เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนหนึ่งที่วันหนึ่งเขาได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาและต่อด้วยค่ายอาสากับเพื่อนๆในมหาวิทยาลัยของเขา พวกเขาต้องเดินทางไปเป็นรุ่นพี่อาสาที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก และเป็นโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีการเข้าถึงของเทคโนโลยีหรือการพัฒนามากนัก ด้วยความที่ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชนบทที่ค่อนข้างลึก นี่จึงเป็นสาเหตุที่เกิดค่ายอาสานี้ขึ้นมา ด้วยความที่ตัวเขาชอบในการทำจิตอาสาอยู่เลยจึงได้สมัครเขามาอาสาพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ทันที ทั้งตัวเขาและเพื่อนๆได้เดินทางมาถึงโรงเรียนตอนประมาณ 4 โมงเย็นได้แล้ว พอมาถึงสถานที่จริงของโรงเรียนจึงได้รู้ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่เล็กมากและพื้นที่ด้านหลังของโรงเรียนได้ติดกับวัดป่า และทางนั้นก็ยังเป็นบ้านพักคุณครูอีกด้วย ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้เตือนเอาไว้ว่า อย่าได้เข้าไปยุ่งตรงบริเวณนั้น เพราะมันทั้งเก่าทั้งมืด อย่าไปยุ่งจะดีกว่า…
โดยพอไปถึงโรงเรียนก็ได้จัดเตรียมพื้นที่เป็นบริเวณหนึ่งอาคารเรียนไว้สำหรับให้พวกเขาชาวจิตอาสาได้นอนพักกัน โดยจะมีการแยกกันสำหรับการนอนโดยที่อาจารย์ที่เป็นผู้หญิงและนักศึกษาผู้หญิง พวกเธอจะต้องพักภายในอาคารเรียนของโรงเรียนที่เตรียมเอาไว้ให้ ส่วนอาจารย์ผู้ชายและนักศึกษาผู้ชายต้องพักอยู่ข้างนอกอาคารตึก โดยที่จะมีการกางเต้นท์นอนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเต้นท์ที่เตรียมไว้สำหรับการนอนนั้นเป็นขนาดที่นอนได้สองคนต่อหนึ่งเต้นท์ พอพวกเขาจัดเตรียมเต้นท์กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว และย้ายของเข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อย มันก็เป็นเวลาเย็นเกือบจะหัวค่ำเข้าให้แล้ว เขาและเพื่อนๆก็ได้รวมกลุ่มกันอีกครั้งเพื่อที่จะทำอะไรกินกันเพราะนี่ก็เย็นเข้าให้แล้ว หลังจากที่พวกเขากินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ก็มีการพูดคุยกันเรื่องงานที่จะแบ่งกันทำในวันถัดไป ก็มีการประชุมพูดคุยกันจนถึงเวลาค่อนข้างดึกเข้ามากแล้ว ทุกคนจึงได้แยกย้ายกันเข้าที่พักและนอนพักกัน เขาได้เข้านอนในเต้นท์กับเพื่อนสนิทของเขา ระหว่างที่นอนกันนั้นก็มีการพูดคุยกันตามประสาเพื่อนจนเขานั้นก็ได้เผลอหลับไป พอเวลาผ่านไปจนถึงกลางดึกเขาก็ได้ตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าปวดท้อง แต่ก็ไม่กล้าไปคนเดียว แต่ก็ไม่อยากจะชวนเพื่อนของเขาไปเพราะเห็นว่าหลับสนิทแล้ว จนสุดท้ายได้ตัดสินใจเดินไปคนเดียว ซึ่งห้องน้ำที่ทางโรงเรียนได้จัดเตรียมให้ใช้นั้นจะอยู่ทางด้านหลังของอาคารเรียน ส่วนห้องน้ำภายในอาคารเรียนนั้นจะมีไว้ให้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น เขาจึงได้หยิบไฟฉายติดมือมาและเดินอ้อมอาคารเรียนเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ พอเขาเดินจนใกล้จะถึงห้องน้ำที่อยู่หลังอาคารเรียน เขาก็ได้สังเกตเห็นอาคารที่อยู่ข้างๆห้องน้ำนั้น มันเป็นอาคารบ้านพักคุณครูของโรงเรียนนี้ ซึ่งด้านหลังของบ้านพักคุณครูนั้นจะเป็นเหมือนกับป่าช้าที่ค่อนข้างทืบและน่ากลัวค่อนข้างมาก
แต่ตัวเขาก็ไม่ได้คิดอะไรและมุ่งหน้าเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างทันที แต่ไม่ทันที่จะได้เข้าห้องน้ำ เขาก็ได้เดินออกมาและเดินไปรอบๆเพราะสงสัยว่ามันเป็นยังไงกันแน่ แต่ไม่ทันที่จะได้เดินไปโดยรอบสายตาของเขาก็ได้ไปสังเกตตรงบริเวณบ้านพักครูที่อยู่ใกล้ๆ และเขาก็ได้เห็นเหมือนมีใครบางคนนั่งแกว่งขาอยู่ตรงระเบียง มันดูได้ไม่ชัดมากนักเพราะมันอยู่ในความมืดแต่เขาก็พอเห็นได้ชัดว่านั่นคือขาของคน เขาก็จึงคิดแง่ดีว่านั่นคงเป็นคุณครูที่มานั่งเล่นรับชมวิวในช่วงเวลากลางคืน คงไม่มีอะไรไปมากกว่านี้ เขาก็ทำใจดีสู้เสือเพราะไม่อยากจะคิดในแง่ลบ จึงได้รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อที่จะได้กลับไปนอนพักที่เต้นท์ต่อเร็วๆ หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วเขาก็ได้ออกมา และยังคงสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นจึงได้เห็นมองไปอีกครั้ง และเขาก็ยังคงเห็นเป็นภาพเดิม คือยังเห็นคนยังคงนั่งแกว่งขาอยู่อย่างนั้นไม่เลิก เขาจึงได้ตัดสินใจเดินกลับไปที่เต้นท์ แต่ไม่ทันที่จะเดินไปได้ไกล เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรตกลงมาจากที่สูงจากทางด้านหลังของเขา มันเป็นเสียงหล่นลงมาดัง ตุ้บ!!
เขาจึงได้หันหลังกลับมาดู ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นก็ต้องทำให้เขาถึงกับช็อก เพราะนั่นคือศีรษะของคนที่นั่งอยู่ข้างบนตกลงมาและกลิ้งอยู่ตรงพื้น และสักพักก็มีร่างกายของคนเดินลงมาจากบ้านพักครู แต่ร่างกายนั้นไม่มีหัวอยู่ ร่างกายนั้นเดินลงมาและหยิบหัวที่ตกลงอยู่ตรงพื้นเอามาไว้ต่อไว้ตรงหัวของตัวเอง หลังจากที่เขาเห็นแบบนั้นเขาก็ถึงขั้นตัวแข็งทื่อ วิ่งไปไหนไม่ได้ อยากจะร้องก็ร้องไม่ออก เหมือนมีอะไรมาติดอยู่ตรงอก พอเขาตั้งสติได้เขาก็รีบวิ่งกลับไปตรงบริเวณเต้นท์ของเขาทันที ละนอนอยู่อย่างนั้นจนเช้า เขาก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง จนถึงวันสุดท้ายที่เขาต้องกลับ เขาตัดสินใจถามคุณครูที่โรงเรียนแห่งนั้นเกี่ยวกับบ้านหลังนั้น จนได้มารู้ว่าบ้านหลังนั้นเคยได้มีคุณครูคนเก่าได้ผูกคอตายที่บ้านพักแห่งนั้น กว่าจะมีคนมาเอาศพไป ศพก็เน่าจนคอขาดออกจากตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
สำหรับเรื่องนี้แอดเชื่อว่า สำหรับใครที่ได้เคยเป็นจิตอาสาตามสถานที่ต่างๆมาก่อน คงเข้าใจฟิลการเข้าพักและการเข้าห้องน้ำหรือจะทำอะไรสักอย่างในที่เราไม่คุ้นชินดี มันทำให้เราสงสัยและอยากจะเข้าไปรู้ว่าสิ่งที่ห้ามอยู่นั้นจะเป็นอะไรกันแน่ใช่ไหมครับ สำหรับเรื่อง บ้านพักคุณครู ผีหัวขาด นั้นก็พอสอนเราได้ว่า จงเชื่อสิ่งที่เจ้าของพื้นที่เตือนไว้ ไม่งั้นเราอาจจะได้เจอสิ่งแปลกๆเข้าได้นะครับ บรื้อ.. เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ