มหาลัยนั้นถือว่าเป็นสถานที่มีเรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับความน่ากลัวที่เราอาจจะไม่รู้กัน ซึ่งวันนี้แอดได้นำ 5 ตำนานสยองขวัญของมหาลัยสงขลานครินทร์ มาให้เหล่านักศึกษาที่ชอบเรื่องผีได้รู้กันเกี่ยวกับตำนานต่างๆที่อยู่ภายในมหาลัยนี้ ถ้าอยากรู้แล้วว่ามีอะไรบ้าง อ่านกันให้สนุกได้เลยครับ…
1. ควนมดแดง
ก่อนอื่นเลยนั้นคำว่า “ควน” ของภาษาใต้ก็มีความหมายของภาคกลางประมาณว่าเนินที่มีความสูงขึ้นมาเพียงนิดหน่อย ซึ่งหากมีสถานที่ที่สูงขึ้นเนินขึ้นมาคนใต้เค้ามักจะเรียกกันว่าควน ซึ่งในมหาลัยสงขลานครินทร์นี้ได้มีตึกวิศวะอยู่ตรงที่หนึ่งที่อยู่ข้างในเข้าไปซึ่งข้างๆตัวตึกวิศววะนั่นจะเป็นถนนอยู่สายหนึ่งเป็นถนนเส้นแรกๆที่มีเพียงผู้ที่รู้ทางมักจะเข้าไปใช้กัน ซึ่งมันเป็นทางที่นำไปสู่เส้นเนินที่ว่า “ควนมดแดง” ลักษณะของถนนเส้นนี้นั้นตลอดทางเข้าไปนั้นจะมีลักษณะที่เป็นเหมือนมีป่าประกบอยู่ทั้งสองข้างจึงทำให้ทางถนนนั้นค่อนข้างจะมืดมากในตอนกลางคืนเนื่องจากว่าถนนเส้นนั้นเป็นถนนที่อยู่ลึกเข้าไปและมีแสงไฟเพียงไม่กี่เสาเท่านั้นที่อยู่ในทางถนน
ซึ่งตัวถนนควนมดแดงนี้ได้มีตำนานสยองขวัญอยู่ที่ทำเอาคนที่รู้นั้นก็รู้สึกกลัวและไม่อยากขับรถผ่านถนนเส้นนี้คนเดียวเลย เหล่านักศึกษาของมหาลัยนี้เคยเล่ากันว่า ควนมดแดงนี้ได้เคยมีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งได้เพิ่งเลิกเล่นบอลเสร็จในตอนกลางคืน ซึ่งมันเป็นเวลาที่ดึกมากๆเข้าไปแล้วและตัวเขานั้นได้ใช้ถนนนี้เป็นทางในการกลับ เขาเลือกที่จะเดินกลับในเวลากลางคืนซึ่งมันเป็นอะไรที่มืดมากเพราะบรรยากาศรอบๆก็เต็มไปด้วยแค่ป่ามืดๆ ซึ่งความสว่างที่มีก็มีเพียงแค่มือถือของเขาและเสาไฟที่อยู่ห่างกันมากในแต่ละต้น เขาเดินไปเรื่อยๆจนได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ตรงเสาไฟที่อยู่ตรงทางผ่านที่เขาต้องเดินผ่าน ผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดนักศึกษาและทำท่าใช้มือควักเรียกเขาให้เขานั้นไปหาเธอ และพอเขาเดินไปเพื่อที่จะเจอเธอ ในช่วงที่เธอเงยหน้าขึ้นมานั้นก็ต้องพบว่าใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยเลือดโชกที่อยู่บนใบหน้าเธอและเธอก็ได้วิ่งหนีหายไปในความมืดหลังจากนั้น
วิญญาณของหญิงสาวนักศึกษานั้นอาจจะมาจากเรื่องนี้ก็ได้ เพราะว่าได้มีการเล่าจากคนเก่าคนแก่ที่เคยอยู่แถวๆนั้นเล่ากันว่า บริเวณควนมดแดงนี้ได้เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาสาวคนหนึ่ง ตัวเธอนั้นได้โชคร้ายได้ถูกคนงานแถวนั้นจับตัวเธอไปข่มขืนและฆ่าเธอในหลังจากนั้น ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังสร้างตึกวิศววะพอดีจึงได้มีคนงานอยู่ค่อนข้างเยอะในระแวงนั้น
2. ผีที่ตึกหอ 5
ในเรื่องเกี่ยวกับหอตึก 5 มีการเล่ากันว่าหอตึก 5 แห่งนี้เป็นหอที่ถูกรีโนแวดใหม่อีกทีเพราะในเมื่อก่อนนั้นหอแห่งนี้ได้เคยเป็นโรงแรมเก่ามาก่อน ซึ่งนักศึกษาหลายคนที่ได้เคยเข้าไปพักที่หอแห่งนี้ก็ต่างพูดกันว่ารูปแบบของหอพักแห่งนี้มีความคล้ายคลึงกับโรงแรมอย่างมากและมีการตกแต่งที่เป็นโรงแรมอย่างชัดเจน ซึ่งหอตึก 5 นี้เป็นหอเพียงหอเดียวจากทั้งหมดนั้นที่มีลิฟต์อยู่ภายในตึก ซึ่งหอหญิงอื่นๆนั้นไม่มีลิฟต์อยู่ภายในตึกเลยถ้าสังเกตจริงๆ ซึ่งตัวลิฟต์นี้แหละที่เป็นที่มาของความเฮี้ยนของหอพักตึก 5 นี้ ที่เหล่านักศึกษาของ มอ.พูดกันถึงความเฮี้ยนที่สุดของมหาลัยเขตปัตตานี
เรื่องความเฮี้ยนที่เกิดขึ้นภายในหอตึก 5 แห่งนี้เริ่มที่ช่วงก่อนปิดเทอมของเหล่านักศึกษา วันนั้นเป็นวันปกติที่ได้มีนักศึกษาผู้หญิงคนหนึ่งได้เข้าไปในลิฟต์ตัวนี้เพื่อที่จะขึ้นไปห้องของเธอ แต่ด้วยความดวงซวยของเธอที่อยู่ดีๆลิฟต์ตัวนี้นั้นอยู่ๆก็ได้ค้างอยู่ภายในตึก ซึ่งตัวเธอก็พยายามที่จะเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากข้างนอกแต่ด้วยความที่ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังจะปิดเทอมทำให้หลายๆคนก็ต่างพากันกลับบ้านกันหมดแล้วจึงไม่ได้มีใครมาช่วยเธอที่ติดอยู่ในลิฟต์และมันเป็นอย่างนั้นมาจนถึงเปิดเทอมต่อไป ได้มีภารโรงที่ได้พบกับลิฟต์ตัวนี้ที่กำลังค้างอยู่จึงได้พยายามที่จะเปิดออกมาจนได้เห็นว่า ได้มีศพหญิงสาวที่นอนอยู่ภายในลิฟต์ด้วยสภาพศพที่มีการตายมาเป็นเวลานานจึงทำให้ศพนั้นแห้งไป ภายในลิฟต์นั้นเต็มไปด้วยรอยเลือดที่อยู่รอบๆตัวลิฟต์พร้อมกับรอยเล็บที่เหมือนตัวเธอนั้นพยายามที่จะออกจากลิฟต์ให้ได้ ซึ่งก็ได้มีเศษเล็บเต็มไปหมดตรงบริเวณประตูลิฟต์ ว่ากันว่าหากใครที่ได้ห้องพักที่อยู่ใกล้ๆกับตัวลิฟต์ของตึกนี้นั้นก็ พวกเขาก็มักจะได้ยินเสียงเหมือนโหยหวนขอความช่วยเหลืออยู่บางครั้ง หรือในบางครั้งก็ได้มีนักศึกษาได้เห็นคนเดินออกมาจากลิฟต์ทั้งๆที่ตัวลิฟต์นั้นไม่ได้เปิดให้ใช้งาน นอกเหนือไปจากนี้มีการเล่าอีกว่า เคยมีเหตุการณ์ที่มีนักศึกษาไม่สบายแต่อยู่ดีๆก็มีใครไม่รู้มานั่งเฝ้าไข้ หรือมาเข้ามาเยี่ยมภายในห้องโดยที่ไม่รู้จักกันแท้ๆ
3. ด้ายแดงของอาจารย์ใหญ่
หลายๆคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องเกี่ยวกับด้ายแดงกันมาบ้างแล้ว เรื่องของด้ายแดงนั้นเกี่ยวกับการที่เราจะผูกด้ายแดงให้กับอาจารย์ใหญ่ผู้ที่ซึ่งยอมเสียสละให้ใช้ร่างของพวกเขาในการศึกษาร่างกายของพวกเขา เหล่านักศึกษาแพทย์จึงเรียกกันว่าอาจารย์ใหญ่ ส่วนด้ายแดงนั้นก็คือด้ายที่ผูกตรงข้อมือของร่างของอาจารย์ทุกคน
ซึ่งได้เคยเกิดเรื่องน่ากลัวที่ตึกแพทย์ในมหาลัยแห่งนี้ ได้เคยมีนักศึกษาปี 1 อยู่คนหนึ่งที่ได้เข้ามาเรียนที่ตึกนี้เป็นวันแรกจึงหลงทางและได้ถามยามที่อยู่แถวนั้นเกี่ยวกับทางที่จะไปเรียนและนักศึกษาจึงได้สังเกตว่าที่ข้อมือของยามนั้นมีด้ายแดงผูกอยู่ และนักศึกษาคนนั้นก็ได้ไปตามทางที่ยามได้บอก หลังจากที่เรียนทุกอย่างเสร็จก็ได้คุยกับเพื่อนเกี่ยวกับเรื่องหลงทาง ว่าเขาได้หลงทางมาและได้มียามมาช่วย ซึ่งตัวเพื่อนก็บอกว่าที่ตึกแห่งนี้ไม่มียามประจำอยู่ เขาจึงได้มารู้ทีหลังว่าคนที่ผู้ด้ายแดงนั้นน่าจะเป็นอาจารย์ใหญ่เพราะที่แห่งนี้คนเป็นจะไม่ผูกด้ายแดงกันยกเว้นร่างของอาจารย์ใหญ่
4. วิญญาณพยาบาลสาว
หากใครที่รู้จักมหาลัยสงขลานครินทร์นั้นก็มักจะรู้จักกันว่าเป็นมหาลัยที่มีโรงพยาบาลไปในตัว ซึ่งต่างพูดถึงกันเกี่ยวกับวิญญาณของทั้งคนไข้ที่ได้เสียชีวิตไปที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่มีใครรู้บ้างไหมครับโรงพยาบาลมอ.แห่งนี้ ก็มีวิญญาณของนางพยาบาลเหมือนกันซึ่งเคยมีคนเล่ากันว่าพวกเขาได้เคยเห็นวิญญาณของนางพยาบาลเพียงเพราะว่าพวกเขาแค่อยากลองดีเล่นๆเฉยๆ แค่มองลอดหว่างขาเล่นๆ แต่ปรากฏว่ามันมีวิญญาณของนางพยาบาลจริงๆ ใบหน้าของเธอน่ากลัวมากๆ มันทำให้เขาจำไปถึงทุกวันนี้
5. ช่างทาสีที่หอ 11
ที่หอ 11 ของมหาลัยที่วิทยาเขตแห่งหนึ่งนั้นเคยมีการพูดถึงเกี่ยวกับวิญญาณของช่างก่องสร้างที่เขากำลังทาสีอยู่ที่ชั้น 7 อยู่นั้นและได้พลาดตกลงมาเสียชีวิต ซึ่งหลังจากตัวตึก 11 นั้นเสร็จไป ก็ได้มีเรื่องเล่าจากนักศึกษาว่าพวกเขามักจะได้เห็น ผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาห้อยหัวอยู่ตรงหัวตึกเป็นประจำ และมีเรื่องเล่าอีกว่าวันดีคืนดีพวกเขามักจะเห็นเงาดำมาแวบๆมองๆพวกเขาอยู่แถวๆตึกชั้นบนๆ จากภายนอกของตึก ซึ่งมันไม่มีพื้นที่สำหรับให้คนยืนได้ นี่จึงกลายเป็นตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับความเฮี้ยนในหอ 11 นี้
เป็นยังไงกันบ้างครับกับความน่ากลัวของ 5 ตำนานสยองขวัญของมหาลัยสงขลานครินทร์ สำหรับมหาลัยนี้นั้นต้องบอกได้เลยว่าคนที่อาศัยอยู่ภาคใต้ส่วนใหญ่จะรู้จักกันและต่างพูดกันเกี่ยวกับตำนานต่างๆเหล่านี้ สำหรับเรื่องต่อไปจะเป็นอะไร ขอให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะครับ บรัยบาย…
แนะนำ : สมัครบาคาร่า
ที่มา : www.facebook.com/thaighosthunters, www.horonumber.com, peepeestory.blogspot.com, intrend.trueid.net