เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วคงไม่มีชาวบ้านคนไหนในอำเภอสาก เหล็ก จังหวัดพิจิตร จะไม่รู้จักและขวัญผวาเกี่ยวกับคดีพ่อแม่ลูกถูกคน ร้ายบุกฆ่าด้วยขวาน ทั้งหมดตายพร้อมกัน 3 ศพอย่างน่ากลัว… เพราะนับได้ว่าเป็นคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญในขณะนั้นเลย แต่เรื่องที่ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นพากันกล่าวขวัญและรู้สึกขวัญกระเจิงมากที่สุด ก็คือเมื่อพูดถึงเรื่องของความเฮี้ยนของวิญญาณพ่อแม่ลูกที่ออกมาหลอกหลอนหลังถูกฆาตกรรม ที่ตอนหลังได้กลายเป็นผีเฝ้าไร่คอยหลอกชาวบ้านใกล้เคียงที่เดินทางผ่านไปผ่านมาเป็นประจำ โดยจุดเริ่มต้นเริ่มขึ้นเมื่อมีชายคนหนึ่งมีโอกาสเดินทางไปที่จังหวัดพิจิตรบ่อยครั้ง เนื่องจากอดีตภรรยาของเขาเป็นคนที่นั่น ซึ่งการเดินทางไปสถานที่นี้เอง จึงทำให้ได้ยินเรื่องราวความเฮี้ยนของครอบครัวซึ่งถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดในครั้งนั้น ข่าวลือเรื่องความเฮี้ยนนั้นมีไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว วันนี้แอดขอนำเสนอเรื่อง “ครอบครัวนายแก้ว” ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนะครับ…
เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับบ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราว รายละเอียดเกี่ยวกับความเฮี้ยนของ 3 วิญญาณเหยื่อฆาตกรรมคืนนั้น เขาได้มีโอกาสได้รู้มาจากผู้ที่อยู่ใกล้เคียงมาเกี่ยวกับเรื่องลำดับถึงความเป็นมาและสาเหตุการถูก ฆาตกรรมของครอบครัว 3 พ่อแม่ลูก นายแก้วผู้ที่เป็นพ่อเหมือนดั่งหัวหลักของครอบครัวนี้ได้มาปลูกบ้าน 2 ชั้นอยู่กับภรรยาพร้อมลูกสาว ซึ่งลูกสาวของนายแก้วเป็นเด็กพิการไม่สมประกอบ สมาชิกในครอบครัวของนายแก้วก็มีเพียง 3 คนเท่านั้น ที่อาศัยอยู่ในไร่แห่งนี้มานาน เพราะที่นี่เป็นที่ทางสมบัติเก่าของครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นพ่อ กระทั่งตกทอดมาถึงรุ่นของนายแก้วในที่สุด เมื่อสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น นายแก้วเป็นคนที่ชอบเล่นการพนัน และจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าใดนัก ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า “แก้วผีพนัน”
ในที่สุดการพนันที่นายแก้วชอบนักชอบหนา ต้องมาทำให้ทั้งตัวแก เมียและลูกสาวที่ไม่รู้เรื่องอะไร ต้องมาถูกฆาตกรใจโหดฆ่าด้วยขวานจนตายในคืนหนึ่ง คืนนั้นขณะที่นายแก้วและครอบครัวถูกฆ่าเป็นเวลากลางดึก เป็นเวลาที่ชาวบ้านใกล้เคียงต่างนอนหลับใหลไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว ดังนั้นขณะเกิดเหตุถึงแม้นายแก้วและครอบครัวจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างไรก็ตาม ก็นับว่าช่างเป็นเรื่องยากเสียเหลือเกินที่จะมีใครมาได้ยินเสียง เพราะบ้านของชาวบ้านแต่ละหลังก็ไม่ได้ติดกันเหมือนบ้านในกรุงเทพฯ ท่ามกลางความเงียบสงัดของคืนที่นายแก้วและครอบครัวถูกฆ่า ซึ่งคาดว่าคงจะมีเรื่องหนี้สิน หรือเจ็บแค้นนาย แก้วเกี่ยวกับเรื่องการพนันย่องเข้ามาในบ้านอย่างเงียบกริบ แล้วจัดการ สังหารโหดนายแก้วและครอบครัวอย่างสยดสยอง ก่อนจะหนีหายไปกับความมืด จุดที่คนร้ายได้เด็ดชีวิตเป็นรายแรกก็คือบริเวณชั้นล่างของบ้าน ซึ่งคนที่ถูกฆ่าก็คือภรรยาของนายแก้ว ส่วนรายที่ 2 ซึ่งถูกคนร้ายฆ่าสยอง ด้วยขวานก็คือตัวนายแก้วนั้นเอง เรียกว่าตายคาที่อยู่ตรงบันไดทางจะขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน ก็ได้ยินเสียงข้างบนและได้ฆ่าลูกสาวของนายแก้วทิ้งตามทันที แล้วทุกอย่างก็อยู่ในสภาพเงียบงันเหมือนเดิม
ผู้เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดบอกว่า ยังไม่มีใครมาพบศพ สามพ่อแม่ลูกเลย หลังจากที่เผาศพครอบครัวนายแก้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างภาย ในบ้านก็ถูกรื้อบริจาควัดจนหมด แม้แต่ตัวบ้านก็ไม่เหลือ เพราะปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์มีแต่จะผุพัง และคงไม่มีลูกหลานคนไหนจะมาอยู่ต่อแน่นอน นับตั้งแต่มีการรื้อบ้านของนายแก้วไปถวายวัดหมดแล้ว ความเฮี้ยน ของครอบครัวนายแก้วก็เริ่มต้นขึ้นอย่างน่ากลัว มันได้ขยายไปทั่วหมู่บ้าน เพราะวันดีคืนดี ชาวบ้านที่บังเอิญต้องผ่านหน้าบ้านของนายแก้ว ก็จะเห็นจุดที่เป็นที่ตั้งของตัวบ้านมีแสงไฟเหมือนกับตอนที่บ้านยังอยู่ ส่วนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ก็เคยเห็นนายแก้วมานั่งเล่นอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดหลังบ้าน ซึ่งปกติก่อนตายแกมักมานั่งเล่นเป็นประจำในเวลาพลบค่ำ บางคืนชาวบ้านที่อยู่ติดกับไร่ของนายแก้ว ก็จะได้ยินเสียงเหมือนคนกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ดังมาจากจุดที่เคยเป็นบ้านของนายแก้ว เรียกว่าเสียงประหลาดนี้มีให้ชาวบ้านได้ยินบ่อยๆ จนพากันขวัญผวาไปตามๆกัน
นอกจากนี้ยังมีการเล่าถึงความเฮี้ยนของวิญญาณนายแก้วให้ฟังต่ออีกว่า ไร่ของนายแก้วนั้นปัจจุบันไม่มีใครมาซื้อต่อเพราะกลัวความเฮี้ยน เรียกว่าต้นไม้ต้นหญ้าที่อยู่ภายในไร่กลายเป็นต้นไม้ผีสิงไปเลย เคยมีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งอยากลองของ จะพากันเข้าไปเพื่อเก็บมะม่วงในไร่ตอนกลางคืน พอไปถึงโคนต้นยังไม่ทันขึ้นได้แต่แหงนหน้าขึ้น ไปมอง ก็ต้องร้องตะโกนออกมาดังลั่นแล้ววิ่งป่าราบ เพราะได้พบกับร่าง อันโชกเลือดเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะของนายแก้วและภรรยานั่งห้อยขาจ้องมองลงมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต และหลังจากที่เด็กวัยรุ่นเจอผีเฮี้ยนนายแก้วกับภรรยาหลอกเข้า แบบเต็มตาในครั้งนั้น ก็ปรากฏว่าไม่มีใครกล้าเข้าไปย่างกรายภายในไร่ของ นายแก้วอีกเลย
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมา เป็นเวลานานมาแล้ว เป็นความเฮี้ยนของวิญญาณอาฆาตที่ยังไม่ยอมไปไหน ยังคงวนเวียนอยู่แต่ในสถานที่ ซึ่งเคยเป็นที่ของตน ปัจจุบันไม่ทราบว่าสภาพความน่ากลัวของไร่ครอบครัวนายแก้ว จะยังคงมีความวังเวงชวนขนหัวลุกเหมือนเมื่อครั้งก่อนอยู่อีกหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ เพราะคงไม่มีใครอยากจะไปลองดีอย่างแน่นอน.
เครดิต : www.bookpanich.com