เรื่องเล่าสยองขวัญต่อไปนี้เกิดขึ้นกับผู้ชายคนหนึ่งที่เขานั้นมีอาชีพเป็นรปภ. เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเรื่องนั้นได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 เมษายน โดยวันนั้นเขาได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าของเขาที่เขาทำงานอยู่ โดยหัวหน้าของเขานั้นได้ถามเขาว่า เขาได้กลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือเปล่า แต่เขาก็ได้ตอบกลับไปว่าเขาไม่ได้กลับเพราะเขาไม่มีรถที่จะกลับในช่วงนั้น ซึ่งหัวหน้าของเขาก็รู้สึกดีใจเพราะหัวหน้าอยากจะให้เขาไปรับงานเพื่อที่จะไปเฝ้าที่แห่งนึงในช่วงเวลา 19:00 น ถึง 07:00 เช้า ของช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้เอง เพราะพนักงานส่วนใหญ่แล้วนั้นจะกลับบ้านกัน แต่มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ไม่ได้กลับ โดยปกติแล้วอาชีพของเขาที่เป็นรปภ.นั้นเขาไม่เคยที่จะต้องมาเฝ้าในช่วงเวลากลางคืนเลย นั่นทำให้เขาก็รู้สึกกังวลใจนิดหน่อยแต่ก็ได้ตอบรับคำขอของหัวหน้าไป เพราะว่าเขาจะได้เก็บเงินพิเศษและตอนนั้นไม่มีใครอยู่แล้วจริงๆ เขาจึงจำเป็นต้องอยู่ให้หัวหน้าของเขาและนี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ กับเรื่อง “รปภ.กลางคืน” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
วันต่อมาคือวันที่ 12 เมษายนในช่วงเวลาประมาณ 18:00 น เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จก็เตรียมตัวที่จะเดินทางไปที่ทำงานของเขา ในวันนั้นเขาได้ออกจากที่พักของเขาและได้เดินไปที่ทำงานเขา พอเขาได้เดินไปเรื่อยๆเดินไปได้สักพักเขาก็ได้เจอกับเพื่อนเก่าที่เคยได้ทำงานร่วมกันมาเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนที่เขาสนิทเป็นอย่างมากในเมื่อก่อน แต่พอไม่ได้ทำงานด้วยกันก็ไม่ได้พบเจอกันเลย ตอนนั้นก็ได้มีการพูดคุยกันตามประสาเพื่อนทั่วไป เพื่อนของเขาก็ได้ถามเขาว่าเขาไม่ได้กลับบ้านหรอ เขาก็ตอบว่าไม่ได้กลับและเขาก็ได้บอกว่าเขากำลังจะไปเข้าเวรเหมือนอย่างเคย แต่ครั้งนี้เขานั้นต้องเฝ้าในตอนกลางคืนเพราะเขาต้องไปเข้าประจำแทนคนที่กลับบ้านไป แต่ด้วยความที่เขาไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้มาค่อนข้างนานเขาก็ได้จับสังเกตว่าเพื่อนคนนี้มีท่าทีที่เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากนักและได้ถามเพื่อนคนนี้ว่าเขาไม่ได้กลับบ้านที่อยู่ทางภาคใต้หรอ แต่เพื่อนของเขาก็ตอบมาเพียงแค่ว่าเขาก็อยากกลับแต่ยังกลับไมไ่ด้ เขาได้แต่ต้องรอญาติมารับได้เพียงเท่านั้น เขาจึงได้สวนกลับไปว่าทำไมต้องรอญาติด้วยทำไมเขาไม่กลับไปเอง ซึ่งเพื่อนของเขาก็ได้แต่ขำแห้งและเลยตอบไปว่าไม่มีอะไรหรอก และพอได้เดินไปถึงที่ทำงานก็ได้แยกย้ายกัน และเพื่อนของเขาก็ได้ทักเขาว่า ทำงานระวังเจอผีนะ เขาจึงได้แต่ด่ากลับไปเพราะคิดว่าหยอกเล่นกันตามปกติ
ตึกที่เขาต้องเข้าเวรเข้านั้นเป็นตึกสูง 5 ชั้นในตอนนั้นผู้บริหารและพนักงานในออฟฟิศยังไม่มีใครกลับกันมาเขาจึงได้เดินทางไปที่ป้อมเพื่อที่จะไปพูดคุยกับรปภ.ที่เฝ้าในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งก็ได้มีคำแนะนำจากรปภ.ก่อนหน้าเกี่ยวกับตำแหน่งของสวิตช์ไฟและประตูต่างๆหรือสิ่งที่ต้องทำตามปกติ และก็ได้สลับเวรกัน หลังจากนั้นในช่วงแรกทุกอย่างก็ยังดูปกติดีจนเวลาได้ผ่านไปจนถึง 21:00 น ในตอนนั้นพนักงานทุกคนที่อยู่บนตึกนั้น กลับกันไปหมดแล้วและได้มีเพียงแค่เขาอยู่เพียงคนเดียว หน้าที่ของเขาคือการเดินตรวจภายในตึกทุกๆชั่วโมง เขาก็ได้ทำหน้าที่อันนั้นในทุกๆชั่วโมง จนถึงเวลาประมาณ 4:00 น กว่าๆ เขาจึงได้ขึ้นลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นไปตรวจตรงชั้น 5 เขาได้เปิดไฟฉายและได้สาดส่องไปทั่วๆของชั้น5 ด้วยความที่เขาอยู่ที่ชั้น 5 ทำให้เขาสามารถเห็นตึกรอบๆของตึกที่เขาอยู่ได้และในระหว่างที่เขากำลังสาดไฟกำลังที่จะดูไปรอบๆตัวตึกนั้น เขาก็ได้สังเกตไปเห็นบนดาดฟ้าของตึกข้างๆ สิ่งที่เขาเห็นคือร่างของผู้ชายใส่ชุดเหมือนช่างยืนอยู่แต่ พอได้เห็นแบบนั้น เขาก็ได้รีบหยิบไฟฉายสาดไปตรงนั้นแต่ก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลยสักคน ในตอนนั้นเขาก็คิดแค่ว่าเขาคงตาฝาดไป เพราะบนดาดฟ้าของตึกข้างๆนั้นก็มืดพอสมควร ด้วยความที่เขาเป็นคนกลัวผี เขาก็เริ่มใจคอไม่ดีและจึงได้ที่จะพยายามตรวจดูชั้น 5 ให้เสร็จและตั้งใจจะเดินไล่ลงไปตรวจทุกชั้นอย่างที่เคยทำมาเรื่อยๆ และตั้งใจว่านี่จะเป็นการตรวจครั้งสุดท้ายของวันนี้
พอช่วงที่เขากำลังจะเดินลงไปที่ชั้น 4 ตรงบริเวณบันไดเขาก็ได้ยินเสียงของคนตีตรงบริเวณที่จับบันไดดังขึ้นมา ด้วยความที่บริเวณที่จับนั้นมันเชื่อมกันหมด หากตีดังๆ มันก็จะสะเทือนไปทั้งเส้น และตอนนั้นเองเขาก็รู้ทันทีว่ามีคนตีหรือกระแทกที่จับอย่างแรงจนทำให้เขานั้นก็สัมผัสได้ถึงแรงสั่น เขาจึงได้ยืนหน้าลงไปตรงบริเวณช่องว่างและได้สาดไฟไปดูว่ามีอะไรอยู่ข้างล่างหรือเปล่า แต่จังหวะที่เขากำลังสาดไฟไปนั้น เขาก็ได้เห็นใบหน้าของใครไม่รู้ยื่นหน้ามามองเขาจากข้างล่าง ด้วยความตรงใจและคิดว่าเป็นโจรเขาจึงได้รีบวิ่งลงไปดู ด้วยความที่อยู่ไม่ห่างกันมาก เขาก็น่าจะวิ่งไปทัน แต่พอไปถึงเขาก็ไม่พบกับอะไรเลย จนเขาเริ่มรู้สึกกลัวและได้เลิกที่จะตรวจในวันนั้น เพราะคิดไปคิดมาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีใครอยู่ที่ตึกนั้นแล้วนี่
วันถัดมาเขาจึงได้โทรไปบอกหัวหน้าของเขาว่า เขาขอไม่ทำในตอนกลางคืนแล้ว หรือถัาให้เขาทำก็ขอให้เขามีคู่หูหน่อย เพราะการเป็นรปภ.กลางคืนของเขานั้นมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน…