ในครั้งนี้แอดได้นำเรื่องราวที่เกี่ยวกับการออกทริป ช่วงนี้เป็นเวลาช่วงสิ้นปี มันเป็นเวลาที่ดีที่ใครหลายๆคนนั้นมักจะออกไปเที่ยวกันตามต่างจังหวัดหรือไปพื้นทีที่ไม่เคยได้ไปมาก่อน บางคนก็ต่างไปเที่ยวกับทัวร์บ้าง บางคนก็ขับรถไปเองสบายๆชิวๆบ้าง และในครั้งนี้แอดก็ได้เอาเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่เขามีโอกาสได้ออกมาเล่าให้ทางรายการหนึ่งที่ค่อนข้างดังให้มาฟังกัน เรื่องนี้จะเกี่ยวกับการออกไปเที่ยวของเขาที่ไปเที่ยวกับกลุ่มมอเตอร์ไซต์ที่เป็นเพื่อนๆกัน และได้เจอกับเรื่องแปลกๆเข้าระหว่างไปทริป กับเรื่อง ชะตาขาด ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
ในช่วงสิ้นปีเมื่อหลายปีที่แล้ว เขาได้มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนที่เป็นแก็งมอไซต์ของเขา ที่ปกติแล้วการออกไปเที่ยวในแต่ละครั้งของพวกเขาก็จะออกกันทีเป็นประมาณ 100-200 คนเลย บางครั้งก็ไปกันเป็นกลุ่มเล็กแล้วแต่ครั้ง ซึ่งครั้งนี้พวกเขาได้เดินทางกันไปที่จังหวัดศรีสะเกษเพื่อที่จะไปทำบุญกัน เขาและเพื่อนๆได้นัดรวมตัวกันที่กทม. และก็ได้เริ่มออกเดินทางในตอนตี 5 พวกเขาก็ได้ออกเดินทางกันเป็นขบวนใหญ่ พวกเขาก็ได้ขับรถกันเรื่อยๆ ขับไปพักไป จนกระทั่งได้มีอยู่ช่วงหนึ่ง ในช่วงเส้นทางที่กำลังผ่านจังหวัดขอนแก่นทางภาคอีสาน พวกเขาได้จอดพักกันในปั้มๆหนึ่ง ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาบ่ายสองได้ ระหว่างนั้นทุกคนก็ต่างพากันเคลียร์เรื่องตัวเองกัน ก็ได้มีกลุ่มอยู่กลุ่มหนึ่งพวกเขาได้คุยกัน ด้วยความที่เขาอยากรู้ว่าคุยอะไรกัน ก็ได้เข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย คุยๆกันไป ก็ได้มีพี่คนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “ทริปนี้คงเป็นทริปสุดท้ายของเขาแล้ว” ทุกคนก็ต่างตกใจและว่ากันว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ แต่พี่คนนั้นก็ได้พูดเพียงแค่ว่าเขาหยอกเล่นเฉยๆ อย่าคิดมาก แต่พอพูดแบบนี้มาก็ทำให้ทุกคนต่างใจเสียกัน
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้ขับรถกันเดินทางต่อ ระหว่างที่ขับรถกันก็ได้มีการขับรถหลบรถยนต์กันปกติ จนได้มีรุ่นพี่คนหนึ่งได้บอกให้หยุดขับรถกันก่อนและแวะไปพักตามทาง เขาบอกเขารู้สึกไม่ดี ขอให้ทุกคนจอดพักกันก่อน หลังจากที่รุ่นพี่ได้จอดรถลง เขาก็ได้เดินไปหารุ่นพี่อีกคนที่ได้พูดจาไม่ดีก่อนหน้านี้ และเขาก็ได้ตบหัวรุ่นพี่คนนั้นไปอย่างจังๆ พร้อมพูดว่า “ระหว่างที่ขับรถกัน เขาไม่เห็นเงาหัวของรุ่นพี่คนนี้” จึงทำให้เขาตกใจและให้จอดรถพักก่อน เขาทำแบบนี้เพื่อความสบายใจและก็เดินทางกันต่อ พอได้ถึงจังหวัดศรีสะเกษ โดยการมาครั้งนี้พวกเขาได้ขอเข้าไปนอนพักที่โรงเรียนกัน แล้วก็จัดแจงทุกอย่างกันให้เรียบร้อย หลังจากเรียบร้อยกันทุกคนก็ได้รวมตัวกันมากินข้าวและได้มานั่งรวมกัน โดยก็ได้มีการพูดถึงรุ่นพี่คนนั้นกัน เพราะทุกคนต่างรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับการพูดของเขา พอผ่านไปสักพักก็ได้มีคนหนึ่งที่อยู่ในทีมกล้อง ที่ทุกครั้งเวลาไปไหนพวกเขาก็มักจะถ่ายภาพวิดีโอกันตลอด ซึ่งเขาก็ได้ตะโกนออกมาและพูดว่า “มาดูอะไรนี่สิ”
เขาได้พูดถึงในช่วงเวลาที่ขับรถผ่านช่วงสะพานยาวตอนมาที่นี่ เพราะในกล้องที่เขาได้ถ่ายนั้น เขาได้ถ่ายติดเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ตรงข้างทางและยื่นมือออกมาเหมือนจะโบกมือเรียกอะไรประมาณนั้น ทุกคนก็ต่างพูดกันว่าอาจจะเป็นคนที่เดินอยู่แถวนั้นแล้วเรียกหรือเปล่า แต่ตากล้องก็ได้พูดขึ้นมาว่ามันไม่ใช่คนปกติแบบนั้น แต่นั่นเป็นคนที่ไม่มีหัว!! นั่นทำให้พวกเขาตกใจกันเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้ปักใจเชื่ออะไรขนาดนั้น จนสุดท้ายแล้วตากล้องนั้นเปิดคลิปวิดีโอให้กับทุกคนได้ดู หลังจากที่ตัวเขาได้ดูมันก็ทำให้เขารู้สึกขนลุกทันที เพราะได้คิดไปถึงเรื่องที่รุ่นพี่ของเขานั้นได้พูดถึงเกี่ยวกับการไม่เห็นเงาหัวของตัวเอง
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้แยกย้ายกันนอนและคิดกันว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า แต่ก็ไม่ทันผ่านคืนนั้นไป อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงโวยวายน่ากลัวมาจากเต้นท์ที่นอนที่อื่นดังขึ้นมา เขาก็ได้ไปเดินดูว่าเกิดอะไรขึ้น เต้นท์นั้นก็คือเต้นท์ที่รุ่นพี่ปากไม่ดีได้นอนอยู่ พอไปถึงก็ได้รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ได้หายตัวไปไหนจากเต้นท์ก็ไม่รู้ คนอื่นก็บอกว่าไปเข้าห้องน้ำหรือเปล่า ด้วยความไม่สบายใจทุกคนก็ได้ต่างกันเดินตามหารุ่นพี่คนนี้กัน ทุกคนได้พยายามหากันอย่างเต็มที่ บริเวณภายในโรงเรียนก็ไม่มีใครเจอ ข้างโรงเรียนก็ไม่มีใครเจอ จนได้มีเพื่อนบางคนเริ่มขี่มอไซต์ตามหารอบๆทางโรงเรียนกัน จนได้ไปเจอรุ่นพี่คนนั้นเข้า เขาอยู่ตรงใต้ถุนบ้านที่อยู่บ้านข้างทาง โดยมีลักษณะขดตัวอยู่และเอามือจิกที่หน้าของตัวเอง พร้อมพูดขึ้นมาว่า “กูไม่ไป กูไม่ไป” จนทุกคนต่างมาช่วยกันเรียกให้เขามีสติกลับมา พอรุ่นพี่มีสติขึ้นมาก็ได้มีการถามว่าเกิดอะไรกันขึ้น
รุ่นพี่คนนี้ได้บอกว่า เขานั้นได้ยินเสียงคนเรียกเขาออกจากเต้นท์ มันเป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็คิดว่าเป็นเสียงของเพื่อนคนอื่นจึงได้เดินตามเสียงนั้นไป พอได้เดินไปเข้าก็ได้เจอกับเหมือนเป็นผู้ชายที่ไม่มีหัวพร้อมกับมีเสียงขึ้นมาอีกว่า “ไปอยู่ด้วยกันเถอะนะ” พร้อมกับวิ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว มันทำให้เขาตกใจและวิ่งหนีออกมาพร้อมกับตะโกนลั่นออกมา ซึ่งมันทำให้เขากลัวจนอยู่ในสภาพอย่างที่ทุกคนได้เห็น พอสุดท้ายแล้วนั้น หลังจากที่จบทริปนี้กัน เขาจึงได้พารุ่นพี่คนนี้ไปวัดเพื่อทำบุญ และเหมือนต่อชะตาของเขา เพราะอาการของเขาตอนนี้เหมือนกับที่คนมักจะเรียกกันว่า ชะตาขาด นั่นเอง…
เครดิต : https://www.joox.com/ เว็บสล็อต