ถ้าใครที่ต้องไปหาของหรือจะไปท่องเที่ยวที่ป่า ถ้าท่านได้ยินเสียง “กองกอย กองกอย” ให้เตรียมใจไว้ได้เลยว่านั้นคือเสียงของ “ผีกองกอย” มีตำนานของพวกมันในพื้นที่ภาคอีสานไปจนถึงพื้นที่แถบฝั่งประเทศลาว แต่ละพื้นที่ก็มีคำเล่าขานถึงประวัติของพวกมันแตกต่างกันออกไป และเราได้รวบรวมข้อมูลของตำนานผีกองกอยมาฝากกันไปดูกันว่าพวกมันเป็นผีอะไร
“ผีกองกอย” คือ ?
“ผีกองกอย” เป็นผีป่าประเภทหนึ่ง มักจะพบเจอพวกมันอยู่ทางภาคอีสาน และเคยได้ยินว่าทางเพื่อนบ้านของเราคือประเทศลาวนั้นก็ยังมีคนพบเห็นพวกมันอีกด้วย พวกมันจะอยุ่ในป่า มีลักษณะตัวเล็กสักหน่อย พวกมันมีขาเพียงข้างเดียวเท่านั้นเวลามันจะออกเดินไปไหนมาไหนจะอาศัยการกระโดด และพวกมันจะออกเสียงในเวลาโดดคือ “กองกอย กองกอย”
ลักษณะเด่น และถิ่นฐานของ “ผีกองกอย”
“ผีกองกอย” เป็นผีที่มีทั้งเพศชายและเพศหญิง พวกมันจะอาศัยอยู่สถานที่เย็นเช่น ถ้ำ ที่อยู่ภายในป่า ผู้เฒ่าผู้แก่ได้เคยเล่าให้ฟังรุ่นต่อรุ่นว่า วันหนึ่งมีชาวบ้านได้ไปในป่าเพื่อหาสมุนไพร เดินไปจนเจอถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในป่า เขาตัดสินใจเข้าไปสำรวจถ้ำนั้นและได้พบเห็นพวกมันอยุ่ในร่างของผู้หญิงซึ่งมีตัวค่อนข้างเล็กเส้นผมของพวกมันเป็นสีแดง
ลักษณะเท้าของมันจะกลับไปอยู่ด้านหลังผิดรูปไม่เหมือนเท้ามนุษย์คนธรรมดาทั่วไป ชาวบ้านผุ้นั้นที่ได้พบเห็นแน่ใจเลยว่าสิ่งทีเขาเห็นนั้นไม่ใช่คน สิ่งที่เห็นต้องเป็นผีกองกอยอย่างแน่นอน เขาตื่นตะหนกและกลัวเป็นอย่างมาก เขาร้องขอชีวิตไม่ให้ผีกองกอยกินเขา ผีกองกอยฟังแล้วคิดบอกให้เขาทำการสัญญาว่า เขาต้องมาเป็นสามีหล่อนก่อน ถ้าทำตามที่หล่อนบอก
เขาจะได้ ทรัพย์สมบัติต่างๆของหล่อนที่อยุ่ภายในถ้ำนี้ ทุกอย่างจะตกเป็นของเขาทั้งหมด เขาจึงถามว่าถ้ารับปากแล้วต้องทำอะไรบ้าง ผีกองกอยบอกว่าไม่ต้องทำอะไรมากแค่เพียงเป็นสามีอยู่เฝ้าถ้ำนี้ไว้ในเวลาที่หล่อนออกไปหากินก็เพียงเท่านั้น ชาวบ้านคนนั้นยอมตกลงเพราะกลัวตายด้วย ต้องเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้ไปก่อนค่อยหาวิธีหนีอีกที เขาอยู่กับผีกองกอยไปหลายวัน และได้สังเกตนิสัยของผีกองกอย
จึงได้พบว่าพวกมันจะทำอะไรที่ตรงข้ามกับคำพูดเสมอ เช่นถ้ามันบอกว่าจะออกไปหากิน มันจะไม่ไป ถ้าบอกว่าจะไปนาน หล่อนจะไปแปปเดียว ณ วันหนึ่งผีกองกอยได้บอกเขาว่าจะออกไปหากินข้างนอก หล่อนบอกจะไปไม่นานเดี๋ยวกลับ เขาก็ได้คิดว่าครั้งนี้หล่อนต้องออกไปนานอย่างแน่นอน เขาจึงคิดว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะหนี เขาได้เก็บทองใส่กระเป๋าและหนีออกจากถ้ำนั้นทันที
หลังจากที่ชาวบ้านคนนั้นหนีออกไปเพียงไม่นาน ผีกองกอยได้กลับมาที่ถ้ำหล่อนทำตามคำพูดที่ได้ให้ไว้ว่าไปไม่นาน ผีกองกอยไม่เห็นชายหนุ่มจึงได้ออกตามหาเขาทันที ผีกองกอยตามหาเขาจนทัน ชาวบ้านคนนั้นเห็นว่าผีกองกอยตามเขามาทัน เขาจึงได้คิดทำเป็นหมดแรงแกล้งล้ม นำส่วนศีรษะมุดเข้าไปที่โพลงดิน ผีกองกอยบอกให้เขากลับถ้ำ แต่เขาไม่กลับ
ผีกองกอยเห็นว่า เขาไม่มีท่าทีจะกลับแน่ หล่อนจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีที่พูดจาอ่อนหวาน และได้เสนอสิงต่างให้เขามากมาย หล่อนเห็นเขาไม่ตอบ ไม่กระดุกกระดิกตัวแข็ง หล่อนจึงใช้มือจี้ไปที่เอวที่ร่างของเขา เขาได้กลั้นทำตัวแข็งต่อไป ผีกองกอยได้นั่งเฝ้าอยู่เช่นนั้นจนหล่อนรู้สึกได้กลิ่นเหม็นๆออกมาจากร่างของชายคนนั้น หล่อนจึงคิดว่าสามีของเธอได้เสียชีวิตตายไปเสียแล้ว
หล่อนเสียใจเป็นอย่างมาก และได้นำร่างของเขาไปฝังและเอากระเป๋าที่ใส่ทองไว้ข้างตัวเขาและหล่อนก็ได้จากไป ชายหนุ่มจากที่ต้องทนทำเป็นคนตายเห็นผีกองกอยไปไกลแล้วเขาจึงได้ลุกขึ้นมาและกลับบ้าน นำเรื่องที่เขาได้ประสบพบเจอกับผีกองกอยไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟังอีกหลายคน ซึ่งปรากฏว่าชายหนุ่มในหมู่บ้านคนหนึ่งอิจฉาเขาที่ได้ทองมาง่ายๆ เขาจึงทำตามทุกอย่างที่ชายหนุ่มคนแรกได้ทำ
เขาได้เดินเข้าไปในป่าจนได้พบผีกองกอยสัญญาเป็นสามีหล่อนพอสบโอกาสก็ได้ขนทองหนีเหมือนกันแต่พอหล่อนตามเขาออกมาจากถ้ำ เขาก็ได้แกล้งล้มเอาหัว มุดไปที่โพลงดินเช่นกัน แต่จังหวะที่เขาต้องแกล้งตาย ผีกองกอยจี้ไปที่เอวของชายหนุ่มแต่เขาทนไม่ไหวได้หลุดขำออกมา ผีกองกอยเห็นว่าชายผู้นี้เป็นคนโลภมาหลอกเธอจึงได้กินตับไตไส้พุงจนหมดเขาเสียชีวิตไม่ได้กลับเข้ามาที่หมู่บ้านอีกเลย
ยังมีประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศที่เคยพบเห็นผีที่มีลักษณะเช่นผีกองกอยบ้านเรานี้ ไม่ว่าคนประเทศไหนที่จะต้องพบเจอกับพวกมันถือว่าเขาเป็นคนที่โชคร้าย ดวงตก ต้องมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย จิตตก คงไม่มีใครอยากจะพบเจอกับพวกมัน “ผีกองกอย” หรอกจริงมั้ย?
ที่มาข้อมูล