“ผีโป๊กกะโหล้ง” หรือ “ผีปักกะโหล้ง” นี่คือชื่อของผีล้านนาโบราณมีได้มีการเล่าขานกันจนเป็นตำนาน พวกมันเป็นหนึ่งในตระกูลผีป่าทำหน้าที่คอยปกป้องพื้นป่า หน้าตาพวกมันลักษณะที่ดูมีความประหลาดเป็นอย่างมาก ผีโป๊กกะโหล้งพวกมันมักจะคนที่ทำความดีตอบแทนพวกเขาด้วยการให้โชคลาภเงินทอง แต่ถ้าได้พบเห็นคนชั่วพวกมันก็ไม่ปล่อยไว้เช่นกัน
ความเชื่อ “ผีโป๊กกะโหล้ง”
ความเชื่อของกำเนิดของ “ผีโป๊กกะโหล้ง” มีหลากหลายความเชื่อเป็นอย่างมากแล้วแต่ละถิ่นฐานพื้นที่นั้นๆว่ามีความเชื่อเช่นไร ยกตัวอย่างมีเรื่องเล่าขานกันมาว่า “ผีโป๊กกะโหล้ง” เป็นเด็กที่ถูกปล่อยไปอยู่ภายในป่า ในสมัยก่อนผู้คนไม่มีการคุมกำเนิดจึงได้มีลูกมาก แต่ถ้าพ่อแม่คนไหนที่เลี้ยงลูกไม่ไหวก็จะมาปล่อยตัวเด็กไปอยู่ภายในป่า เด็กที่ถูกปล่อยก็ต้องอยู่อาศัยในป่าไปตามยถากรรม
เด็กพวกนี้ถ้ามีชีวิตรอดก็ต้องปรับให้มีตัวที่เข้ากับสภาพของป่าจะอยู่เหมือนลิงชนิดหนึ่ง มีขนเป็นสีดำ บ้างว่ามีตาข้างเดียว บ้างว่าพวกมันจะเดินกะเผลกสามารถเคลื่อนที่ด้วยการโหน เด็กพวกนี้จะมีอำนาจลึกลับ ลักษณะในการเดินของพวกมันเดินขาไม่เท่ากันและจะร้องเสียงออกมาว่า “โป๊กกะโหล้ง” มีอีกความเชื่ออีกกระแสหนึ่งว่า “ผีโป๊กกะโหล้ง” ดั้งเดิมเขาเคยเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในพื้นป่า
ชายผู้นี้อยู่กับธรรมชาติและไม่ตัดผมปล่อยให้ยาวรุงรังทั้งผมทั้งหนวด เขาจะออกหากินไปตามธรรมชาติโดยมีภาชนะคู่ใจเป็นกะลาแห้งมีอีกชื่อหนึ่งคือ “โป๊กกะโหล้ง” เพื่อเอาไว้ใส่อาหาร พอเชาได้เสียชีวิตลงไป ก็จะกลายมาเป็นภูตผีคอยพิทักษ์ดูแลรักษาป่าไม้พงไพรตามเวรกรรมที่เขาเคยทำมา
ลักษณะภายนอก “ผีโป๊กกะโหล้ง”
มีผู้คนเคยเห็นว่า”ผีโป๊กกะโหล้ง” จะปรากฏให้เห็นเป็นชายแก่ที่มีลักษณะผมยาวหนวดยาวรุงรัง หน้าตาของพวกมันจะดูประหลาดซึ่งมีความต่างกันรูปแบบเฉพาะตัว บางก็มีตาเดียว บางก็มีขาเดียว ไม่เหมือนกันแต่ละตัว “ผีโป๊กกะโหล้ง” สามารถจำแลงแปลงกายได้ด้วย พวกมันมักจะมีเครื่องดนตรีคือ พิณเปี๊ยะ ของทางภาคเหนือไว้ข้างกายตลอดเวลา
บางความเชื่อก็ว่าพวกมันจะพกเป็นน้ำเต้า หรือไม่ก็ไม้เท้าแต่ละถิ่นฐานมีความเชื่อที่ต่างกัน ผีโป๊กกะโหล้งมักจะเคลื่อนที่ด้วยการโหนไปตามกิ่งไม้เหมือนพวกมันเป็นลิงประเภทหนึ่ง และพวกมันมักจะมีพลังลึกลับเป็นอำนาจวิเศษ พวกมันชอบให้โชคลาภทรัพย์สินเงินทองแก่คนดี และในขณะเดียวกันก็ให้โทษจะทำร้ายคนชั่วได้ด้วยเช่นกัน
“ผีโป๊กกะโหล้ง” เป็นผีดี หรือ ผีชั่วร้าย
ด้วยตามนิสัยของพวก “ผีโป๊กกะโหล้ง” ที่เป็นผีคอยดูแลป่าไม้ ถ้าใครมาบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าหรือมีทำร้ายรังแกฆ่าสัตว์ที่อยู่ภายในป่า ผีโป๊กกะโหล้งก็จะทำร้าย ไล่ล่าฆ่าชีวิตคนนั้น บางว่าอาวุธที่พวกมันมีไว้คู่ใจไล่ล่าฆ่าคนคือกะลาหรือโป๊กกะโหล้ง และการปรากฏร่างกายพวกมันพร้อมกับเสียงร้องของพวกมันว่า “ปัก..กะโหล้ง ปัก..กะโหล้ง”
ถ้าใครที่ต้องมีภารกิจสำคัญจำเป็นต้องเข้าไปในป่า ก็อาจจะโดยพวกผีโป๊กกะโหล้งแกล้งบังตาก็เป็นได้เช่นกัน ถือว่าผีพวกนี้ก็ชอบแกล้งคนที่เข้าป่า ถ้าหากใครที่เข้าป่าแล้วมาตะโกนส่งเสียง พวกมันก็จะแกล้งเลียนแบบเสียงตะโกนรับ เพื่อหลอกคนรอส่งเสียงขานรับให้เขาหลงเป้าหมายหรือทิศทางจนอาจคาดกันกับเพื่อน ดังนั้นสมัยก่อนจึงไม่ค่อยมีใครที่ส่งเสียงดังภายในป่านั้นเอง
วิธีขับไล่และป้องกันจาก “ผีโป๊กกะโหล้ง”
วิธีที่จะเอาไว้ขับไล่พวกผีโป๊กกะโหล้งนี้ เป็นความเชื่อของชาวล้านนา พวกเขาจะมีคาถาคอยขับไล่ซึ่งเป็นคาถาจะ “หลวงปู่เส็ดคำลัวะ” คาถานี้เป็นที่นิยมสำหรับชาวล้านนาเป็นอย่างมาก คาถานี้ไม่ได้มีขับไล่แค่ผีโป๊กกะโหล้งเท่านั้น คาถานี้ยังสามารถขับไล่ได้ทุกภูตผีทุกประเภทเลยก็ว่าได้ที่อยุ่ภายในป่า คาถามีอยู่ว่า “แซวเด็ดแด้วแม่….ก้อนจ้อ หง่อนจ๋อ…..อมสวาห้ะเท้ก”
วิธีใช้งานคาถานี้ ถ้าเกิดวันดีคืนดีได้เจอยินเสียง “ปัก..กะโหล้ง ปัก…กะโหล้ง” ดังมาไม่ว่าทางไหน ให้เอา “ฟืนซากไฟ” ขึ้นมาปลุกเสกด้วยคาถาขับไล่ผีที่กล่าวมาข้างต้นนั้น พอทำการปลุกเสกเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าผีโป๊กกะโหล้กปรากฏร่างกายให้เห็นให้นำ ฟืนซากไม้ทำการปาขว้างใส่พวกมันให้สุดแรงเกิดเพื่อเป็นการขับไล่พวกมันให้ไปจากเรา พวกมันจะกลัวทันที
บทสรุป “ผีโป๊กกะโหล้ง”
“ผีโป๊กกะโหล้ง” ถือว่าเป็นเหมือนกับผู้ที่คอยดูแลผื่นป่าไม่ให้ใครมาทำมิดีมิร้ายกับป่าแห่งนี้ คอยจัดการคนที่มาหาผลประโยชน์ตัดไม้ทำร้ายป่าหรือจะมาฆ่าสัตว์เพื่อแสวงหาผลกำไร ไม่ได้ทำเพื่อความอยู่รอด จะเห็นได้ว่าความเชื่อนี้เป็นการปลูกฝังเรื่องที่ดีให้กับลูกหลาน ให้มีความรักพื้นป่า ให้ช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยุ่ต่อไป ถ้าทำดีก็จะได้ดี ทำชั่วก็จะได้ชั่วเพราะ “ผีโป๊กกะโหล้ง” คอยเฝ้าดูผู้คนอยู่
ที่มาข้อมูล