ไม่มีใครหรอกที่ไม่กลัว “ผี” ถ้ามาคุยกันถึงสิ่งลี้ลับประเภทนี้แล้ว พวเราก็คงจะเคยได้ยินชื่อ “ผีกระสือ” ทุกคนต้องบอกพร้อมกันเลยว่า “รู้จัก” ภาพลักษณ์ของผีกระสือคือต้องมีส่วนหัวและตามมาด้วยไส้ มีแสงเป็นของตัวเองอีกด้วยพวกมันจะล่องลอยออกหาอาหารในยามกลางคืน แต่ทุกคนคงคิดว่าผีกระสือมีแต่บ้านเราใช่มั้ย บอกได้เลยว่าไม่ใช่
ความจริงแล้วผีชนิดนี้ในแถบภูมิภาคเซาท์อีสท์เอเชียยังคงมีตำนานอยู่อีกมากที่มีผีในนั้นมีลักษณะภายนอก และการใช้ชีวิต การออกหากินของพวกมันจะออกคล้ายกับผีกระสือในประเทศไทยบ้านเราเป็นอย่างมาก วันนี้เรามานำเสนอ ผีที่มักชอบทำการปรากฏร่างคอยตามหลอกหลอนผู้คน ชื่อของมันก็คือ “มานานังกัล” (Manananggal) หนึ่งในตำนานผีที่โด่งดังที่สุดในของชาวประเทศฟิลิปปินส์
ความเชื่อ “มานานังกัล” ผีกระสือแห่งฟิลิปปินส์
“มานานังกัล” เรามาดูความหมายของชื่อนี้ก่อนคือการถอดคำด้วยภาษาตากาล็อก (ภาษามาลายู) จะได้ความหมายว่า “แยกร่าง” หรืออาจแปลว่า “ถอด” ออกจากกันโดยไม่เสียชีวิต มานานังกัล ตามความเชื่อของชาวฟิลิปปินส์ตั้งแต่ยุคเก่าก่อน พวกมันเป็นหนึ่งสายพันธ์ของปีศาจอัสวังผีที่โหดสุดมีวิธีฆ่าเหยื่อสุดสยองที่สุดตามความเชื่อผีในตำนานชาวฟิลิปปินส์
มานานังกัล เป็นปีศาจอัสวังที่ถือว่าเป็นสายบวก ให้เข้าใจกันง่ายๆคือสายออกล่าเหยื่อ พวกมันสามารถถอดร่างให้กลายเป็นสองท่อน เพื่อเพิ่มความสะดวกในการออกล่า มีความเชื่ออีกหนึ่งคือ พวกมันเป็นผีที่อยู่ในสาย “ผีดูดเลือด” หรือคือจำพวกแวมไพร์ จึงมีคำนิยามว่า ผีกระสือในคราบแวมไพร์ หรือ แวมไพร์ที่กินเนื้อที่คอยหากินในเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
กำเนิด /ลักษณะ “มานานังกัล” แวมไพร์ผสมกระสือ
การถือกำเนิดของ “มานานังกัลป์” ตามการศึกษาในยุคปัจจุบันนี้จะมีประวัติการกำเนิดของพวกมันไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่ชาวฟิลิปปินส์มีความเชื่อว่า ผู้คนที่จะกลายเป็นผีมานานังกัล มักจะเกิดจากผู้ที่มีเวทย์มนต์สายดำเป็นประเภทพิเศษ และพวกมันจะทำการเจิมตัวเองกับน้ำมัน จากการกระทำที่กล่าวมายังไม่กลายเป็นมานานังกัลได้ถ้าไม่มี “ลูกเจี๊ยบสีดำ” ไว้เป็นที่ครอบครองอีกด้วย
ความเชื่อคือคนที่จะกลายเป็นมานานังกัลที่สมบูรณ์ ลูกเจี๊ยบที่พวกมันครอบครองนี้ไม่ได้อยู่ในร่างพวกมันเฉยๆนะ ลูกเจี๊ยบสีดำนี้จะคอยจิกกัดกินอวัยวะที่อยู่ภายในร่างกายของมานานังกัลจนกว่าร่างของพวกมันจะไม่มีอะไรให้กินแล้วต้องตายไป การที่จะตรวจสอบว่าใครจะเป็นมานานังกัลป์นั้นดูได้ไม่ยากเลย ถึงแม้ผีปะเภทนี้ในเวลากลางวันจะเหมือนมนุษย์ที่ใช้ชีวิตปกติธรรมดาเหมือนคนทั่วไป
ถ้าสังเกตให้ดีจะมีความแตกต่างคือพวกมันจะไม่เข้าสังคมหรือพวกมันจะมีลักษณะที่แปลกเวลาพูดคุยกับคนธรรมดาจะไม่สบตา พวกมันจะมีอาการเหมือนคนดูอ่อนแรง ชนิดที่พูดได้ว่าเหมือนคนป่วยเลยก็ว่าได้ ไม่มีความสดชื่นเหมือนคนปกติทั่วไป แต่พวกมันจะไปมีแรงในยามกลางคืน อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นลักษณะพิเศษของพวกมันเลยก็คือ
มานานังกัลป์ เป็นเพศหญิงที่น่าหน้าดีแต่กลับจะมีกลิ่นตัวที่ออกสาปอยู่เสมอๆ ดูสวยแต่ทำไมต้องปล่อยให้ตัวสกปรกมีกลิ่นตัวเหม็นได้ขนาดนี้ นั้นก็คือมานานังเกล ทุกๆ 3-5 วันพวกมันจะออกหากินในยามกลางคืน พวกมันจะถอดร่างออกเป็นสองท่อน พวกมันจะต้องทำการเปลือยกายจนเห็นจขนที่ขึ้นเต็มตัว ตาของพวกมันจะโตเบิกกว้าง มีเขี้ยวที่ยาวเล็กแหลม
พร้อมมีปีกที่ดูคล้ายกับปีกค้างคาวขนาดใหญ่อยู่ในด้านหลังเพื่อบินออกหากิน ส่วนที่ถอดออกจะเป้นส่วนหน้าอกลงไปถึงด้านล่าง ส่วนด้านบนออกหากิน ดูคล้ายกับผีกระสือของประเทศไทยแต่มานานังเกลจะร้ายกว่าเพราะพวกมันจะมีสองแขนสองมือครบ ระยะที่ออกหากินได้เพียง 5-10 เมตรเท่านั้นพวกมันจะมีต่อมรับกลิ่นประจำเดือนที่ไวมาก ถ้าพวกมันได้กลิ่นแล้วก็จะไปที่พักของเหยื่อ พวกมันจะร่ายมนต์สะกดเหยื่อก่อน
แล้วทำการใช้ลิ้นที่ยาวสอดไปตามรอยแยกรอยแตกของผนังไม้เพื่อกินเลือดที่เป็นประจำเดือนของเหยื่อสาวนั้น อาหารจานโปรดของมันยังมีอีกคือ “เด็กทารก” ที่เพิ่งคลอดใหม่ๆหรือจะอยู่ในครรภ์ก็ได้ ถ้าเหยื่อของมันเป็นเด็กทารก พวกมันจะใช้ลิ้นทำการเจาะผิวเด็กเพื่อดูดเลือดจบการฆ่าด้วยควักหัวใจออกมากิน จนทารกตายลง พวกมันมักจะกลัว น้ำมัน กระเทียม น้ำส้มสายชู หอมหัวใหญ่
สรุป มานานังเกล ผีกระสือแห่งฟิลิปปินส์
จากผลของการศึกษา มานานังกัล ผีของชาวฟิลิปปินส์มีการกลายร่างและอาหารออกคล้ายกับผีกระสือของประเทศไทย ชาวฟิลิปปินส์ตามความเชื่อพวกมันจะจัดอยู่ในกลุ่มผีดูดเลือด (แวมไพร์)ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์มากกว่า เนื่องจากภาพรวมของพวกมันกลัวกระเทียมและเกรงกลัวเกลือ น้ำมนต์ แถมยังมีจุดอ่อนที่โดนแสงแดดแล้วพวกมันจะอ่อนแรงคล้ายกับพวกผีแวมไพร์นั้นเอง
ที่มาข้อมูล