“ผีเปรต” เป็นเรื่องจริงหรือแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมา ?

หัวข้อในบทความผี

ตำนาน

ถ้าพูดคำว่า “ผีเปรต” พวกเราก็มักจะได้ยินจากคนเฒ่าคนแก่บอกว่าเป็น ผีที่ตัวสูงเท่าต้นตาล มีลำแขนที่ยาว มือใหญ่เท่าใบลาน ปากเล็กเท่ารูเข็ม อาศัยอยู่ตามวัด ส่งเสียงร้องหวีดเล็กแหลมใครเพื่อขอส่วนบุญ พวกเราก็จะถามกันว่าแล้วทำอะไรถึงจะกลายเป็นผีเปรต ปู่ย่าตายายก็จะคอยสอนว่าพวกเราว่าอย่าเถียงพ่อแม่นะปากจะเล็กเท่ารูเข็ม 

“ผีเปรต” เป็นเรื่องจริงหรือแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมา ? 1

อย่าตีพ่อแม่นะมือจะใหญ่เท่าใบลาน เราก็จะได้ยินกันประมาณนี้ แต่จากประสบการณ์ที่เคยได้ยินมามีคนที่เคยพบเจอผีเปรตคือ ชาวบ้านที่ออกหาปลาในช่วงเวลา เที่ยงคืนครึ่งเดินผ่านไปทางวัด พอเดินไปถึงช่วงท้ายวัดที่เป็นป่าช้าเขาได้ยินเสียงหวีดเล็กส่งเสียงลากยาวจนเสียดหู ชาวบ้านคนนั้นได้หันไปหาต้นเหตุของเสียงว่ามาจากไหนเขาก็ได้พบกับร่างหนึ่งที่ทรงเหมือนมนุษย์ที่มีตัวที่สูงใหญ่

“ผีเปรต” เป็นเรื่องจริงหรือแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมา ? 2

 เขาได้ยืนอยู่ระหว่างขาของผีเปรตตนนั้นพอดี พอเขาได้เห็นเช่นนั้น ทำให้ชาวบ้านผู้นั้นสติแตกวิ่งกลับบ้านนอนจับไข้หัวโกร๋นกันเลย ชาวบ้านที่พบเห็นผีเปรตไม่ได้มีแค่คนเดียว เรื่องราวการพบเจอเปรตถูกเล่ากันมาปากต่อปาก

ตำนาน ความเชื่อ เรื่อง “ผีเปรต” ของคนไทย

สังคมไทยของเรานี้ส่วนใหญ่จะเชื่อว่าผีเปรตนั้นมีอยู่จริง มี ทางพระพุทธศาสนาของเรายืนยัน นอนยันกันเลยว่าผีเปรตมีอยู่จริงเพราะบันทึกอยู่ในพระไตรปิฎก ผีเปรตตามความเข้าใจของสังคมคนไทย ที่มีหลักฐานจะพูดถึง เปรตวัดสุทัศนเทพวราราม จะมีประโยคเด็ดคือ “แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ฯ”  ซึ่งบอกถึงความหมายว่าทั้งสองสถานที่นี้จะมีแร้งกับผีเปรตเยอะ

เนื่องด้วยในยุคเก่านั้นมีผู้คนตายเป็นจำนวนมากด้วยโรคห่า มีการนำศพไปทิ้งไว้เป็นจำนวนมากจนทำให้มี่แร้งมาที่วัดสระเกศเพื่อมากัดกินร่างที่ไร้ชีวิต ส่วนวัดสุทัศน์มีคนเคยเห็นเปรตอยู่ที่วัดซึ่งมีลำตัวสูงเท่ากับเสาชิงช้า ซึ่งในบริเวณนี้จะมีพราหมณ์มาจับกลุ่มอยู่กันเป็นจำนวนมาก ในยุคนั้นในหลวงรัชกาลที่ 6ได้ทรงตรัสเรียก “เปรตสะพานหัน” เอาไว้เรียกพวกขอทาน

“ผีเปรต” เป็นเรื่องจริงหรือแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมา ? 3

ผีเปรต มีความเชื่อต้นกำเนิดมาจากอินเดีย คือพวกเปรตเป็นจำพวกสัตว ในอบายภูมิของคนที่ตายไปแล้ว ภพภูมิของเปรตจะมีผู้ปกครองเป็น มหิทธิกา ลักษณะการแบ่งพวกนี้จะแยกด้วยผลกรรมของแต่ละตนว่าทำกรรมมาแบบไหน มีการจารึกเอาไว้เป็นเปตกถาด้วยซึ่งจะอยุ่ในสที่วัดพระเชตุพนฯแบ่งจำพวกเปรตออกเป็น 12 จำพวกดังต่อไปนี้

  1. วันตาสาเปรตลักษณะของเปรตนี้จะมีความอยากกินน้ำอยุ่ตลอดเวลาแต่ไมสามารถกินน้ำได้ ต้องกินเสมหะ กินเหงื่อ หรือกินของเหลือเดนของผู้อื่น เปรตในตระกูลนี้จะทำกรรมมาจากการที่ตัวเองมีความขี้เหนียว ใครที่มาขออาหาร ก็ไม่ยอมให้แถมยังสบถใส่ทำรังเกียจทำกิริยาไม่ดีใส่เขาด้วยการถ่มน้ำลายใส่ ไม่เคารพในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
  2. กุณปขาทาเปรต = เปรตที่อยู่ด้วยการกินซากศพ อุบัติเป็นเปรตเนื่องด้วยชาติที่แล้วมีตระหนี่ไม่บริจาคไม่มีความเคารพในการให้ทาน
  3. คูถขาทาเปรต = เปรตตระกูลนี้จะกินอุจจาระเป็นอาหาร กรรมที่ทำชาติที่แล้วมีความขี้เหนียวกับญาติของตนเอง ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้นแถมขับไล่อีกด้วยการด่าหยาบคายด้วย
  4. อัคคิชาลมุขาเปรต = ลักษณะจะมีไฟลุกที่ปากเกิดการเจ็บปวดตลอดเวลา กรรมที่ทำมาจากชาติที่แล้วมีความตระหนี่ แกล้งคนอื่นด้วยการให้ของร้อนคนที่มาขออาหารกินทำให้ได้ความทุกข์
  5. สุจิมุขาเปรต = ลักษณะร่างประหลาดท้องจะใหญ่คอจะยาวปากเท่ารูเข็มกินอะไรไม่ได้ กรรมที่ทำด้วยไม่เคยทำบุญตักบาตร แถมจะยุให้คนอื่นทำตามตนด้วย
  6. ตัณหาชิตาเปรต = เป็นเปรตที่กระหายน้ำตลอด เห็นบ่อหรือสระก็จะวิ่งไปด้วยอาการดีใจแต่พอไปถึงบ่อน้ำนั้นจะหายไปกลายเป็นเลือด กรรมที่ทำชาติที่แล้วมีความหวงน้ำไม่ให้ใครได้ใช้ดื่มกิน
  7. นิชฌามักกาเปรต = เปรตที่ร่างกายมีแต่กระดูก ตัวเหม็นมือเท้าหงิก มีเขี้ยวงอกอยุ่สถานที่เดิมไปไหนไม่ได้ กรรมที่ทำชาติก่อนมีจิตใจที่หยาบคายจิตอกุศล เกลียดคนมีศีล เบียดเบียนคนแก่ ฆ่าท่านทำให้ตกใจเพื่อจะได้ครองสมบัติ
  8. สัพพังคาเปรต = เป็นเปรตที่เล็บมือเท้ายาวคมเหมือนอาวุธ มีไว้เพื่อข่วนร่างกายตัวเองให้เป็นอาหารตัวเอง กรรมที่ทำมาชาติที่แล้วเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบชาวบ้าน รังแกพ่อแม่ตัวเองจากการหยิกข่วน
  9. ปัพพตังคาเปรตเป็นเปรตที่ร่างกายสูงใหญ่เหมือนภูเขา กายเหมือนถูกไฟคอกตลอดเวลา ต้องนอนกลิ้งเพื่อให้ไฟดับบ้างเพราะได้รับความทุกแสนสาหัส กรรมที่สร้างชาติที่แล้ว เป็นคนที่เผากฏิ เผาบ้าน เผาโรงเรียน
  10. อชครเปรต = เป็นเปรตร่างสัตว์เดียรัจฉาน ซึ่งร่างจะถูกเผาไหม้ตลอดเวลา ทำกรรมจากเมื่อเห็นนักบวชจะมีการด่าหรือเปรียบเทียบท่านเป็นสัตว์ ไม่ให้ทาน
  11. เวมานิกเปรต = เป็นเปรตที่มีวิมารเป็นของตัวเอง เป็นเทวดาในตอนกลางวัน กลางคืนเป็นเปรต กรรมที่ทำชาติที่แล้ว เป็นคนที่ทำบุญเยอะแต่ไม่รักษาศีลควบคู่ไปด้วย มีข้อสงสัยในบุญบาป
  12. มหิทธิกาเปรต = เปรตที่มีฤทธิ์เหมือนเทวดาแต่มีความหิวโหยตลอดกินสิ่งสกปรกเป็นอาหาร กรรมที่ทำชาติที่แล้วเป็นนักบวชแต่มีจิตใจที่มีความโลภ โกรธ หลง ไม่บำเพ็ญตามวิสัยของบรรพชิต

ที่มาข้อมูล

https://th.wikipedia.org/

เรื่องเล่าผีล่าสุด
Tag ผี
Annabelle (1) ข่าวผี (11) คำสาปบนดอยสูง (1) คืนพุธมุดผ้าห่ม (1) ตำนาน (122) ตำนานสยองขวัญทั่วโลก (1) ตำนานสยองทั่วโลก (2) ตึกร้างสยอง (1) ตุ๊กตาผี (1) น้ำตกไพรสวรรค์ (1) บูกี้แมน (1) บ้านร้างในประเทศไทย (1) ปราสาทผีสิง (1) ป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ (1) ผีกระสือ (1) ผีกระหัง (1) ผีญี่ปุ่น (2) ผีต่างประเทศ (61) ผีที่คนเจอบ่อยที่สุด (1) ผีอาเซียน (1) ผีฮานา (1) ภาพติดวิญญาณ (3) ภาพถ่ายติดวิญญาณ (3) มหาลัยสยองขวัญ (4) วิญญาณเฮี้ยนในจังหวัดตาก (1) วิธีการเห็นผี (1) ศุกร์ที่ 13 (1) สถานที่หลอน (48) สยองขวัญจากพันทิป (1) สไตล์การปรากฏตัวของผี (1) หนังผีไทย (1) ฮาจิซาคุ (1) เก้าอี้ผีสิง (1) เทเค เทเค (Take Take) (1) เรื่องผี (15) เรื่องเล่าผี (230) แฟรงเกนสไตน์ (1) โรงเรียนผี สุดหลอนของไทย (1) โรงเรียนหลอน (3) โรงแรมหลอน (2)