ประวัติ : พญายมราช ผู้ปกครองยมโลก ยับยั้งกรรมชั่ว เทพเจ้าแห่งความตาย 

หัวข้อในบทความผี

พญายมราช

คนไทยล้วนแล้วแต่มีความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้เฒ่าผู้แก่บอกสืบทอดบอกต่อกันมา สถานที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจของชาวไทยเราคือวัด พวกเราถ้าดวงตกไม่สบายใจสิ่งแรกที่คิดคือไปทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลจะได้พบเจอสิ่งที่ดีๆ พ่อแม่ปู่ยาตายายพวกเราก็จะคอยสอนว่า ทำดีไว้นะลูกจะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าลูกทำชั่วจะตกนรกนะ เราจะโตมากับความเชื่อนี้ ถ้าทำดีจะสบาย ทำชั่วต้องไปเจอท่านพญายมไปรับโทษทุกข์ทรมาน

แล้วท่านพญายมท่านเป็นใคร ในความคิดจินตนาการของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันแต่สิ่งที่น่าจะเหมือนกันคือพกวเราจะคิดว่าท่านดูดุร้ายท่านดูน่ากลัว น่าเกรงขามเป็นอย่างมากและท่านก็เป็นผู้ตัดสินชี้คนจะให้ลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ก็ย่อมได้แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ ท่านพญายมราชกันดีกว่าว่าท่านเป็นใครกันแน่

ประวัติ:- พญายมราช

พญายมราช เป็นเทพเจ้าแห่งนรกภูมิ ท้าวจตุโลกบาลแห่งทิศทักษิณ ท่านมีลักษณะวรกายเป็นสีแดง ท่านจะทรงเครื่องกษัตริย์ ทางด้านขวามือที่พระหัตถ์ท่านจะถือบ่วงยมบาศก์(ใช้จับมัดวิญญาณ) ส่วนในทางด้านซ้ายที่พระหัตถ์ของท่านจะถือไม้ท้าวยมทัณฑ์ พาหนะที่ท่านทรงเป็น อหิงสาท่านมีใบหน้าที่ดูนิ่งๆและมีความดุดันเป็นอย่างมาก ท่านมีหน้าที่เป็นผู้พิพากษาดวงวิญญาณที่สิ้นอายุขัย และท่านปกครองดวงวิญญาณทั้งหมดในนรกภูมิ 

พญายมราชตามความเชื่อของทางอินเดีย ท่านจะมีชื่อว่า “ยมราช” ท่านเป็นบุตรของพระอาทิตย์กับพระนางศรัณยา ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย ผู้ปกครองนรกภูมิหรือยมโลก ท่านมีความเที่ยงธรรมเป็นอย่างมากในการพิพากษาอย่างเป็นธรรม ท่านเป็นผู้มอบผลแห่งกรรมของแต่ละวิญญาณนั้นๆที่มีผลตอนมีชีวิตอยู่บนโลก พระยม มีอีกความเชื่อหนึ่งว่า ก่อนที่ท่านจะมาเป็นพญายมราชนั้น ท่านเคยเป็นกษัตริย์อยู่ที่กรุงโกศัมพี แคว้นไวศาลี

ท่านเป็นกษัตริย์ที่ชอบทำสงคราม ก่อนท่านจะสิ้นชีวิตได้อธิษฐานไว้ว่า เมื่อตนเองตายลงไปแล้วขอให้ไปเกิดใหม่เป็นพระยม พญายมราชถึงท่านจะเป็นผู้พิพากษาแต่ท่านต้องรับกรรมเช่นกันโดย ท่านต้องกินน้ำทองแดงเป็นระยะ 3 เวลาต่อ 1 วัน ถ้าท่านหมดสิ้นถึงกรรมที่ได้เคยก่อแล้ว ท่านจะได้กำเนิดใหม่ได้เป็นท้าวสมันตราช

ท่านเคยเป็นมนุษย์ก่อนสมัยพระพุทธกาล ท่านเป็นผู้นำหมู่บ้าน วันหนึ่งได้มีเหตุการณ์ฆ่ากันตายที่หมู่บ้าน ท่านได้สอบสวนแล้วไม่มีใครยอมรับผิด ท่านจึงได้ใช้วิชาที่ได้เรียนมา ท่านได้เสกแป้งฝุ่น ได้โปรยออกไป ได้บังเกิดรอยเท้าผู้กระทำผิดท่านได้เดินตามรอยเท้าคนร้ายไปปรากฏว่าคนร้ายผุ้นั้นเป็นบิดาของท่านเอง ท่านเสียใจเป็นอย่างมาก ท่านพิจารณาด้วยความเป็นธรรมเป็นที่สุด

ท่านได้สั่งประหารชีวิตบิดาตนเอง สิ้นสุดคดี ท่านก็ได้ลาออกจากตำแหน่ง ออกจากหมู่บ้านไปบวชเป็นสายพระป่า เดินธุดงค์ไปจนเสียชีวิตไปเพียงลำพัง จะเห็นได้ว่าท่านมีความเที่ยงธรรม ท่านไม่บอกแก่ใครก็ได้เพราะจะไม่มีใครรู้เลยแต่ท่านก็เสียสละถึงที่สุด เมื่อท่านเสียชีวิต เหล่าบรรดาเทวดาได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นท้าวพญายมราช

ลักษณะของพญายมราช

ลักษณะของพญายมราช

ผิวกายของท่านท้าวพญายมราชจะเป็นสีแดงสเหมือนสีดวงอาทิตย์ทรงเครื่องอาภรณ์นุ่งห่มสีแดง ท่านจะทรงเครื่องประดับสีทอง มีอหิงสาเป็นพาหนะบ่งบอกถึงความเป็นผุ้ปกครองนรกภูมิ ท่านมีนัย ตาสีแดงดูน่าเกรงขามอาวุธของพญายมราช ได้แก่บ่วงยมบาศ และชิ้นที่สองคือ กระบองยมทัณฑ์

บริวารของพญายมราช

1. พระกาฬไชยศรี 

เป็นผู้ส่งสารแห่งความตาย บริวารท่านพญายมหรือเป็นเทพที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาบ้านเมือง(ทำหน้าที่เดียวกับพระเสื้อเมืองพระทรงเมือง)ท่านจะออกตรวจดูแลบ้านเมืองโดยการทรงนกแสก ถ้าเจอผุ้ที่สิ้นชีพก็จับมาส่งให้พญายมพิพากษาทั้งสองพระองค์ท่านมีรูปสักการะที่อยู่ในศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ ท่านยังมีผู้ช่วยได้แก่

  • ยมทูต – มีหน้าที่นำพาดวงวิญญาณลงมาที่ยมโลกให้พญายมพิพากษา
  • ยมบาล – มีหน้าที่นำพาวิญญาณที่ถูกตัดสินแล้วไปลงโทษตามคำสั่งพระยม

2. พระเจตคุปต์

เป็นบริวารของท่านพญายมราช เป็นเทวดาองค์หนึ่ง(ศาสนาฮินดู) หน้าที่รักษาทะเบียนการกระทำทุกชีวิตที่อยู่บนโลก(ตั้งแต่เบื้องสูงจนถึงเบื้องต่ำ) ท่านจะคอยอ่านประวัติของผู้สิ้นชีพให้พญายมได้ตัดสินตามความผิดชอบชั่วดีของบุคคลนั้นๆ ท่านผุ้ช่วยที่จะจดบันทึกกรรมของดวงวิญญาณได้แก่

  • สุวัณ – ผู้จดบันทึกกรรมดี ลงสมุดทองคำ
  • สุวาณ – ผู้จดบันทึกกรรมชั่ว ลงสมุดหนังหมา
การบูชาพญายมราช

การบูชาพญายมราช

การแสดงความเคารพบูชาพญายมราชให้ทำการบูชาในช่วงเช้า โดยเตรียมธูป ข้าวตอก เตรียมดอกไม้ที่มีสีแดง พร้อมพวงมาลัยที่เป็นดอกดาวเรือง ข้าวสวย อาหารอีก 3 อย่าง เตรียมขนม ของหวาน อย่าลืมผลไม้สัก 3 อย่าง ธงสีแดง 7 ผืนและแพร(สีแดง)  จำนวน 3ผืน สุดท้ายเตรียมตุ๊กตานกแสกหรือจะเป็นตุ๊กตาควาย ให้สวดนะโม 3 จบตามด้วย 

“ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุตติ จิตตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ”

การสวดคาถาบูชานี้ไม่จำเป็นต้องจุดธูปก็ได้แต่ถ้าจะจุดธูปดำใช้ทั้งหมด 2 ดอก

  • 2 จบ – ขับไล่ภูตผีปีศาจ ไล่คุณไสย์
  • 5 จบ – เพื่อเป็นบุญให้แก่ผู้เสียชีวิต
  • 7 จบ – เพื่อสุขภาพ แคล้วคลาดอุบัติเหตุ
  • 9 จบ – เพื่อความสำเร็จ ขอความเจริญก้าวหน้า
  • 11จบ – เพื่อแก้ของดำคุณไสย์
  • 39จบ – เพื่อขอความช่วยเหลือชนิดเร่งด่วน

ที่มาข้อมูล

Kapook.com

เรื่องเล่าผีล่าสุด
Tag ผี
Annabelle (1) ข่าวผี (11) คำสาปบนดอยสูง (1) คืนพุธมุดผ้าห่ม (1) ตำนาน (122) ตำนานสยองขวัญทั่วโลก (1) ตำนานสยองทั่วโลก (2) ตึกร้างสยอง (1) ตุ๊กตาผี (1) น้ำตกไพรสวรรค์ (1) บูกี้แมน (1) บ้านร้างในประเทศไทย (1) ปราสาทผีสิง (1) ป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ (1) ผีกระสือ (1) ผีกระหัง (1) ผีญี่ปุ่น (2) ผีต่างประเทศ (61) ผีที่คนเจอบ่อยที่สุด (1) ผีอาเซียน (1) ผีฮานา (1) ภาพติดวิญญาณ (3) ภาพถ่ายติดวิญญาณ (3) มหาลัยสยองขวัญ (4) วิญญาณเฮี้ยนในจังหวัดตาก (1) วิธีการเห็นผี (1) ศุกร์ที่ 13 (1) สถานที่หลอน (48) สยองขวัญจากพันทิป (1) สไตล์การปรากฏตัวของผี (1) หนังผีไทย (1) ฮาจิซาคุ (1) เก้าอี้ผีสิง (1) เทเค เทเค (Take Take) (1) เรื่องผี (15) เรื่องเล่าผี (230) แฟรงเกนสไตน์ (1) โรงเรียนผี สุดหลอนของไทย (1) โรงเรียนหลอน (3) โรงแรมหลอน (2)