สวัสดีครับทุกคนที่ชอบเรื่องราวของวิญญาณและสิ่งแปลกๆเหนือธรรมชาติที่ไม่สามารถอธิบายได้ วันนี้แอดได้นำเรื่องราวของโรงแรมผีสิงที่มีชื่อว่า โรงแรมผีสิงมิซปาห์ พื้นที่แห่งนี้เชื่อว่าใครหลายๆคนอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน เนื่องด้วยมันเป็นโรงแรมที่อยู่ในเมืองมิซปาห์ที่เป็นเมืองที่คนไม่ค่อยรู้จักกัน แต่สำหรับเรื่องราวน่ากลัวๆนั้น ไม่ได้เงียบเหมือนกับชื่อเมืองเลย ถ้าอยากรู้แล้วว่าเป็นอย่างไร ขอให้อ่านกันให้สนุกนครับ…
โรงแรมมิซปาห์ (Mizpah Hotel) เป็นโรงแรมเก่าแก่ในเมือง Tonopah รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา โดยหนึ่งในโรงแรมที่เป็นสมาชิกของ Historic Hotels of America ซึ่งเป็นโครงการอย่างเป็นทางการของ National Trust for Historic Preservation. มิซปาห์และอาคารเบลวาดาที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งสูงห้าชั้นร่วมกันนั้นเป็นชื่ออาคารที่สูงที่สุดในเนวาดาจนถึงปีค.ศ. 1927 โรงแรมแห่งนี้ตั้งชื่อตามเหมืองที่อยู่บริเวณนั้นที่มีชื่อว่ามิซปาห์เช่นกัน และเป็นศูนย์กลางทางสังคมของโทโนปาห์ โรงแรมแห่งนี้สร้างในช่วงวันปี 1900 โดยเป็นความคิดของ Mizpah Saloon ซึ่งเปิดในปี 1907 และเป็นตึกโรงแรมขนาดใหญ่ที่แข็งแรงที่สุดแห่งแรกใน Tonopah. โรงแรมแห่งนี้ได้รับทุนสนับสนุนจาก George Wingfield, George S. Nixon, Cal Brougher และ Bob Govan และออกแบบโดย George E. Holesworth of Reno, Nevada (แหล่งอื่นระบุว่าสถาปนิกคือ Morrill J. Curtis) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Brougher มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Belmont, Tonopah, Midway และ Tonopah Mining Company และ Tonopah Divide Mining Company Brougher เป็นเจ้าของ Tonopah Banking Corporation ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ล็อบบี้ของอาคารปี 1905 และเป็นผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศอิตาลีในซานฟรานซิสโก โรงแรมแห่งนี้ได้สร้างด้วยคอนกรีตที่เสริมเหล็กและข้างนอกอาคารได้ถูกตกแต่งไปด้วยหินที่ดูมีเอกลักษณ์ที่ด้านหน้าและอิฐที่ด้านข้างและด้านหลัง เสาเหล็กหล่อถูกนำมาใช้ในหน้าต่างและทางหนีไฟ อาคารสามและห้าชั้นเชื่อมต่อกับบันไดไม้ที่ประดับด้วยสกายไลท์ ให้ความร้อนด้วยไอน้ำพร้อมกับลิฟต์ตัวแรกใน Tonopah ทุกอย่างดูหรูหราและเป็นของใหม่ สำหรับใครที่ได้เข้ามาเห็นก็ต่างรู้สึกถึงความดูดี น่าเข้ามาใช้งานหรือมานอนพัก
โรงแรมมิซปาห์ (Mizpah) ได้ถูกเปลี่ยนเจ้าของมามือหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่ง Frank Scott แห่งลาสเวกัส (ผู้สร้างโรงแรม Union Plaza ด้วย) ซื้อมันในปี 1979 สกอตต์ปรับปรุงโรงแรมด้วย “สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยทั้งหมด” ซึ่งทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมสู่ยุคสมัยใหม่ ในขณะเดียวกันก็รักษาความโรแมนติกแบบโบราณที่ดึงดูดให้เขามาที่โรงแรมเป็นครั้งแรก โดยรวมแล้ว งานนี้ใช้เวลา 2.5 ปีและมีค่าใช้จ่ายเกือบ 4 ล้านดอลลาร์[11]
โรงแรมปิดตัวลงตั้งแต่ปี 1999 แต่ในช่วงต้นปี 2011 โรงแรมถูกซื้อโดย Fred และ Nancy Cline แห่ง Cline Cellars เมือง Sonoma รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้ปรับปรุงและเปิดอาคารใหม่ให้กับสาธารณชนในเดือนสิงหาคม 2011 โรงแรมปรับปรุงใหม่นี้มีห้องพัก 47 ห้อง บาร์ และร้านอาหาร 2 แห่งและเพิ่มคาสิโนขนาดเล็กลงในที่พัก
แต่แน่นอนว่าโรงแรมแห่งนี้ก็ต้องมีอีกด้านหนึ่งที่น่ากลัวผิดกับรูปลักษณ์ของโรงแรม โดยโรงแรมแห่งนี้ก็มีตำนานที่ได้ติดตัวคู่มากับโรงแรม นั่นคือโรงแรมแห่งนี้กล่าวว่าเป็นบ้านของผีที่หลายๆคนหรือทุกคนต่างรู้จักกันในนาม ผู้หญิงชุดแดง (Lady in Red) ได้มีทั้งพนักงนที่อยู่ภายในโรงแรมและแขกที่ได้เข้ามาใช้บริการต่างพูดถึงตำนานของผู้หญิงชุดแดงที่อยู่ในโรงแรมนี้กัน โดยแขกของโรงแรมที่มีประสบการณ์ที่ได้เคยพบกับการปรากฏตัวของวิญญาณผู้หญิงชุดแดงนั้น ในตำนานเล่าว่าหญิงชุดแดงเป็นโสเภณีชั้นสูงซึ่งอาศัยอยู่ที่ชั้นบนสุดของมิสปาห์ เธอถูกรัดคอในโรงแรมโดยคนรักจอห์นขี้หึงที่ต้องการให้เธอเลิกงานโดยการเป็นโสเภณีเพื่อเขา เห็นได้ชัดว่าเธอเลือกที่จะไม่ทำ และสุดท้ายก็พบกับชะตากรรมของเธออย่างน่าเศร้าที่อยู่ภายในห้องชั้น 5 นอกจากนี้ก็ยังมีอีกเสียงที่ได้เล่าเรื่องของตำนานผู้หญิงชุดแดง อีกคำอธิบายที่มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางของเหตุการณ์คือ ผู้หญิงชุดแดง ได้เล่นชู้กับแฟนของเธอภายในโรงแรมแห่งนี้ และถูกแฟนของเธอจับได้ภายในที่สุด เธอจึงได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเสียใจกับการกระทำของตัวเองที่มีต่อแฟน โดยการกระโดดตึกฆ่าตัวตายลงมาจากชั้น 5 ของโรงแรมแห่งนี้
แต่เธอไม่ใช่วิญญาณตนเดียวที่หลอกหลอนโรงแรม นอกจากนี้ยังมีทหารนิรนามคนหนึ่งที่เสียชีวิตในโรงแรมและน่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นใคร วิญญาณของทหารตนนี้คอยหลอกหลอนแขกและพนักงานที่นอนพักอยู่ชั้นสามและสี่และเป็นที่รู้จักในนาม ‘ทหาร’ ที่เสียชีวิตที่มิสปาห์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีวิญญาณเด็กสองคนที่หลอกหลอนอยู่ที่ชั้น 3 อีกด้วย วิญญาณเด็กสองคนจะคอยมาๆหายๆใส่กับผู้ที่มาใช้บริการในห้องและโถงทางเดิน แขกของโรงแรมหลายคนรายงาน พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักและเห็นประตูเปิดและปิดด้วยตัวเอง สันนิษฐานว่าคงเป็นวิญญาณของเด็กที่ถูกผู้หญิงโสเภณีทำแท้งไว้ที่โรงแรมแห่งนี้ เพราะว่าที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับที่นัดสำหรับแขกของเหล่าโสเภณีด้วย
สำหรับใครที่คิดว่าโรงแรมแห่งนี้ทำไมยังคงเปิดให้ใช้บริการอยู่ ทั้งๆที่มีเรื่องของวิญญาณออกมามากมาย แต่ทำไมยังคงมีคนเข้าไปใช้บริการกัน นั่นก็คือสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งดึงดูดให้กับคนที่ชอบเรื่องน่ากลัวได้เข้ามาเช่นกันนะครับ สำหรับใครที่ชอบเรื่อง โรงแรมผีสิงมิซปาห์ แบบนี้กัน ก็ขอให้ติดตามกันไปนะครับ รับลองว่าจะมีเรื่องแบบนี้มาให้อ่านกันอีก
เครดิต : https://www.reviewjournal.com/ เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ