เรื่องนี้เป็นเรื่องสยองขวัญที่เกี่ยวกับค่ายปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนหนึ่งและเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งโรงเรียนนี้เป็นกึ่งโรงเรียนกึ่งวัดที่ค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงอยู่พอสมควร และการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ของเขานี่แหละที่ทำให้เขาได้เจอกับเรื่องสยองขวัญในครั้งนี้ วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่องสยองขวัญ เรื่อง “ทางเชื่อมชั้นสาม” ถ้าอยากรู้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณปี 2550 ตัวเขานั้นได้เข้ามาสอบเข้าที่โรงเรียนแห่งนี้ในระดับชั้นมัธยมต้น โรงเรียนแห่งนี้มีอาคารอยู่ทั้งหมด 8 หลัง หน้าโรงเรียนจะมีโดมและลานกว้างสองแห่งที่มีไว้สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนนี้ และอาคารทุกหลังก็จะมีทางเชื่อมไว้สำหรับเดินทางข้ามตึกทั้งหมด เมื่อเขาได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ได้ประมาณ 1 เดือนทางโรงเรียนก็ได้มีการจัดการเข้าค่ายปฏิบัติธรรมขึ้นมา ซึ่งนักเรียนทุกคนต้องเข้ามานอนค้างที่โรงเรียน ตัวเขาจะได้นอนพักที่อาคารใหม่ที่มีอยู่สามชั้นและตัวเขาก็ได้พักอยู่ที่ชั้นสามของอาคารแห่งนี้ หลังจากการร่วมกิจกรรมของคืนแรกเสร็จแล้ว คุณครูก็ได้สั่งให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายกันไปเข้านอน ซึ่งนักเรียนทั้งหมดจะนอนที่ชั้นสามและแยกฝั่งชายหญิงด้วย และในคืนนั้นเวลาประมาณตี 1 เป็นเวลาที่ทุกคนนั้นหลับกันหมดแล้ว และตัวเขาก็รู้สึกมีอาการปวดท้องขึ้นมา ด้วยความกลัวเพราะยังเป็นเด็ก เขาจึงได้ปลุกเพื่อที่นอนอยู่ข้างๆเขาให้ตื่นขึ้นมาและไปห้องน้ำเป็นเพื่อนเขาหน่อย
ทั้งเขาและเพื่อนของเขาก็ได้แอบเดินย่องเบาๆเพื่อที่จะไม่ให้คุณครูและเพื่อนคนอื่นๆตื่นกัน ซึ่งห้องน้ำที่จะไปนั้นจะอยู่อีกตึกนึง เขาจึงต้องเดินลงมาที่ชั้นล่างและเดินเข้าไปทางเชื่อมเพื่อที่จะโผล่อีกตึกนึงและเดินลงไปที่ชั้นหนึ่งเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ พอถึงห้องน้ำเขาก็ทำธุระของเขาต่อ และได้ให้เพื่อนของเขารอที่หน้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นเขาได้เปิดไฟไว้ทุกแห่งในห้องน้ำเพราะกลัวกัน แต่แล้วระหว่างที่เข้าห้องน้ำเขาก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างนอกห้องน้ำว่า “นี่พวกเธอทำอะไรกันเนี่ย” และเพื่อนของเขาก็ได้ตอบกลับว่า กำลังรอเพื่อนเข้าห้องน้ำอยู่ แต่แล้วคุณครูคนนั้นที่พูดก็ได้ไล่ให้เพื่อนของเขาขึ้นไปนอนต่อและปล่อยให้เขาเข้าห้องน้ำเพียงลำพัง พอเขาได้ยินว่าคุณครูไล่เพื่อนของเขาขึ้นไปเขาก็รู้สึกกลัวทันทีเพราะเขาไม่อยากอยู่คนเดียว
เขาได้รีบทำธุระให้เสร็จเพื่อหวังจะตามเพื่อให้ทัน แต่พอออกมาหน้าห้องน้ำกลับไม่พบใครสักคน บรรยากาศโดยรอบตอนนั้นเงียบและมืดมาก มีเพียงไฟตรงทางขึ้นตึกเท่านั้นที่สว่างอยู่ เขาจึงได้รีบเดินเพื่อที่จะตามเพื่อนไปให้ทัน ในระหว่างที่เขากำลังเดินตามเพื่อนของเขานั้น เขาก็ได้เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อายุเท่าๆกับเขา เขาเลยคิดว่าเด็กผู้ชายคนนั้นคงจะมาเข้าห้องน้ำเหมือนกัน เขาเลยรู้สึกสบายใจขึ้นมาที่มีเพื่อนเดินระหว่างทาง เขาจึงได้เดินตามหลังเด็กผู้ชายคนนั้นไป ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นชั้นสองนั้นเด็กคนนั้นก็หันมายิ้มให้กับเขา เขาจึงยิ้มตอบกลับไปด้วยความยินดี พอได้เดินมาถึงตรงบริเวณแถวๆระเบียง เขาก็รู้สึกได้ว่าเด็กคนนั้นมีท่าทีที่เดินเร็วขึ้น เดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงได้พูดออกมาว่า “นี่รอเขาด้วยสิ” หลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็หันมายิ้มให้กับเขาอีกครั้งและได้รีบวิ่งมุ่งหน้าไปตรงบริเวณทางเชื่อมของตึก เขาจึงได้ตัดสินใจวิ่งตามไป พอไปถึงตรงทางเชื่อมระหว่างตึกกลับพบว่า ประตูทางเชื่อมระหว่างตึกนั้นล็อกอยู่ แล้วเด็กคนนั้นหล่ะหายไปไหน
เขาจึงนึกสงสัยว่าเด็กคนนั้นหายไปไหนได้ไง ขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับ เขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังเขาว่า “จะไปไหนหล่ะ ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” พอเขาได้ยินแบบนั้นเขาก็ร้องดังออกมาสุดเสียงด้วยสติแตก โดยที่ไม่กลัวว่าจะมีใครตื่นอีกแล้ว เพราะเสียงที่เขาได้ยินนั้นดังมาจากข้างหลังของเขาที่เป็นทางเชื่อมล็อกอยู่ เขาจึงได้รวบรวมสติและวิ่งกลับไปทางเดิมที่เขาเดินมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเขาลงมาถึงชั้นล่างแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาอีกว่า “ให้ไปส่งไหม” พร้อมกับเสียงหัวเราะดังขึ้นมา เขาก็ได้รีบวิ่งต่อ พร้อมพูดกับว่าใครหน่ะ อย่ามาแกล้งกันแบบนี้ และวิ่งต่อไปด้วยความกลัว เขาจึงได้พูดออกมาว่า ใครหน่ะออกมาเดี๋ยวนี้นะ” สิ้นสุดเสียงเขาที่พูดออกมา เขาก็ได้เจอกับเจ้าของเสียง แต่เจ้าของเสียงมาด้วยการที่เป็นร่างของเด็กผู้ชายคนนั้นตกลงมาจากตึกและนอนแน่นิ่งต่อหน้าของเขาที่กำลังจะวิ่งกลับไปที่ตึกนอน ร่างๆนั้นเต็มไปด้วยเลือดและก็ได้พยายามที่จะคลานมาหาเขา พร้อมกับพูดออกมาว่า “มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ” พอเขาเห็นแบบนั้นก็ได้สลบไปทันที
เช้าวันถัดมาเขาได้สติอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียน และก็ได้เจอกับคุณครูที่เฝ้าเขาอยู่ เขาจึงได้รีบเล่าสิ่งที่เจอให้ฟังเมื่อคืน จนได้มารู้ว่าที่ตึกนั้นเคยได้มีเด็กเล่นและพลัดตกลงมาจากทางเชื่อมชั้นสามของตึกนั้นนั่นเอง…