เหตุการณ์สยองขวัญในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2545 ผู้ที่ได้เจอกับเรื่องนี้นั้น เขามีความจำเป็นต้องไปพักบ้านคุณลุงที่อยู่แถวพุทธมณฑล เพราะพ่อกับแม่ต้องเดินทางไปทำธุระที่อังกฤษ ซึ่งหมู่บ้านที่คุณลุงอยู่นั้นเป็นหมู่บ้านใหญ่ แต่ก็มีที่ว่างและร้างอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ในหมู่บ้านจะมีซอยเล็กๆ แยกมาจากถนนหลักของหมู่บ้านทั้งสองฝั่งซ้ายและขวาซอยของบ้านคุณลุงเป็นซอยที่ 15 ต้องบอกก่อนว่าบ้านของคุณลุงของเขาอยู่เกือบสุดซอย และบ้านตรงข้ามเยื้องไปทางขวามือเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวอยู่หลังสุดท้าย เพราะซอยนี้เป็นซอยตัน บ้านหลังนี้ดูเหมือนบ้านที่ไม่มีคนอยู่เพราะประตูหน้าต่างปิดเงียบทุกวัน ไม่เคยเปิดไฟในตอนกลางคืน เขาจึงคิดไปเองว่าเป็นบ้านว่าง แต่ตัวบ้านดูสวยสะอาดตาสนามหญ้าตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม และก็เป็นบ้านที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องสยองขวัญครั้งนี้ แอดขอเสนอเรื่อง “พวกเขายังอยู่” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
คืนวันหนึ่งขณะที่เขานั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ที่ห้องโถงชั้นสอง เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนประตูรั้วเปิด มันเป็นเสียงดังแกรกๆกรากๆ พอเขามองลงไปจากหน้าต่าง เขาเห็นว่าบ้านหลังสุดท้ายนั้นเปิดไฟอยู่และประตูรั้วก็เปิดอ้าอยู่ด้วย เขาคิดในใจว่า “ที่แท้ก็มีคนอยู่นี่เอง” ด้วยความที่เขาเพิ่งมาอยู่บ้านคุณลุงได้ 5-6 วันจึงคิดว่าคนบ้านนั้นอาจไปต่างจังหวัดเพิ่งกลับมา เขาเล่นคอมเพลินจนเวลาผ่านไปเกือบตี 1 เขาก็รู้สึกง่วงขึ้นมา เขาจึงปิดคอมพิวเตอร์เสร็จแล้วลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง แล้วเขาก็ดูบ้านนั้นอีกครั้งและเห็นว่าบ้านหลังนั้นประตูรั้วปิดและไฟในบ้านก็ดับมืดหมดแล้ว ไฟหน้าบ้านและไฟรั่วก็ไม่เปิดทิ้งไว้อย่างบ้านอื่นๆ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าแปลกใจมากนักในตอนนั้น คืนต่อมาเขานอนไม่เปิดแอร์เพราะฝนตกอากาศเย็นสบาย ในคืนนั้นเขาโทรศัพท์คุยกับเพื่อนของเขาจนถึงเกือบเวลาตี 2 เพราะเพื่อนมันนอนไม่หลับ ตอนคุยนั้นเขาก็เดินไปคุยไปจนเริ่มเดินไปคุยตรงบริเวณริมหน้าต่างและเขาก็ได้บังเอิญเหลือบไปมองบ้านหลังนั้นอีก แล้วเขาก็เห็นเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งผมยาว แต่รวบไว้ข้างหลังเธอเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านซึ่งเปิดไฟเปิดหน้าต่างไว้ เขาก็ไม่คิดอะไรเช่นกันจนคืนนั้นได้ผ่านไป
คืนต่อมาเขาก็นอนหลับปกติ แต่ได้ตื่นขึ้นมาตอนตี 3 เพราะได้ยินเสียงแตรรถยนต์ เขาเลยแอบดูที่หน้าต่าง จึงเห็นว่าบ้านตรงข้ามที่เพิ่งกลับมาดึกๆบีบแตรซะเสียงดังจนไม่เกรงใจชาวบ้านแถวนั้นเลย บ้านตรงข้ามเป็นบ้านของพวกคนหนุ่มสาววัยทำงานอยู่กัน 3-4 คน สักพักเขาก็มองไปที่บ้านหลังที่สงสัยนั้นอีกครั้งก็เห็นว่าบ้านปิดไฟมืดหมด แต่เปิดทีวีอยู่เพราะถ้ามองจากชั้นสองของห้องนอน เขาจะมองผ่านหน้าต่างกระจกเข้าไปในบ้านได้ง่าย เพราะไม่มีม่าน มันสามารถมองเห็นได้ว่ามีแสงของจอทีวีเปิดอยู่ในห้องรับแขกด้านหน้า
พอเช้ารุ่งขึ้นคุณลุงบ่นกับเขาให้ฟังว่า เมื่อคืนบ้านตรงข้ามสงสัยเมากลับมาบีบแตรเสียงดังเชี่ยว เขาจึงได้บอกกับลุงไปว่าเขาก็ได้ยินเช่นนั้น แล้วคุณลุงก็บอกว่าคนซอยนี้น่ะนอนกันหัวค่ำทั้งนั้น มีแต่บ้านตรงข้ามที่มักกลับดึกนอนดึกบางคนก็เปิดเพลงซะดังลั่น เขาจึงได้พูดกับคุณลุงไปว่า บ้านข้างๆที่ไม่ใช่บ้านฝั่งตรงข้ามบ้านลุงก็นอนดึกเหมือนกัน เพราะเขาได้ที่บ้านหลังนี้เปิดทีวีกันเวลาดึกๆ ประมาณตี2-3 ยังเปิดทีวีกันอยู่เลย พอลุงได้ยินแบบนั้นจึงถามเขาว่า บ้านหลังไหนกันนะ ลุงของเขาทำหน้างงๆและบอกว่า บ้านที่อยู่ตรงเยื้องจากบ้านเขาหน่ะเหรอ เขาจึงบอกว่าใช่ครับ นั่นมันทำให้ลุงของเขาถึงกับอึ้งไปสักพัก
แล้วก็พูดขึ้นมาว่า บ้านนั้นไม่มีคนอยู่นะ เขาถึงกับงง และได้พยายามอธิบายแล้วก็เล่าให้ฟังตามที่เคยเห็นมา 2-3 คืนติดกันมานี้ ซึ่งพอลุงของเขาได้ฟัง เขาก็ไม่เชื่อและลุงจึงชวนกันออกไปที่ระเบียงหน้าบ้าน แล้วมองไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจตรงกันไม่ผิดบ้านแน่ แล้วลุงก็รีบชวนเข้าบ้านนั่งลูบแขนลูบขาตัวเอง ลุงเขารู้สึกขนลุกไปหมด ลุงของเขาจึงเริ่มเล่าว่าบ้านตรงข้ามว่างและร้างมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว เพราะผู้หญิงเจ้าของบ้านที่เป็นสาวใหญ่วัย 45 ปีนั้นเกิดอุบัติเหตุไฟดูดตาย คนในบ้านอีก 2 คนเป็นหลานชาย เขาได้กลับมาจากเรียนที่โรงเรียนแล้วมาพบเข้าตอนค่ำ แล้วคุณลุงบอกว่าวันนั้นตำรวจมาเต็มซอยมีรถพยาบาลมาด้วยเป็นที่แตกตื่นและทั้งใจหายสลดใจและหดหูในเวลาเดียวกัน บ้านหลังนี้จึงไม่มีใครอยู่อีกเลย แต่ทุก 2-3 เดือนจะมีคนมาดูแลบ้านเป็นประจำ หลังจากที่ฟังลุงเล่าแล้ว เขาก็รู้สึกขนลุกเกรียวไปทั้งตัว แถมลุงยังเล่าอีกว่า เคยมียามที่ขี่จักรยานตรวจตามชอบดึกๆ ก็เคยเห็นผู้หญิงนั่งกินอาหารอยู่ในบ้าน คนบ้านข้างๆก็บอกว่าเคยเห็นทีวีเปิดอยู่บ้างได้ยินเสียงเพลงดังออกมาบ้างทั้งที่บ้านนั้นไม่มีใครอยู่แล้วจริงๆ
ซึ่งคนในหมู่บ้านนั้นทุกคนต่างรู้กันดีเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ พอหลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องที่ลุงเล่าทั้งหมด มันทำให้เขาถึงกับไม่กล้าที่จะมองระเบียงอีกเลยหลังจากนั้น จนกระทั่งเขาได้ย้ายออกไปอยู่หอ และก็ไม่รู้ว่าบ้านหลังนั้นปัจจุบันมีคนไปอยู่แล้วหรือยัง ถ้าพวกเขายังอยู่ ก็คงไม่มีใครกล้าที่จะมาอยู่บ้านหลังนี้เป็นอย่างแน่นอน… เว็บสล็อต
ที่มา : https://www.ookbee.com/