้าผิวเช่นกัน แต่ไม่ได้มาเล่าอะไรให้คนที่บ้านฟัง กลัวว่าทุกคนจะกลัว แม่ของเธอเคยเห็นป้าในห้องน้ำเช่นกัน แม่ได้เจอแบบเดียวกับที่เธอเจอแต่ได้เห็นป้าหายไปต่อหน้าต่อตา
อีกไม่ถึงเดือนต่อมาพ่อก็มานอนตายไปเฉยๆ คงมีแม่กับเธอเท่านั้นที่คิดว่าการตายของน้องสาวกับพ่อในเวลาใกล้กันเช่นนี้ ต้องมีป้าผิวเกี่ยวข้องแน่ ป้าคงเป็นวิญญาณที่มารับวิญญาณของน้องสาวและพ่อของเธอไปอย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เธอเชื่อมาจนถึงปัจจุบัน และนี่ก็คือทั้งหมดของเรื่องนี้…