วันนี้แอดได้นำเรื่องราวสยองขวัญที่เกี่ยวกับวัดมาให้ทุกคนได้อ่านกัน โดยเป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขานั้นอยู่ในช่วงเวลาวัยรุ่นทำให้ตัวเขานั้นค่อนข้างเป็นคนที่จะเกเร ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร พอมีเวลาว่างก็มักจะไปสังสรรค์เป็นประจำ ชีวิตไม่ค่อยดีมากนัก จนทำให้แม่ของเขาได้ไปปรึกษากับคนสนิทว่าอยากจะให้เขานั้นไปบวชเพื่อที่จะทำให้เขามีสติและเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องในชีวิตให้มากขึ้น และแม่ของเธอก็ได้ไปดูหมอดูมา ซึ่งหมอดูก็ทักมาว่าเขานั้นจะชะตาขาดอีกไม่นาน ถ้าไม่รีบหาทางแก้ ในตอนนั้นแม่ของเขาและพี่คนสนิทของเขาก็ได้มาขอร้องให้เขานั้นไปบวชเพื่อความสบายใจของทั้งแม่และตัวเขา เขาจึงได้บวชตามที่แม่ของเขาขอ จนทำให้เขาต้องเจอกับเรื่องสยองขวัญตามมา แอดขอนำเสนอเรื่อง “ท่าน้ำหน้าวัด” ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ บรื้อ…
ในตอนแรกนั้นเขานั้นไม่ได้อยากจะบวชเลย เพราะเขารู้สึกว่ามันเสียเวลาชีวิตเขามากถ้าต้องมาบวชแบบนี้ เขาหัวดื้อจนขนาดแม่เขาจะไหว้ขอเขาเพื่อที่จะให้เขาได้ไปบวช นั่นจึงทำให้เขายอมที่จะไปบวชในที่สุดตามที่แม่ของเขาขอร้อง พอได้เข้าไปบวชแล้วนั้นก็ได้มีพระผู้ใหญ่ที่คอยสอนเขาว่าให้ทำแบบนี้นะ ห้ามทำแบบนี้นะ คอยเป็นเหมือนพระอาจารย์ที่คอยสอนเขาตลอด โดยที่วัดที่เขาไปบวชนั้นจะเป็นวัดที่ติดอยู่กับท่าน้ำที่อยู่ทางข้างๆ เหมือนกับวัดที่อยู่ตามต่างจังหวัดทั่วไป ได้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขานั้นได้ไปเดินเล่นอยู่ตรงแถวๆศาลาริมน้ำ ซึ่งฝั่งตรงข้ามของวัดนั้นจะเป็นเหมือนป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยป่ามากมาย เขาได้นั่งเล่นชิลๆสักพัก แต่แล้วเขาก็ได้หยิบบุหรี่มาสูบ (มันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะทำในขณะที่เราเป็นพระ) พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มาเล่นอยู่ตรงศาลาตรงนั้น สักพักหลังจากนั้นเขาก็ได้รู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ได้อยู่คนเดียว เขาเลยได้เงยหน้าขึ้นมามอง และเขาก็ได้มองออกไปตรงแม่น้ำที่อยู่หน้าศาลา เขาได้เห็นเหมือนผู้หญิงนั่งอยู่ตรงบันไดที่อยู่ทางลงไปในแม่น้ำ
พอเขาเห็นแบบนั้นเขาก็ได้พูดขึ้นมาว่า “โยม มาทำอะไรตรงนี้” ในตอนนั้นที่เขาได้ถามไปผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ตอบ เธอเอาแต่นั่งตัวสั่นและร้องไห้สะอืดออกมาและนั่งอยู่ตรงนั้น เขาจึงได้ถามย้ำไปอีกว่า “โยมเป็นอะไรรึเปล่า” เธอจึงได้หันหน้ามาทางเขา เขาจึงได้เห็นว่าเธอนั้นมีใบหน้าที่สวยงาม เป็นผู้หญิงปกติคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้อยู่ และเธอก็ได้หันมาพูดกับเขาว่า เธอกำลังนั่งรอแฟนของเธออยู่ และก็ได้ร้องไห้ต่อ สักพักเธอก็ได้ลุกขึ้นและเดินผ่านเขาไปเข้าไปในวัด เขาก็รู้สึกงงกับผู้หญิงคนนี้แต่ก็ไม่ได้ที่จะคิดว่าจะเดินตามเธอไปหรืออย่างไร วันนั้นก็เป็นช่วงหนึ่งที่เขาเจอเธอ วันถัดมาหลังจากที่เขาทำกิจยามเช้าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วพอมาถึงช่วงบ่ายๆเย็นๆ ด้วยความเบื่อเขาก็ได้เดินเล่นโทรศัพท์ของเขาและได้เดินมาตรงที่ศาลาอีกครั้ง พอมาถึงเขาก็พยายามมองซ้ายมองขวา เพราะเขานึกถึงผู้หญิงเมื่อวานที่เขาได้เห็น
เขาก็นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่แบบนั้นพร้อมกับสูบบุหรี่ไปด้วย พอเวลาผ่านไปได้ไม่นานเขาก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงดัง ตึ้ง! ตรงบริเวณแม่น้ำดังขึ้นมา พอได้ยินแบบนั้นเขาก็ตกใจและได้หันหน้าไปดูตรงบริเวณแม่น้ำ ก็ได้เห็นเรือที่ไหนไม่รู้เข้ามาชนเข้ากับบันไดศาลา ในตอนนั้นเขาก็ตกใจว่าเรือนี่มาจากไหนแน่ทำไมอยู่ๆถึงมาชนศาลานี่ได้ ในตอนแรกที่เขาเห็นเรือจากศาลาเขาก็ไม่เห็นใครในเรือ แต่พอเขาเดินลงไปเพื่อที่จะไปดูว่าเรือนี้มีอะไรรึเปล่านั้น เขาก็ต้องได้เห็นผู้หญิงคนที่เขาได้พบเจอเมื่อวานนั้น เธอนอนอยู่ภายในเรือ เขาก็รู้สึกตกใจและได้ตะโกนเรียกว่า “โยมเป็นอะไรรึเปล่า” เธอก็ได้แต่ร้องไห้แบบนั้นพร้อมพูดออกมาว่าเธอไม่ไหวแล้ว เธอพูดอยู่แต่แบบนั้น จนสุดท้ายแล้วนั้นเธอได้ลุกขึ้นมาจากเรือและกระโดดลงไปในแม่น้ำทันทีต่อหน้าของเขา
พอเห็นแบบนั้นถึงตอนนั้นเขาจะเป็นพระ แต่เขาก็รู้สึกห่วงผู้หญิงคนนี้ว่าเธอจะฆ่าตัวตายหรืออะไรหรือเปล่า เขาจึงได้กระโดดลงไปในแม่น้ำตามเธอไปทันทีเพื่อที่ตั้งใจจะไปช่วยเธอ เขาได้พยายามว่ายน้ำไปมาตรงบริเวณนั้นก็ไม่เจอ เขาจึงได้ดำน้ำลงไปจนกระทั่งเขานั้นสามารถคว้าได้เสื้อ เขาได้จับเสื้อและกระชากขึ้นมาและได้พยายามลากขึ้นตะลึงที่อยู่ข้างๆ โดยลากเสื้อขึ้นมา แต่แล้วพอเขาหันไปดูเสื้อที่เขาลากขึ้นมา เขาก็ได้เห็นเสื้อนั้นเป็นเสื้อที่เหมือนกับเสื้อของลิเกที่เต็มไปด้วยเครื่องตกแต่งมากมายอยู่แบบนั้น เขาก็ได้ตกใจกับสิ่งที่เขาได้นำขึ้นมา เพราะเขานั้นคิดว่าเขาได้นำร่างของผู้หญิงขึ้นมาแท้ๆแต่กลับกลายเป็นชุดนี้ได้ไง สักพักพระอาจารย์ของเขาก็ได้เดินมาทางด้านหลังของเขา และท่านก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ เขาเป็นพระใหม่ อย่ามาหลอกหลอนเขาเลย อาตมาขอเถอะ”
และพระอาจารย์ก็ได้เล่าให้เขาฟังว่าบริเวณนี้มักจะเป็นสถานที่ที่มีคนมาตายและศพมาลอยกันเป็นประจำ จึงทำให้วิญญาณ ณ ตรงนี้มีเยอะมาก จึงมีการพูดกันมากมายว่า ท่าน้ำหน้าวัดนี้ เป็นท่าน้ำผีสิงนั่นเอง…