เรื่องเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมากับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เป็นเหตุการณ์ที่ตัวเขาเองนั้นไม่ได้โดนเข้ากับตัวเอง แต่ก็อยู่ในเหตุการณ์โดยตลอด มันเป็นเรื่องที่เป็นการเจอวิญญาณจะจะ โดยตอนนั้นตัวเขาและเพื่อนๆได้เดินทางไปเข้าค่ายพักแรมลูกเสือที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง การเข้าค่ายในครั้งนั้นเป็นการเข้าค่ายที่ใช้เวลาประมาณ 3 วัน 2 คืนในการที่ต้องอยู่ในค่ายแห่งนั้น และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเจอเรื่องน่าขนลุกในครั้งนี้นี่เอง แอดขอเสนอเรื่อง “ค่ายระทึกขวัญ” ขอให้อ่านกันด้วยความสนุกนะครับ…
ในวันที่เดินทางไปค่ายแห่งนี้ ทั้งตัวเขาและเพื่อนๆของเขาก็ต่างรู้สึกสนุกสนานกันอย่างมากตลอดการเดินทาง และพอถึงค่ายที่พักนั้นทุกอย่างก็ดูปกติดี ค่ายไม่ได้มีความน่ากลัวอะไรมากในช่วงแรก ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปอยู่ตามบ้านพักต่างๆที่ปลูกอยู่ตามเชิงเขา แต่ละหลังห่างกันพอสมควร ในคืนแรกสําหรับการเข้าค่ายพักแรมผ่านพ้นไปด้วยดี เพราะต่างคนต่างเหนื่อยจึงหลับกันสนิทตั้งแต่ยังไม่ดึก แต่เรื่องมันก็ต้องเกิดขึ้นในคืนที่ 2 นี่เอง มันเกิดเรื่องขึ้นเมื่อจู่ๆตอนกลางดึกเพื่อนของเขาคนหนึ่งก็ร้องเอะอะโวยวายขึ้นโดยไม่มีเหตุผล มันร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ บอกว่ามีคนแก่นุ่งชุดขาวจะมาทำร้ายมัน เสียงร้องตะโกนของเพื่อนปลุกเขาและเพื่อนของเขาให้ตกใจตื่นขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว พอตื่นก็เห็นมันกำลังนอนดิ้นพราดๆ อยู่ สองมือกุมอยู่ที่ลำคอของตัวเองดวงตาของมันเหลือกลาน เขาและเพื่อนๆจึงต้องเข้าไปช่วยกันจับ ยึดขายึดแขนออกมา จนกระทั่งอาการของมันค่อยสงบลงได้บ้าง พอหลังจากนั้นสักพักเพื่อนคนนี้ก็ลุกขึ้นมาด้วยอาการเหงื่อแตกและมีท่าทีที่เหมือนตกใจกับเหนื่อยผสมกัน
เขาจึงถามเพื่อนว่าเป็นอะไรไป มันบอกว่าขณะที่มันกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่นั้น มันเห็นร่างของชายแก่คนหนึ่งใส่เสื้อผ้าสีขาวมายืนอยู่ปลายเท้าพร้อมกับชี้หน้าต่อว่าด่าทอมันหาว่ามันลบหลู่ดูถูก จากนั้นชายแก่ก็กระโจนขึ้นมานอนทับร่างของมันแล้วใช้มือทําท่าจะบีบคอมัน ด้วยความตกใจมันจึงร้องตะโกนเอะอะด้วยความตกใจหวาดกลัว จนกระทั่งเขาได้ตกใจตื่นขึ้นมาแล้วช่วยกันจับมันก่อนที่มันจะบีบคอตัวเองตายไปจริงๆ ซึ่งเพื่อนบางคนหาว่ามันแกล้งทำ แต่สำหรับตัวเขาที่เป็นคนค่อนข้างเชื่อเรื่องนี้ไม่คิดอย่างนั้นเพราะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอาถรรพณ์เจ้าป่าเจ้าเขามาบ้าง และมีความเชื่อในเรื่องพวกนี้จึงสอบถามเพื่อนว่าก่อนที่จะเข้านอนนั้น มันไปทำอะไรที่ไม่ค่อยเข้าท่าเข้าทางไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่า แต่มันก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร เขาจึงเอาพระที่ห้อยคอของตัวเองมาให้มันคล้องคอกันเหนียวเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงพากันข่มตานอนหลับต่อ
พอเวลาผ่านไปเขามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ครางฮือๆ ดังมาจากด้านนอกหลังบ้านที่พัก เมื่อลืมตาขึ้นมามองดูก็ปรากฏว่าเพื่อนคนเดิมที่ฝันร้ายก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ในที่นอนของมันเสียแล้ว เขาจึงปลุกเพื่อนอีกสองสามคนให้ตื่นขึ้นแล้วพากันถือไฟฉายออกไปดูด้านนอกตามเสียงที่ได้ยิน เขาและเพื่อนพบเพื่อนคนนั้นกำลังนั่งยกมือไหว้ท่วมหัวอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งอยู่ มันนั่งร้องไห้และไหว้อยู่อย่างนั้นเหมือนคนเสียสติ เขาจึงเข้าไปเรียกให้มันกลับเข้าไปในบ้านพัก แต่มันกลับตอบมาว่าไปไม่ได้ “เขาไม่ให้ไป” แล้วก็ร้องไห้อยู่อย่างนั้น
ในตอนนั้นเขาและเพื่อน ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจตามอาจารย์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามา เมื่ออาจารย์ทราบเรื่องจึงได้เรียกทุกคน พากันมาที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น พร้อมกับธูปเทียนในมือ พอมาถึงแกก็จุดธูปอธิษฐานถึงเจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา เขาและทุกคนพากันขอขมาลาโทษ หากมีใครทําผิดพลาดอะไรไป พร้อมกับให้เพื่อนเขาคนที่กำลังยกมือไหว้จุดธูปบอกกล่าวขอขมาด้วย หลังจากนั้นเหตุการณ์แปลก ๆ จึงได้ยุติลง แต่ก็ไม่มีใครหลับลงอีกเลย จนกระทั่งเช้าอาจารย์ได้พยายามชักใช้เพื่อนคนที่โดนว่าได้ไปทำอะไรไว้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นหรือเปล่า คราวนี้เองที่เพื่อนเขานึกขึ้นได้ว่า เขาได้เดินไปปัสสาวะทางที่ใต้ต้นไม้ตอนหัวค่ำ เพราะเขานั้นขี้เกียจที่จะไปเข้าห้องน้ำที่พัก ก่อนจะออกไปเล่นรอบกองไฟและนี่เองที่เป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนี้
ก่อนเดินทางกลับคณะอาจารย์ได้นำพวกเขาทุกคนไปกราบขอขมาเจ้าที่เจ้าทางหรืออะไรก็ตามที่สิงสถิตอยู่ที่นั่น และขอให้คุ้มครองให้พวกเราเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ซึ่งทุกคนต่างก็กระทำตามด้วยความกลัวจากสิ่งที่เจอมาเมื่อคืน และเชื่อถือเป็นอย่างยิ่งเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมานั้นมันยืนยันได้อย่างดีว่าคือของจริงเป็นอาถรรพณ์ที่มีอยู่จริงและไม่ควรที่จะลบหลู่หรือมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะต้นไม้แห่งนั้นก็คงเป็นดั่งสิ่งที่ปกครองที่นั่นมานั่นเอง นี่ก็คือทั้งหมดของเรื่อง “ค่ายระทึกขวัญ” ถ้าชอบหล่ะก็ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ไม่มีขั้นต่ำ
เครดิต : https://www.su-usedbook.com/