ตำนาน “ดงละคร” เมืองลับแล แห่ง จ.นครนายก

หัวข้อในบทความผี

ตำนาน ดงละคร

ในป่าลึกจะมีโบราณสถานอยู่บริเวณนั้น ณ ตำบลดงละคร จังหวัดนครนายก ในวันพระ วันถือศีล ณ ที่ ชายป่า ภูเขาหรือตีนเขา ใครก็ตามที่ไม่กลัวผีมีจิตที่มั่นคง ขอท้าพนันให้ไปบริเวณนั้นในช่วงเวลากลางคืนท่านจะได้พบกับสิ่งลี้ลับอย่างคาดไม่ถึง ท่านจะได้ยินเสียงของลูกเด็กเล็กแดง ผู้หญิง ผู้ชาย พูดคุยกันให้สนั่นป่า หรือไม่ก็อาจได้ยินเสียงมโหรีปี่ แตร อาจได้กลิ่นดอกไม้ลอยลงมาจากภูเขา

เพราะบรรดานางฟ้าหรือผีบังบด คนธรรพ์ พวกเขาเก็บดอกไม้บูชาพระกัน เรื่องแบบนี้คุณเชื่อหรือเปล่าเพราะไม่มีวิทยาศาสตร์สาขาไหนที่จะพิสูจน์เรื่องราวเล่านี้ได้เลย แต่สถานที่นี้ชาวบ้านมักจะรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าสถานที่นี้คือเมืองลับแล เมืองผีบังบด ที่นี้จะเป็นสถานที่ของผู้ที่มีกายเป็นทิพย์ประเภทหนึ่งอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ พวกเขาจะมีรูปลักษณ์การแต่งกายเหมือนกับมนุษย์ทุกอย่างเพียงแต่ไม่มีร่างกาย

ตำนาน “ดงละคร” เมืองลับแล แห่ง จ.นครนายก 1

พวกเขาอาศัยร่วมโลกเดียวกันกับพวกเราที่เป็นมนุษย์ เมืองดงละคร ถือว่าเป็นมิติททับซ้อน ถามว่าพวกเขามีกิจกรรมอย่างไรกันบ้างก็บอกได้เลยว่า พวกเขาก็มีกิจกรรมการดำรงชีวิตเหมือนพวกเรา พวกเขามีการเลี้ยงสัตว์และการทำไร่ไถ่นา พวกเชาทำการเกษตร ทำงานหัตถกรรม เหมือนกับมนุษย์แต่ทำไปตามแรงแห่งกรรม ไม่ได้มีผลผลิตอะไรออกมา ตัวอย่างเช่นถ้าเขาทำนา เลี้ยงวัว ก็จะทำอยู่แบบนั้นมาตลอด

พวกเขาไม่ได้เป็นเทวดาที่หลายคนเข้ามาว่าสถิตอยู่ตามต้นไม้ มีลักษณะการดำรงอยู่ดีกินดีกว่าจำพวกเปรต ความเป็นอยู่พวกเขาจะไม่ดีขึ้นหรือเลวลงจะคงที ชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้แถวนั้นมักจะได้ยินเสียงเพลง เสียงมโหรี่ปี่พาทย์ ได้ทำการบรรเลงในทุกคืนของวันพระ คิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่ประตูที่ทำการเชื่อมระหว่างมิติของทั้งสองภพได้ทำการเปิดออก จึงทำให้มีจุดที่ทำให้สองภพมาเจอกันได้

ความเป็นมา “เมืองดงละคร” 

ในยุคสมัยของท่านรัชกาลที่ 5 พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านทรงมีคำอธิบายไว้ว่า เมื่องดงละครแห่งนี้เป็นเมืองที่นางพญาของยุคนั้นสมัยโบราณได้สร้างเอาไว้ให้กับเหล่าทหารองครักษ์ ทางผู้รู้ในยุคนี้ได้มีการสันนิฐานกันไว้ว่าเมืองนี้เป็นเมืองโบราณที่มีชื่อว่าดงละคร ตำนานพื้นบ้านได้กล่าวไว้ว่าในคืนวันเพ็ญที่มีพระจันทร์เต็มดวง ชาวบ้านที่นั้นมักจะได้ยินเสียงปี่พาทย์แววมาตามลมแต่หาที่มาไม่ได้จึงได้เรียกเมืองนี้ว่าดงละคร

เมืองดงละคร ห่างจากตัวเมืองนครนายกเป็นระยะ 12 กิโลเมตร เมืองนี้ได้มีการค้นพบเป็นครั้งในปีพุทธศักราช 2515 และได้มีการคืบหน้าทำการขุดกันอีกจนได้เจอผังเมืองโบราณ ณ ปี พุทธศักราช 2531 พระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกมารีท่านได้มีพระราชดำริให้จัดตั้งผังเมืองโบราณดงละครขึ้นอย่างเป็นทางการ ในสมัย ณ ปัจจุบันนี้นั้นเอง เมืองดงละครเป็นสถานที่มีคนสนใจกันเป็นอย่างมาก

เพราะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ณ ริมคลองบ้านนา แห่งนครนายก ซากโบราณที่ขุดพบได้ในเมืองดงละครแห่งนี้คือกำแพงที่อยู่นอกเมืองจำนวน 2แห่ง และได้มีการคำนวณว่าน่าจะถูกจัดสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที 18 ในสถานที่แรกจะเป็นการขุดพ้นกำแพงแก้วแนวยาวและมีแท่นไว้สำหรับตั้งรูปเคารพ สถานที่สองเป็นการขุดพบโบราณวัตถุ จะเป็นเศียรพระพุทธรูปกาไหล่ เครื่องปั้นดินเผา อยู่ในสมัยทวารวดี

ตำนาน “ดงละคร” เมืองลับแล แห่ง จ.นครนายก 2

มีการขุดพบสถูปทรงกระบอกที่จัดสร้างขึ้นจากศิลาแลงซ้อนกันเป็นจำนวน 2 ชั้น และยังพบพระพุทธรูป แม่พิมพ์ เครื่องประดับ แก้ว แหวน กำไล ต่างหู ลูกปัด ในยุคของสมัยทราวดี และยังได้มีการขุดค้นพบกับบ่อน้ำทิพย์เป็นบ่อคอนกรีตมีความลึกบ่อมีความกว้าง 4 เมตร ซึ่งน้ำในบ่อนี้จะมีการตักไปใช้ในพิธีสำคัญๆต่างๆ และยังได้นำไปประกอบพิธีอภิเษกในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบหกรอบในปี พ.ศ. 2542

เมืองดงละคร จะมีขนาดชุมนุมไม่ใหญ่มากนัก ถูกปกครองโดยผู้หญิงขึ้นเป็นกษัตริย์ ขึ้นปกครอง ณ สถานที่นี้สลายหายไปเพราะโรคระบาด ส่วนที่เหลือก็มีย้ายออกจากเมืองไปก็มี และสถานที่นี้ได้ถูกบังบดด้วยอาคมและมนตรา ให้ผู้คนที่ตายในบริเวณนี้คอยปกป้องคอยเฝ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ชาวบ้านได้ยินเสียงปี่พาทย์ตะโพนในทุกวันขึ้น 15ค่ำ ของทุกเดือนหรือวันพระใหญ่ก็ยังมีการสักการะพระธาตุอยู่เช่นเคย

ตำนาน “ดงละคร” เมืองลับแล แห่ง จ.นครนายก 3

ประสบการณ์ลึกลับ : เมืองดงละคร

ชาวบ้านที่อยุ่บริเวณใกล้กับเมืองดงละครนั้น มีครอบครัวหนึ่งได้มีการกินเหล้านั่งพูดคุยกันอยู่ ทั้งสองคนนั้นระหว่างการนั่งกิน มีคนหนึ่งในจำนวนนี้ได้ปวดฉี่ พูดว่า “เฮ้ย เดี๋ยวกูเดินไปฉี่ตรงโน่นแถวๆนี้นะ” ส่วนอีกคนที่เป็นญาติกันก็ได้พูดว่า “อย่าเดินไปไกลนะ แถวนี้มันเมืองดงละคร เมืองลับแล เดี๋ยวมึงจะหลงสะป่าวๆ กูขี้เกียจไปหา” คนที่จะไปฉี่นั้นก็ได้พูดว่า “มึงก็รู้ กูอยู่ที่นี้มาตั้งแต่เกิด รู้หมดแล้วตรงไหนเป็นตรงไหน หลับตาเดินก็ไม่หลง”

เวลาผ่านไปสักพัก คนที่ไปฉี่ไม่เดินกลับมาสักที พวกเขาก็ได้ออกตามหาจริงๆ จะไปเจอก็ช่วงเช้าแล้วที่บริเวณต้นไทรใน เมืองดงละคร เขาได้พูดว่า “เมื่อคืนได้ไปดูลิเก สนุกมากเลย พระนางร้องดีมาก เล่นดีมากๆ” แสดงว่าเขาได้หลงเข้าไปในเมืองบังบด เมืองลับแลอย่างแน่นอนแต่ไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นได้หลงไปในสถานที่แห่งไหน แต่อย่างไรก็ดีเขายังได้กลับออกมาอย่างมีชีวิต

ที่มาข้อมูล

Teenee.com

เรื่องเล่าผีล่าสุด
Tag ผี
Annabelle (1) ข่าวผี (11) คำสาปบนดอยสูง (1) คืนพุธมุดผ้าห่ม (1) ตำนาน (122) ตำนานสยองขวัญทั่วโลก (1) ตำนานสยองทั่วโลก (2) ตึกร้างสยอง (1) ตุ๊กตาผี (1) น้ำตกไพรสวรรค์ (1) บูกี้แมน (1) บ้านร้างในประเทศไทย (1) ปราสาทผีสิง (1) ป่าผีเฮี้ยนของประเทศอังกฤษ (1) ผีกระสือ (1) ผีกระหัง (1) ผีญี่ปุ่น (2) ผีต่างประเทศ (61) ผีที่คนเจอบ่อยที่สุด (1) ผีอาเซียน (1) ผีฮานา (1) ภาพติดวิญญาณ (3) ภาพถ่ายติดวิญญาณ (3) มหาลัยสยองขวัญ (4) วิญญาณเฮี้ยนในจังหวัดตาก (1) วิธีการเห็นผี (1) ศุกร์ที่ 13 (1) สถานที่หลอน (48) สยองขวัญจากพันทิป (1) สไตล์การปรากฏตัวของผี (1) หนังผีไทย (1) ฮาจิซาคุ (1) เก้าอี้ผีสิง (1) เทเค เทเค (Take Take) (1) เรื่องผี (15) เรื่องเล่าผี (230) แฟรงเกนสไตน์ (1) โรงเรียนผี สุดหลอนของไทย (1) โรงเรียนหลอน (3) โรงแรมหลอน (2)