สำหรับการจากไปของคนที่เรารักหรือคนสนิทนั้น แอดเชื่อว่าหากคนที่สำคัญของเราคนนั้นจากไปคงไม่มีใครทำใจได้ง่าย ด้วยความรักที่เรามีให้กัน ความผูกพันธ์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการจากลา วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่องราวสยองขวัญที่อาจจะไม่น่ากลัว แต่มีความหมายให้คิดกัน กับเรื่อง “ลูกชายที่รัก” ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ…
เรื่องเล่าสยองขวัญในครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นกับหญิงชราคนหนึ่ง แกเป็นหญิงหม้ายที่สามีของแกได้เสียชีวิตลงไปนานแล้ว และตอนนี้แกมีลูกชายเพียงคนเดียวที่อยู่กับแก ด้วยความที่ว่าอยู่ด้วยกันเหลือเพียงสองคน แกจึงรักลูกชายคนเดียวของแกคนนี้เป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วบางวันเมื่อยายแกเจอเห็ดที่อยู่ตามป่าตามเขา แกก็จะคอยเก็บเห็นเหล่านั้นมาให้ลูกชายของแกนำไปขายที่ตลาดนัดตามหมู่บ้าน และเอาเงินที่ได้จากการขายนั้นเอามาเป็นค่าขนมให้กับลูกของแก ในทุกๆช่วงเวลาปิดเทอมนั้น ลูกชายของแกมักจะขอออกไปเล่นข้างนอกกับเพื่อนๆ บางวันก็ไปเล่นน้ำในสระ เดินไปเล่นในป่าเขาบ้าง ตามประสาเด็กในชนบทที่ไม่ได้กลัวเรื่องอะไรเหล่านี้
วันหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นวันที่ไม่ต่างอะไรจากทุกๆวัน ยายได้เรียกลูกของแกลงมากินข้าวในตอนเช้าหลังจากที่ทำกับข้าวเสร็จ เรียกแล้วเรียกอีกลูกของแกก็ยังไม่ลงมาจากบ้าน มันดูแปลกไปจากปกติ แกเลยเดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อไปดูว่าทำไมไม่ลงมาเสียที ปรากฏว่าแกได้เห็นลูกชายของแกนอนหดตัวนอนเหมือนมีอาการหนาวจัดๆ และตัวก็ร้อนอย่างมาก แกจึงรีบหาผ้ามาเช็ดตัว และคิดว่าอาการที่เป็นอยู่นี่คงเป็นอาการไข้หวัดธรรมดาเพียงเท่านั้น จนเวลาผ่านไปหลายวันอาการไข้ของลูกแกก็ไม่ได้ดีขึ้น แถมยังหนักขึ้นในทุกๆวัน ยายเริ่มทำตัวไม่ถูกกับอาการของลูกของแก แต่ด้วยความที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคน แกก็ดูแลลูกของแกได้เท่าที่ไหว จนวันรุ่งขึ้น แกก็ได้ทำอาหารให้กับลูกชายของแกเหมือนเดิม และได้ยกอาหารที่ทำไปที่ห้องของลูกชาย แต่ปรากฏว่าร่างกายของลูกชายแกกลายเป็นแข็งทื่อและมีสีตัวที่ซืดลงอย่างเห็นได้ชัด และนั่นก็หมายความว่าลูกชายของแกได้เสียชีวิตลงไปเสียแล้ว แกร้องไห้อยู่แบบนั้นด้วยความเสียใจ จนสุดท้ายก็ได้สลบไป ซึ่งสาเหตุที่ลูกชายของแกได้เสียชีวิตไปนั้นก็คือเป็นโรคไข้ป่าที่คนในสมัยก่อนมักจะเป็นกัน และเสียชีวิตกันด้วยสาเหตุนี้กันเป็นจำนวนมาก ด้วยความที่ว่าการแพทย์ในสมัยก่อนนั้นก็ยังไม่ได้ทันสมัยเท่าปัจจุบัน การรักษาให้หายขาดนั้นก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างที่จะทำได้ยากมาก จึงเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับกันในสมัยก่อนเกี่ยวกับการตายของโรคๆนี้
หลังจากการตายของลูกชายของยาย ก็ได้มีการนำศพของลูกชายของแกไปไว้ที่ท้ายหมู่บ้านโดยการฝั่งไว้ใต้ดิน เพราะเนื่องจากแกไม่ได้มีงบมากพอที่จะจัดทำพิธีได้ตามอย่างปกติ เวลาผ่านไป ยายแกก็ยังคงนั่งร้องไห้คอยคิดถึงลูกรักอยู่อย่างงั้นในทุกๆวัน วันหนึ่งได้มีหมอดูได้เดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ ด้วยความที่ยังคงอาลัยและคิดถึงลูกชายของตัวเองอยู่ ยายแกจึงให้หมอดูเช็คเกี่ยวกับลูกชายของแกว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากหมอดูได้ดูชะตาของลูกชายของแกแล้ว และก็ได้พูดออกมาว่า “ลูกชายของยายยังไม่ได้ตาย ทำไมถึงเอาร่างกายของลูกชายไปฝั่งซะแล้วหล่ะ ลูกชายของยายยังคงมีชีวิตอยู่นะ” ด้วยความที่เชื่อในหมอดู และยังคงเชื่อว่าลูกชายของตัวเองยังคงมีชีวิตอยู่ ยายน้อยจึงเชื่อหมอดูอย่างเต็มๆ ยายจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านเพื่อที่จะให้พวกเขานั้นช่วยในการนำร่างกายของลูกชายของแกออกมาจากหลุมฝั่งศพที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ในคืนนั้นทุกคนจึงได้ไปตรงบริเวณที่ฝั่งศพ พร้อมกับหมอดูคนนั้นด้วยเช่นกัน พอถึงสถานที่หมอดูก็ทำพิธีร่ายคาถาของเขา พอทำพิธีเสร็จ ทุกคนก็ต่างช่วยกันขุดหลุมฝั่งศพออกมา
พอขุดจนถึงตรงที่เป็นหน้าฝาศพ แต่ก็ไม่มีใครที่กล้าจะเปิดฝาโรงศพนั่นออกมา แต่สุดท้ายแล้วยายก็เป็นคนเริ่มที่จะเปิดฝาโรงศพเอง พอเปิดโรงศพออกมาได้ทุกคนก็ต้องต่างวิ่งหนีกันไปคนละทาง เพราะว่าสภาพของศพที่นอนอยู่ภายในโรงศพนั่น เป็นลักษณะที่เน่า อืด หนอนเต็มสภาพศพเลย แม้แต่ยายที่เป็นแม่แท้ๆและหมอดูคนที่ทักเรื่องการมีชีวิตอยู่นั้นก็ยังต้องวิ่งหนีไปด้วยเช่นกันด้วยความตกใจ หลังจากวันนั้นไป คนที่ได้ไปช่วยเรื่องขุดหลุมศพเมื่อคืนนั้น ต่างพากันจับไข้หัวโกน เพราะต่างรู้สึกกลัวเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนกันอย่างมาก อย่างหนักเลยคือมีคนนึงถึงขั้นเหมือนเสียสติเพ้ออะไรไปทั่วตลอดเวลา จนสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องต่างกันไปหาพระเพื่อขอน้ำมนต์ และหมอดูคนนั้นก็ได้หายตัวไปเลย ส่วนคุณยายก็ได้ไปทำจิตใจให้สงบที่วัด เพื่อจะได้หลุดพ้นจากการคิดถึงลูกชายของแกตลอดกาล
การจากไปนั้นยากที่จะกลับมา ไม่มีใครอยากจากไป แต่เวลาของทุกคนก็ต้องมีการจากลา สำหรับเรื่อง ลูกชายที่รัก ก็หวังว่าจะเป็นเหมือนกับตัวอย่างของการยอมรับการจากไปได้นะครับ สำหรับที่ใครชอบเรื่องราวเหล่านี้ ก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย… สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์