สำหรับวันนี้นั้นแอดตั้งใจจะนำเสนอเรื่องราวหลอนๆที่เกี่ยวกับวัดป่าแห่งหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดพิจิตร โดยเรื่องนี้นั้นได้เกิดเรื่องกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอนั้นได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าแห่งนี้ และระหว่างที่กำลังปฏิบัติธรรมอยู่นั้นตัวเธอก็ต้องพบเจอกับเรื่องราวแปลกๆเกิดขึ้นมา สำหรับครั้งนี้นั้นแอดขอนำเสนอเรื่อง “วัดที่ปฏิบัติธรรม” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้ทุกคนตั้งใจอ่านกันนะครับ…
ในตอนแรกนั้นตัวเธอเองไม่ได้ตั้งใจที่จะปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้เป็นอย่างแรก แต่ก่อนหน้านี้นั้นเธอได้มีความฝันแปลกๆ มันเป็นความฝันที่เธอนั้นได้ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมาผัวพันอยู่ภายในฝันอยู่ตลอดเวลา ผู้หญิงที่เธอได้เห็นในฝันนั้นเหมือนว่าต้องการจะเอาชีวิตของเธอไป โดยในการฝันแต่ละครั้งของเธอนั้นเธอจะตายในความฝันในทุกๆครั้งและจะเป็นการตายแบบไม่ซ้ำกันเลย บางคืนก็ฝันว่าเธอโดนฆ่าตายเพราะโดนผู้หญิงคนนี้เอามีดมาแทงที่อก บางคืนก็ฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งพาเธอจับมือแล้วกระโดดน้ำตายพร้อมกัน เธอฝันมาแบบนี้ในหลายๆครั้ง จนมันทำให้เธอรู้สึกไม่ไหวขึ้นมา เธอจึงได้โทรไปปรึกษาแม่และพ่อของเธอ หลังจากที่เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอให้ครอบครัวฟัง
จนพ่อของเธอได้ไปปรึกษาพระอาจารย์ท่านหนึ่งที่แกรู้จัก ซึ่งพระอาจารย์ท่านนี้นั้นเป็นพระที่เหมือนมีสัมผัสพิเศษอยู่ จนพระนั้นได้แนะนำให้เธอมาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ดู เผื่อว่าจะมีอะไรดีขึ้นไป เพราะทางวัดนั้นชอบจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมกัน หลังจากได้ยินแบบนั้นเธอก็ต้องการที่จะให้ชีวิตของเธอดีขึ้นจากตอนนี้ เธอจึงได้ยอมไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห้่งนี้เป็นจำนวน 5 วัน 4 คืน พอถึงวันเดินทางเธอก็ได้เดินทางไปจังหวัดพิจิตรกับพ่อแม่ของเธอ ในวัดแห่งนั้นที่มีคนปฏิบัติธรรมกันนั้นก็มีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้กันประมาณ 30-40 คนได้ พอเริ่มที่จะปฏิบัติธรรมนั้นเธอก็ได้เดินจงกรมตามที่พระท่านสั่ง เธอก็ได้ทำตามที่พระท่านได้สั่งในหลายๆอย่างจนมาถึงกิจกรรมนึงที่เธอต้องทำต่อนั่นก็คือ การนั่งถอดกายทิพย์ พระท่านก็ได้บอกให้ทุกคนนั่งสมาธิหลับตาและตั้งใจที่จะนั่งอยู่แบบนั้นไปยาวๆ โดยที่มือต้องประกบกันให้ตลอด ท่องยุบน้อ พ่องน้อ เธอก็ได้ทำตามที่พระท่านได้บอก
ในระหว่างนั้นที่เธอกำลังนั่งสมาธิอยู่นั้นเธอก็ได้รู้สึกถึงรอบข้างของเธอนั้นมีอาการเหมือนกับของขึ้นกันเต็มไปหมด โดยเฉพาะพวกที่สักกัน บางคนทำท่าทางเหมือนลิง บางคนทำท่าเหมือนงู บางคนก็ร้องไห้ แต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แต่สำหรับตัวเธอนั้นเธอไม่ได้เกิดอาการอะไรนอกจากอาการเจ็บอยู่ตรงที่อก หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่อไปโดยพระท่านได้สั่งให้ทุกคนจับคู่กัน และก็ได้ให้ทุกคนไปพักก่อนและมาเจอพร้อมกันอีกทีในตอนเวลากลางคืน พอถึงเวลากลางคืนทุกคนก็ได้มารวมตัวกัน โดยกิจกรรมต่อไปนั้นพระท่านได้บอกว่าให้แต่ละคู่นั้นไปนั่งตามจุดต่างๆที่เตรียมไว้เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง โดยที่การนั่งครั้งนั้นทุกคนต้องนั่งให้นิ่งที่สุดและห้ามลืมตา มือห้ามหลุดและต้องท่องยุบน้อพ่องน้อให้ได้ตลอด ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนกัน จนกระทั่งพระอาจารย์พาไป
จุดที่เธอต้องไปนั่งนั้นทำให้เธอรู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อยเพราะว่าที่เธอต้องไปอยู่กับคู่ก็คือตรงบริเวณโลงศพที่รอบตัวเธอนั้นเต็มไปด้วยโลงศพนั่นเอง ซึ่งบางโลงนั้นก็ยังคงมีศพอยู่จริงๆด้วยซ็ำ โดยที่พระอาจารย์ไม่ให้ห้อยพระหรืออะไรทั้งสิ้น หลังจากฟังคำอธิบายของพระอาจารย์ทั้งหมด เธอก็ได้เริ่มนั่งสมาธิและได้ท่องบทสวดตามพระที่ท่านได้ท่องให้ฟัง แต่เธอสังเกตบทสวดที่เธอท่องได้ว่า มันเหมือนกับบทสวดที่เหมือนจะเป็นการปลุกศพเลย เพราะเธอสังเกตได้ว่าทุกการพูดนั้นจะมีคำว่า “โอมจงลุก โอมจงลุก โอมจงลุก” หลังจากท่องเสร็จพระก็ได้เดินออกไปโดยทิ้งให้เธอกับคู่ของเธอนั่งอยู่แบบนั้นต่อ ระหว่างที่นั่งไปได้ประมาณ 5 นาที เธอก็ได้ยินเสียงของลมที่เหมือนจะออกมาจากปาก ต่อมาเป็นเสียงที่เคาะฝาไม้โลงศพดังขึ้นมา ต่อมาก็ได้ยินเหมือนกับเสียงของเก้าอี้เหล็กลากไปมาดังขึ้นมาอีก หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงที่เธอนั่งต่อไป เธอก็ได้ยินเสียงคนเดินไปรอบๆตัว เธอเริ่มทนไม่ไหวกับสิ่งที่ได้ยิน เธอจึงค่อยๆลืมตามานิดหน่อยเพื่อจะดูว่าคืออะไรกันแน่
สิ่งที่เธอได้เห็นนั่นก็คือผู้หญิงชราคนหนึ่งเดินไปเดินมาอยู่ตรงข้างหน้าเธอ ในระหว่างที่หญิงชราคนนี้เดินอยู่เธอก็ได้ไปหยุดที่หน้าโลงศพโลงหนึ่งและเธอก็ได้ใช้เล็บของเธอค่อยๆลากฝาโลงศพดังครืดๆ พอเห็นแบบนั้นเธอก็ได้หลับตาลงทันทีเพราะกลัว จนเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง พระอาจารย์ก็ได้เดินมาพร้อมกับบอกให้ทุกคนได้ลืมตาขึ้นมา พอหลังจากคืนนั้นเธอก็ได้พบเจอกับเรื่องหลอนๆแบบนี้ตลอดการปฏิบัติธรรม
แต่หลังจากปฏิบัติธรรมในวัดจบลงแล้ว เรื่องฝันร้ายของเธอนั้นก็ค่อยๆหายขึ้น ถึงจะยังหายไม่สนิทแต่ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน และมีครั้งหนึ่งที่หญิงสาวในฝันได้มายิ้มให้เธอด้วย พอเห็นแบบนั้นเธอก็รู้ว่าการไปวัดที่ปฏิบัติธรรมนั้นช่วยเธอได้จริงๆ…